http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,957,095
Page Views16,263,403
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จอมโกง จอมภู ตอนที่1 จิ้งจกทัก โดยอินทรีดำ ลายเส้น-ปัณณิกา เปาอินทร์

จอมโกง จอมภู ตอนที่1 จิ้งจกทัก โดยอินทรีดำ ลายเส้น-ปัณณิกา เปาอินทร์

เพียงวลีเดียวที่พ่อสั่ง "มึงโกงหลวงได้"  มณีตั้งใจโกงทุกวิถีทาง

จอมโกงจอมภู ตอนที่ 1 จิ้งจกทัก

    

                                    
                                          
 

        ทันทีที่ได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอก อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน   มณีนึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ ทีกูบ้างละมึง ได้เป็นหัวหน้า ได้คุมเงินงบประมาณ ได้เป็นผู้เบิกจ่ายเงินด้วยตนเอง ใช่ ทุกคนก็ประพฤติปฏิบัติกันมานาน  แต่ต่อหน้าผู้บังคับบัญชาระดับหัวหน้าฝ่ายและผู้ช่วย มณีตีหน้านิ่งด้วยความระวังตน

ขอบคุณครับที่ให้โอกาสผมทำงาน มณีกราบด้วยความนอบน้อม

แล้วจะขึ้นไปเยี่ยม หัวหน้าพูดขึ้น  มองสบตามณีนิ่ง

มณีบันทึกขออนุมัติออกไปปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งโดยรถยนต์ปรับอากาศประจำทางกรุงเทพ-น่านตามสิทธิที่เบิกจ่ายได้ (ระดับ 5) ด้วยกระดาษคำสั่งแผ่นเดียว

มณีนั่งไปบนรถทัวร์แต่นอนไม่หลับแม้พยายามจะข่มตาให้หลับเพียงใดก็ตาม  ในใจคิดวายวุ่นไปกับบทบาทใหม่ที่ได้รับ  อยากจะคุยอวด อยากจะบอกให้คนทั้งรถรู้ว่า นี่คือหัวหน้าหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอกคนใหม่นะ  แต่เพื่อนร่วมเดินทางหลับกันสนิทอย่างมีความสุข มณีรู้สึกเก้อเขินเมื่อเหลือบไปเห็นสายตาเย็นชาที่มองมาด้วยความไม่เข้าใจ ไอ้หมอนี่ทำไมไม่หลับไม่นอน

เช้ามืดพอถึงสถานีขนส่งอำเภอเวียงสา มณีต้องลงรถเพื่อไปต่อรถคอกหมูซึ่งเป็นรถประจำทางสายเวียงสา-นาน้อย  มณีกะว่าจะลงที่กม.22.5 หน้าที่ตั้งหน่วยงานพอดี แต่ระหว่างทางรถวิ่งผ่านพื้นที่ภูเขาหัวโล้น บางช่วงเป็นสวนลำไย บางช่วงก็เป็นไร่ข้าวโพด แสงยามเช้าที่มีหมอกไล้ไปตามยอดไม้และหุบเขาสวยงามจับใจ และเป็นสวนสักป่าไม้ราคาแพง  แน่นอนมันเป็นสวนป่าของรัฐบาล สวนสักแม่สาลีก อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นหน่วยงานสังกัดป่าไม้เขตแพร่ มณีนึกได้ว่าเพื่อนชื่อประชาเป็นหัวหน้าสวนสักแม่สาลีก  จึงตัดสินใจลงรถแล้วเดินเข้าไปยังสำนักงาน 

มันต้องเม้าท์กันสักหน่อย รู้สึกอัดอั้นมาทั้งคืน มณีแบกเป้เดินกระหยิ่มยิ้มย่อง

ประชาเพื่อนร่วมรุ่นได้เป็นหัวหน้าสวนสักแม่สาลีกแห่งนี้มาหลายปีแล้ว บุรุษผู้มีบุคลิคคล้ายผู้ร้ายหนังจีนเพราะว่ามีขนคิ้วยาวมาก  รูปร่างขาวบาง และพูดเสียงดัง

                เฮ้ย ! หัวหน้าใหม่  เข้ามาเลยเพื่อน  กาแฟ 2 ที่

ประชาออกมาต้อนรับด้วยความดีใจเต็มใบหน้า พลางร้องสั่งแม่บ้าน

                สบายดีจังนะมึง  เฮ้ย ! ต้นสักเติบโตดีจังเลยนิ

มณีร้องตอบแล้ววางเป้ลงข้างๆตัวนั่งลงที่หน้าโต๊ะหัวหน้ามองกวาด
ไปรอบๆ หลายปีมาแล้วที่จากไป

                ที่นี่ปลูกป่าไม้สักอย่างเดียว สบาย ไม่ยาก มันตายยากแล้วก็โตเร็วมาก เป็นถิ่นกำเนิดไม้สักอยู่แล้วว่ะ  อ้าว! มึงเคยมาเป็นลูกจ้างชั่วคราวรายเดือนที่นี่ด้วยนี่หว่า 

ประชานึกได้จึงรู้สึกขำตัวเอง ที่เอามะพร้าวห้าวมาขายสวน 

                มาอยู่ที่นี่แต่ไปทำงานที่หน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอกด้วย  เออ ! นี่ใครจะมาหรือเห็นตั้งโต๊ะเรียบร้อย 

มณีเห็นความเปลี่ยนแปลงรอบตัว

                ใช่  ท่านป่าไม้เขตแพร่กำลังจะออกมาจากหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ผาเวียง ข้างบนโน่น  ว่าจะแวะร่ำลาผู้ใต้บังคับบัญชา  ท่านได้ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการกองจัดการที่ดินป่าสงวนแห่งชาติแทนผู้อำนวยการกองคนเก่าซึ่งได้ขยับขึ้นไปเป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้ไงอาจารย์มงคล ปราการไชยไงล่ะวะ  เฮ้ยๆมาพอดีเว้ย

                รถตู้ตรวจการณ์แลนด์โรเวอร์จอดพรืดหน้าสวนสัก  บุรุษสูงวัย สูงใหญ่สง่างามเดินลงมาพร้อมคุณนายและคณะประชาและมณีรีบลงไปไหว้ด้วยความนอบน้อม 

ท่านครับ  คนนี้ มณี บันลือ  เพื่อนผมครับ  เขากำลังจะมาเป็นหัวหน้าหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอก แทนคนเก่า 

ประชาแนะนำ พลางผายมือมาทางมณีๆ ยกมือไหว้อีกครั้ง แล้วเหวี่ยงมือมาไขว้กันที่หน้าเป้ากางเกงด้วยความสุภาพหลังจากไหว้หมดทั้งคณะแล้ว

                เออ  หน่วยงานปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอกที่คุณจะไปอยู่นี่นะ ผลงานเก่าไม่ค่อยดีเลย  รอดตายต่ำมาก  จำไว้นะ ต้นไม้ทุกต้นมันอยากมีชีวิต แต่เพราะว่าหัวหน้าสวนคนเก่าๆเขาปลูกแต่ไม่ค่อยดายวัชพืช  มันก็สู้ไม่ไหว  ต้นไม้ป่าต้นน้ำที่ปลูกๆกัน เป็นไม้กระยาเลยจำพวก ไม้ประดู่  ไม้แดง  ไม้มะม่วงป่า ไม้มะกอกป่า  ไม้มะค่าโมง  อีกหลายๆชนิดที่เขาปลูกกัน ซึ่งปกติก็มีอัตราการรอดตายต่ำ  เติบโตช้า และยิ่งการจัดการไม่ดีก็เลยยิ่งแย่ใหญ่ 

ท่านกล่าวพลางจ้องหน้ามณีเขม็งเหมือนจะบอกความเป็นนัยๆ ก็มันแดกกันหมด  มณีสบตาและสนองตอบด้วยคำว่าครับๆๆ 

                ประชาสรุปเนื้องานให้ผมหน่อยจะได้จดจำไว้เป็นอนุสรณ์ที่เคยมาเป็นป่าไม้เขตที่นี่  ผลงานร่วมกันของเรามีอะไรบ้าง 

ท่านหันไปหาประชาๆ รายงานสดพลางเดินนำ ท่านไปยังสวนสัก

ท่านครับ  ก่อนที่ท่านจะเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่ที่ต้องรับผิดชอบมิใช่เพียงแต่เขตจังหวัดแพร่-น่าน หากแต่ต้องรับผิดชอบการจัดการที่ดินป่าสงวนแห่งชาติทั้งประเทศ ซึ่งจากผลงานที่ท่านบัญชาการ ณ ที่นี่มีผลงานดังนี้ครับ

ท่านฟังประชาพูดด้วยรอยย้อมอิ่มใจ วาจาพาสบาย

                ตั้งแต่ ปี ..2513 จนถึงปีนี้ พ..2521  สวนสักแม่สาลีกปลูกป่าไม้สักอันเป็นไม้เศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ 12,000 ไร่  ปีงบประมาณ พ..2522 ที่ท่านวางแผนงานไว้ให้ จะปลูกป่าไม้สักเพิ่มอีก 1,000 ไร่  รวมเป็น 13,000 ไร่ ในจำนวนทั้งหมดนี้บางปีปลูกด้วยระยะ 2x2 เมตร 400 ต้น/ไร่ บางปีปลูก 3x3 เมตร 176 ต้น/ไร่ และปีสุดท้ายที่จะถึง ปลูกด้วยระยะ 4X4 เมตร 100 ต้น/ไร่  ด้วยเหตุผลทางการงบประมาณซึ่งมีฝ่ายการเมืองขอแปรญัติกันมากโดยอ้างเหตุผลเรื่องที่ทำกินของชาวบ้าน ดังนั้น การปลูกป่าไม้สักจึงมีหลายระยะปลูกดังกล่าวครับผม 

                อัตราการรอดตายเป็นยังไงบ้างคุณประชา 

ท่านว่าที่ ผู้อำนวยการกองถามขึ้น

                อัตราการรอดตาย 95 % ครับ เหตุผลคือ เราเตรียมพื้นที่ปลูกปลายหนาว ตากวัชพืชที่ถางและไม้เล็กไม้น้อยจนแห้ง แล้วเผาทีเดียวก็เก็บริบแล้วปักหลักหมายระยะปลูกได้  กล้าไม้สักที่เพาะลงแปลงก็ครบปีพอดี ตัดแต่งเหง้าพร้อมที่จะปลูก พอเข้าปลายแล้งต้นฝน ก็ปลูกด้วยชะแลงอัดเหง้าให้แน่น ได้ฝนอีกไม่กี่ห่าเหง้าที่ได้ขนาดก็ส่งลำต้นขึ้นสู่เหนือพื้นดินและพุ่งจนพ้นวัชพืชได้ดี

                แต่ถ้าไม่ถางวัชพืชอย่างกับหน่วยงานคุณมณีละก็  ไม่โตเท่าที่ควร เพราะว่าต้นสักต้องการแสงสว่างมาก  ช่วยให้ป่าไม้สักครอบคลุมพื้นที่ได้ในเวลาชั่ว 1 ปีถัดมาจากเพาะเมล็ดลงแปลง  คุณสมเพิ่ม  กิตตินันท์  นักวิชาการป่าไม้โท  ฝ่ายวนวัฒนวิทยา  กองบำรุง เขาเคยวิจัยเอาไว้เมื่อ พ..2506ว่า 

ต้นสักที่ขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ  กว่าจะรอดพ้นจากไฟป่าที่เผาไหม้จนตายปีแล้วปีเล่า ใช้เวลานานถึง 15 ปี  โดยจะสูง 1.28 เมตร

 ท่านผู้อำนวยการกล่าวเสริม  และเดินเข้าไปในแปลงเพาะกล้าไม้สัก ท่านยืนกวาดสายตาไปรอบๆเหมือนจะจดจำ ทุกสิ่งเอาไว้ในสมอง  แล้วก็หันกลับเข้าป่าสักอายุ 9 ปี เป็นสวนสักปี พ..2513  ท่านเดินไปยืนใต้ร่มเงาไม้แล้วลูบไล้ต้นสักไปพลางเหมือนจะร่ำลาด้วยความภาคภูมิใจในผลงาน

                เอาละ  ขอให้คุณกับคุณมณีทำงานเคียงกันไปให้สนุกนะ  อ้อ คุณมณีผมฝากอีกครั้ง  ต้นไม้ทุกต้นมันอยากมีชีวิตนะ  ผมลาละครับ

ประชาและมณียกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม  และมองตามขบวนที่จากไป

                  จิ้งจกทักเลยนะมึง  สวนมึงมันแย่จริงๆว่ะ  ปลูกป่าแต่ไม่มีต้นไม้ขึ้นเอาเสียเลย 

ประชาเสริมพลางมองหน้ามณีด้วยความเห็นใจ

             เย็นย่ำ  ประชาและมณีนั่งกินข้าวด้วยกันที่สนามหญ้าบนโต๊ะสนามแบบง่ายๆหน้าที่ทำการ  ประชาไม่กินเหล้า สูบแต่บุหรี่ ส่วนมณีเลิกกินเหล้าแล้ว และไม่สูบบุหรี่ กับข้าวแบบง่ายๆจึงเป็นความอร่อยที่พอเพียง 

                ที่หน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอก มีหัวหน้ามาหลายคนแล้ว  แต่ละคนก็ไม่ค่อยอยู่หน่วยกันนัก  มาก็ตอนเงินเดือนคนงานออก จ่ายเงินแล้วก็อยู่ตรวจงานกันไม่กี่วัน  สบายฉิบหาย  งบประมาณก็เยอะ กูยังอยากไปอยู่บ้างเลยว่ะ 

ประชาคุยให้ฟัง

                เมื่อตอนกูมาเป็นลูกจ้างที่หน่วยนี้ก็เห็นอยู่  ปลูกไม้กระยาเลยมันโตช้าไม่ทันวัชพืชหรอก แต่กติกาของการอนุรักษ์ต้นน้ำ บังคับให้ปลูก ถ้าให้ปลูกไม้สักอย่างสวนสักป่านนี้ก็คงเต็มป่าไปหมดแล้วเพราะว่ามันเป็นถิ่นกำเนิดไม้สักอยู่แล้ว  ผลงานก็จะเห็นได้เร็วและชัดเจน  ไฟไหม้ก็ไม่ตาย  แตกหน่อจากเหง้าได้ใหม่ แม่งโคตรทนไฟเลย   

                แล้วมึงจะทำยังไง  กูเหนื่อยแทนมึงจัง

ประชากล่าวด้วยเสียงที่เป็นห่วงมากๆ

                ก็ยังไม่รู้ ต้องเข้าไปดูงานพรุ่งนี้ก่อน  นัดพี่เขามอบงานพรุ่งนี้  เห็นว่าแกขี้เมามาก  จริงไหม?

มณีย้อนถามประชาดู

                จริง  เมา ! ”

ประชาตอบแล้วมองหน้า หัวเราะหึๆ

             คืนนั้น มณีนอนคุยกับประชาถึงความหลังเมื่อครั้งเคยไปเป็นลูกจ้างที่สวนสักปางต้นผึ้ง อุตรดิตถ์และประชาอยู่ที่สวนสักห้วยไร่ แพร่  ห่างกันเพียงสถานีรถไฟสถานีเดียวแต่คนละจังหวัด จนดึกดื่น  ประชาหลับไปนาน แต่มณียังนอนสะดุ้งอยู่ในใจ  พลันก็นึกถึงวันก่อนการเดินทางมารับมอบงาน

                ดีใจและเสียใจด้วยมณี

สังวร  เพื่อนร่วมรุ่นที่เป็นหัวหน่วยปรับปรุงต้นน้ำแม่กวง เชียงใหม่จับมือบีบแน่น  มณีมองงง ยิ้มแห้งๆ

                ดีใจที่มึงได้เป็นหัวหน้าหน่วยกับเขาเสียที  แต่เสียใจที่มึงต้องไปรับงานหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอก

มณีมองหน้าอีก

                เพราะว่าหน่วยงานนี้ขึ้นชื่อลือชาเรื่องผลงาน  ไม่รู้กี่หัวหน้า  ผลงานก็ไม่เด่นสักคน มึงไปรับงานก็จะรู้เอง

สังวรกล่าวด้วยแววตาห่วงใย

                เลือกไม่ได้นี่  กองให้ไปไหนก็ไปทั้งนั้นแหละ

มณีตอบเสียงเนือยๆ  แววตากังวลไม่น้อย 

ถ้ากูไปอยู่แล้ว  ไม่ดังก็ดับ ช่างมันเถอะวะ เฮ้ย ! ขอบใจนะเพื่อน

                มณีตื่นแต่เช้าอากาศเดือนตุลาคมเริ่มเย็น  กินกาแฟไปพลางก็มองไอหมอกที่อ้อยอิ่งอยู่ยอดไม้  ประชาขับรถไปส่งที่หน่วย  ระหว่างทางที่คดเคี้ยว มณีสอดส่ายสายตาไปบนเทือกเขา ไม้ไผ่ขึ้นหนาแน่นมาก ผ่านไปนับกิโลเมตรก็ยังไม่เห็นร่องรอยสวนป่าเลยจนเกือบถึงหน่วยงาน มีต้นไม้ขึ้นเป็นแถวเป็นแนวบ้าง มณีเริ่มจำได้ว่าเมื่อครั้งมาเป็นลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน เพราะว่ากรมป่าไม้ไม่มีตำแหน่งให้สอบบรรจุ เคยมาดายวัชพืชตรงไหนบ้าง  และสวนป่าแปลงนั้นปลูกด้วยต้นอะไร

มณีแสดงตัวว่าเป็นหัวหน้าคนใหม่ เด็กสาวชื่อทองม้วนเป็นแม่บ้านของหน่วยซึ่งได้รับคำสั่งจากพี่หัวหน้าคนเก่าแล้วจัดการพามณีไปยังห้องที่เตรียมไว้  ประชาลากลับไปสวนสัก  มณีเดินดูตัวที่ทำการซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ สภาพโทรมแบบไม่ได้ผ่านการทาสีมาเลย  ห้องน้ำชั้นบนมีโอ่งเก่าๆใบหนึ่ง น้ำแห้งขอด มีขันน้ำพลาสติกเก่าๆอยู่ข้างใน  พื้นค่อนข้างสกปรก  มณีเดินลงมาชั้นล่าง ห้องน้ำมีน้ำเต็มโอ่ง พื้นปูนขัดเรียบ แต่ยักใยเกาะเต็มไปทั่ว

ทองม้วนชงกาแฟและน้ำชามาบริการ  มณีนั่งมองแผนที่สวนป่าที่วาดหยาบๆ จึงนึกภาพออกว่าที่ผ่านมาจากสวนสักแม่สาลีก แปลงไหนเป็นสวนป่าปี พ..ใด  มณีเดินออกไปที่เรือนเพาะชำกล้าไม้  วิเชียรมาแนะนำตัวเองว่าเป็นหัวหน้าคนงานเรือนเพาะชำ แล้วพาเดินดูจนทั่วเรือนเพาะชำกล้าไม้ คนงาน 8 คนที่ทำงานอยู่มองด้วยความสนใจ  มณีก้าวขึ้นบันได   ขึ้นไปบนบ้านพักคนงานสี่ห้องนอน เดินดูไปตามระเบียงแล้วเดินลง

ต่อมาเดินไปดูบ้านพักคนงานซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของลำห้วยสามสบที่แห้งขอด มีร่องรอยการขุดบ่อในห้วยเพื่อหาน้ำใช้   มณีเห็นศาลเจ้าริมดอยจึงแวะขึ้นไปกราบด้วยความเคารพ  แม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าเจ้าพ่ออะไรสิงสถิต แต่ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ 

            

                                        ต้นไม้ทุกต้นมันอยากมีชีวิต


















  

Tags : นวนิยาย ชาวป่า

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view