http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,001,104
Page Views16,309,816
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จอมโกง จอมภู ตอนที่9 อรุณรุ่งที่ภูพยับหมอก โดยอินทรีดำ ลายเส้น-ปัณณิกา เปาอินทร์

จอมโกง จอมภู ตอนที่9 อรุณรุ่งที่ภูพยับหมอก  โดยอินทรีดำ ลายเส้น-ปัณณิกา เปาอินทร์

                                                                
ตอนที่9 อรุณรุ่งที่ภูพยับหมอก

โดย อินทรีดำ  ลายเส้น ปัณณิกา เปาอินทร์ 



                                                               

          แผนการสร้างหมู่บ้านถูกทักท้วงด้วยเหตุผลต่างๆ นานามากมาย   มณีกับประเสริฐปรึกษาหารือกันด้วยความเครียด ที่หนักมากคือเรื่องงบประมาณที่ไม่มีเพิ่มเป็นพิเศษ  ผังที่ประเสริฐทำไว้ติดที่ผนังที่ทำการอย่างสวยงาม  มณีเดินดูแล้วดูอีกด้วยความหมกมุ่น กัดฟันแน่นด้วยอาการเกร็ง แววตาหมองๆ

มันคือความหมายที่ยากจะหาคำตอบ  ถ้าต้องทำนั่นหมายถึงเงินงบประมาณที่อาจเหลือจากการทำงานปกติ หมดไปแน่ๆ ไม่มีเงินหมุนเข้ากระเป๋าเหมือนคนอื่นๆ เขา หรือถ้ามีก็คงเหลือน้อยเต็มที มณีว้าวุ่นใจ ห่วงครอบครัวก็ห่วง แต่ห่วงเพื่อนร่วมงานก็ยากจะทำใจ

          เจ้านายเขาไม่ค่อยเห็นด้วย  ผลงานปลูกป่าเดิมที่นี่ก็ไม่ดีมาตลอด  งบประมาณก็ไม่ได้มากเป็นพิเศษอย่างโครงการหลวง ทางเชียงใหม่ เชียงราย ถ้าจะทำก็คงต้องคุยกับชาวบ้านว่า จะช่วยกันทำไหม เพราะว่ามันคือบ้านของเขาและลูกๆ  แต่ถ้าไม่ทำ เขาเหล่านี้ก็คือขุมกำลังในการทำงานสำคัญของเรา

มณีปรารภด้วยความวาดหวัง  แต่ก็คิดในใจ

ไม่ทำก็ดีเหมือนกัน เผื่อเงินจะเหลือเข้ากระเป๋ามากหน่อย

มณีลังเลและยังอดนึกถึงตัวเลขไม่ได้

          ผมว่า ทำได้นะครับ  คนงานในที่มีอยู่ก็ให้ไพหญ้าคาสำหรับมุงหลังคาบ้านไปเรื่อยๆ  ให้ชาวบ้านเขาไปหาตัดไม้กันเอง คนแก่ๆ ที่สานไม้ไผ่เฮียะลายสองเป็นก็ให้ค่อยๆ ทำไปเพื่อใช้ทำฝาบ้าน  เราคงออกแค่ตะปู ลวด  แรงงานเราก็ลงแขกทุกคืนจนกว่าจะเสร็จ ทุกครอบครัวก็คงเอาด้วย

ประเสริฐพยายามเสนอ มณีนิ่งคิดวกวนในใจ เอา- ไม่เอา  ไม่เอา- เอา ทีท่าครุ่นคิดหนัก

          เอาอย่างนี้แล้วกัน พรุ่งนี้นัดชาวบ้านมาคุยกันอีกที ถ้าเขาเอาเราก็เอา

มณีสรุป ประเสริฐพยักหน้ารับ 

          เฮ้ย! เครียดว่ะ เข้าเมืองกันเถอะ

มณีชวน  ประเสริฐยิ้มดีใจ และแล้วพี่น้องสองศรีก็บึ่งรถเข้าเมืองน่านด้วยความตื่นเต้น  ระยะทาง 50 กิโลเมตรเหมือนใกล้  ชั่วโมงกว่าๆ รถก็จอดที่หน้าไนท์คลับซึ่งกำลังบรรเลงเพลงจังหวะด้วยความสนุกสนาน  พูดถึงไนท์คลับที่มณีกำลังจะเข้าไป ถ้าฟังแค่ชื่อโคตรโก้  แต่ความเป็นจริง มันคืออาคารชั้นเดียวที่กรุฝาด้วยไม้อัดบางๆ  แต่งแต้มด้วยสีสันยามราตรี  แต่มีแอร์เย็นฉ่ำและเพื่อนสาวหนาตาเป็นคู่เต้น

มณีเดินนำหน้าเข้าไป เด็กเฝ้าประตูยิ้มเดินมาไหว้ตูดโก่ง  พาร์ทเน่อร์สาวคู่เต้นประจำถลามาตามคำสั่งหัวหน้าพาร์ทเนอร์ สาวๆ ไหว้ด้วยความขอบคุณที่ได้นั่งชั่วโมงเสียที เหล้าสำหรับประเสริฐ กาแฟร้อนสำหรับมณี ต้มยำทะเลรวมสำหรับประเสริฐ ผลไม้รวมจานใหญ่วางแปะสำหรับมณี ขาประจำก็มีคนรู้ใจอย่างนี้แหละ

          ประเสริฐตามสบายนะ  อยากเต้นก็ออกได้เลยไม่ต้องเกร็ง  งานหนัก เหนื่อย เครียด มันต้องผ่อนคลายบ้าง

มณีพูดจบก็จูงมือคู่เต้นออกไปวาดลวดลายด้วยลีลาสนุกตามประสาคนห่างบ้าน และต้องฝังตัวอยู่แต่ในป่าเปลี่ยว 

บาร์เลิก สองพี่น้องไม่เหงาใจอีกต่อไป เพราะว่ามีคู่คุยตลอดคืน 

เฮ้ย ประเสริฐใส่เกราะด้วยนะโว๊ย

มณีโยนเกราะให้ประเสริฐกล่องหนึ่ง 

เช้ามืดมณีตีรถกลับด้วยความสดชื่น ประเสริฐเอนๆ หลับตาพิงเบาะสบายๆ เหล้ากว่าแบนเพิ่มความหนักอึ้งให้ไม่ใช่น้อย  ถึงหน่วย งานเริ่มขึ้นเหมือนปกติ ใช่แล้ว เที่ยวได้ก็ต้องทำงานได้

          มณีเดินไปดูบ้านพักคนงานอีกครั้ง  ประเสริฐเดินตามติดๆ  แล้วสิ่งที่ไม่คาดว่าจะเจอก็เจอ 

          มึงจะเอายังไงกับกู  กูทำงานเหนื่อย กูก็ต้องกินเหล้าบ้างซี  มึงอย่าหาเรื่องกวนใจกูอีกนะมึง ไอ้น้อยตะโกนเต็มเสียง พลางชูขวดเหล้าชี้หน้าเมีย นางแรม ด้วยความโกรธ 

          หัวหน้าจ๋า หัวหน้าแวะหน่อยเถอะจ้ะ

นางแรมร้องเรียกทันทีที่เห็นหัวหน้ากับผู้ช่วยเดินมาพอดี 

มันกินแต่เหล้า หมดไป 2 ขวดแล้วจ้ะ มันกินจนข้าวจะไม่มีกิน ช่วยฉันด้วยเถอะ

          ไอ้น้อยมองด้วยสายตาขุ่นขวางสุดเหนี่ยว ชูขวดกวาดไปกวาดมาพลางก็ตะโกนขึ้นมาดังลั่น

          ฮ้ายหัวหน้าหัวเน่า ผู้ช่วย สองเกลอมาเลย ขึ้นมาบนบ้านผมเลย ผมเลี้ยงคร๊าบ

ไอ้น้อยพยายามจะลุกขึ้น แต่แล้วก็ล้มลงไป เหล้าไหลออกจากขวด มันรีบตะครุบทันควัน บ้านไอ้น้อย มณีมองด้วยความกังวล ไม่แน่ใจว่ามันเป็นบ้านที่คนอยู่อาศัยแน่หรือ มันโย้เย้จะพังมิพังแหล่ มณีกับประเสริฐเดินขึ้นไปบน บ้านแล้วนั่งลงใกล้ๆ ไอ้น้อย นางแรมรี่เข้ามาฟ้องยิกๆ

          หัวหน้า ดูหน้าฉันซี ตาเขียวไปข้างหนึ่ง เพราะว่าฉันเอาเหล้าไปซ่อน มันซ้อมฉันจ้ะ

พลางก็ยื่นหน้าที่ตาข้างหนึ่งเขียวปี๋ให้ดู  มณีมองด้วยความหงุดหงิด แล้วกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แล้วหันไปหานายน้อยด้วยสายตาแข็งกร้าว

          น้อย  ไม่ทำงานมากี่วันแล้ว

          “5 วันคร๊าบ แต่เดือนนี้เงินผมทำงานพอหักหนี้สวัสดิการคร๊าบ

สติยังดีที่จำได้

          ฉันว่าจะเลิกกับมันแล้วหัวหน้า มันทำงานได้ก็กินแต่เหล้าแทงแต่หวย เดือนๆ ฉันใช้แต่เงินฉันเลี้ยงลูกและผัว มันนี่แหละ

นางแรมใส่เพิ่มเติมด้วยความรู้สึกที่เก็บกด  มณีมองดูแล้วไม่มีทางหยุดได้แน่นอน ยังไงเสียวันนี้ก็ต้องเมาวันยังค่ำ จนกว่าเหล้าจะหมด

          มะน้อย  เทเหล้ามา เฮ้ยเทให้เต็มๆ แก้วเลยซิวะ

มณีพูดขึ้น ไอ้น้อยเทเหล้าใส่จนเต็มแก้วที่มีแต่คราบขี้มือ

          เอ้า ! หัวหน้า ดวลกับผมหน่อย

มณีรับแก้วเหล้าเต็มๆมาแตะริมฝีกปากนิดหนึ่งแล้วส่งให้ประเสริฐ ประเสริฐเบะหน้าด้วยความฉุนของเหล้าขาว แต่ยกเทพรวดเดียวหมด

          น้อย ทีนี้ตาน้อยแล้ว เต็มๆ แก้วซิ

มณีร้องสั่ง น้อยยกเทลงคอพรวดเดียวหมดแก้ว มณียุให้เทอีก น้อยเทเหล้าเต็มแก้วเป็นแก้วสุดท้าย

น้อยกินต่อเลย เมื่อกี้หัวหน้ากับผู้ช่วยยกแล้ว ถึงทีน้อยบ้างแล้วมณีกดดันน้อยต่อ

          ได้เลย ใครจะคอแข็งเท่าผม ทั้งภูนี่ท้าได้เลย!”

พูดจบก็กระดกแก้ว แต่ยังไม่ทันได้วางแก้ว ไอ้น้อยก็ล้มตึงนอนหงายเก๋งไม่เป็นท่า  นางแรมเดินมาใกล้แล้วยกขวดเหล้าและแก้วจะไปเก็บ พอจับขวดได้ก็เงื้อขึ้นสุดแขน ทำท่าจะหวดไอ้น้อยที่นอนผ้าผ่อนหลุดไม่ได้สติ  มณีตะโกนดังด้วยความตกใจ

          อย่าแรม ! อย่า !”

ประเสริฐไวกว่ากระโดดลุกขึ้นไปจับมือแรมไว้ได้

          เจ็บใจ มันเมาแล้วก็ซ้อมฉันทุกที

ร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน

          มณีกับประเสริฐเดินลงกระต๊อบไอ้น้อยด้วยความระมัดระวัง  กลัวบันไดบ้านมันล้มครืนลงไปด้วย  เห็นแล้วมณีก็อดสะท้อนใจไม่ได้

          พี่ว่าต้องสร้างบ้านใหม่ให้เขาอยู่กันแล้วละ สภาพมันดูไม่ได้เลย

สองพี่น้องกวาดสายตาไปรอบๆ บ้านพักคนงานด้วยความรู้สึกเดียวกัน

          แต่พี่ว่าคงต้องแก้ไขเรื่องเมา และทำงานน้อยใช้เงินมากด้วย ไม่งั้นหนี้ท่วม

ประเสริฐรับคำ

          คืนนี้ ประชุม ทุ่มหนึ่งนะครับประเสริฐเสนอขึ้น

           ชาวบ้านเดินกันมาด้วยความสนใจ แต่มีอีกกลุ่มหนึ่งได้ที่มาแล้ว พอมาถึงก็ตะโกนเสียงดัง

          จะประชุมอะไรกันนักหนา  ทำงานมาเหนื่อยจะตาย  มืดๆ จะนอนพักผ่อนสักหน่อยก็เรียกประชุมๆๆ

          ใช่ !  คราวนี้เรื่องอะไรอีกล่ะ คร๊าบ

อีกคนหนึ่งตะโกนแข่ง  มณีมองด้วยความสงสาร

          สวัสดีครับ

มณีตะเบ็งเสียงให้ดังที่สุด เพราะว่าชาวบ้านมากันหมด ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ แม้กระทั่งคนเฒ่าคนแก่ ไม่มาได้ไง หลังประชุมเสร็จมีหนังกระด้างให้ดูสนุกๆ ทุกที

          ที่เชิญมาประชุมวันนี้ ก็เพราะว่าเมื่อบ่ายนี้ผมเดินไปในบ้านพักคนงาน แล้วพบว่านายน้อย น้อยมาไหม?” 

มณีเหลียวมองจนรอบแต่ไม่เห็นเงา

          มันยังนอนหลับเค้เก้อยู่ที่กระต๊อบของมันแหละครับคนหนึ่งตะโกนตอบแทน

          ผมรู้สึกสะเทือนใจมาก ผัวเมา เมียเจ็บ เพราะว่าโดนซ้อม หนี้สินท่วม เสื้อผ้าแทบไม่มีพันกาย ยิ่งตอนหนาวๆ ยิ่งแย่มาก เห็นแล้วผมและผู้ช่วยไม่สบายใจ บ้านของน้อยและของพวกเราอีกค่อนหมู่ ก็เหมือนเล้าไก่ซะมากกว่า แทบเรียกว่าบ้านไม่ได้เลย

มณีหยุดนิ่งกลืนก้อนสะอื้น น้ำตารื้นขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เสียงสั่นเครือด้วยอารมณ์สะเทือนใจ

          ก็อย่างที่เคยคุยกันมาแล้ว เราจะสร้างหมู่บ้านใหม่ มีถนน มีโรงเรียน มีสระน้ำไว้ใช้สอย มีปลาไว้กิน ปลูกผักหญ้าได้ทั้งปี มีไฟฟ้าจากเครื่องยันม่าร์เก่า มีที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน และจะมีกระทั่งวัด ให้ได้ ผมเสนอเจ้านายที่มาติดตามงาน แต่ท่านไม่เห็นด้วยเพราะว่า ไม่รู้จะเอาเงินก้อนไหนมาทำ มันไม่มีอยู่ในแผนงานปลูกป่าปรับปรุงต้นน้ำ แต่ถ้างานนี้ไม่มีพี่น้องอยู่ทำงานให้ ก็ทำไม่ได้ ผมรู้สึกว่าราชการเป็นหนี้บุญคุณพวกเราทุกคนที่เหนื่อย ใครจะร่วมกันพัฒนาหมู่บ้านตามแผนที่ผมกับผู้ช่วยวาดเอาไว้ไหม

เสียงตบมือเกรียวพร้อมตะโกนด้วยความมั่นใจ

เอาๆๆๆ

          แต่ในการเอาๆๆ ของทุกคนนี่ ต้องฟังก่อนนะว่า ผู้ช่วยประเสริฐจะคุยอะไรให้กับพวกท่านฟังก่อนตัดสินใจให้เด็ดขาดอีกครั้ง  เมื่อฟังเข้าใจแล้วถ้าตกลง  ถอยไม่ได้  ขอเชิญผู้ช่วยครับ

          เสียงผู้ช่วยอธิบายแผนการให้ชาวบ้านฟังด้วยความละเอียด มีเสียงโต้-ถามและมีเสียงขัดแย้งกันเอง แต่ในที่สุดก็เข้าใจกันได้ว่า

นี่คือหมู่บ้านในฝันของพวกเรา เป็นหมู่บ้านที่เราจะช่วยกันสร้างขึ้นเพื่อพวกเรา โดยพวกเรา  ไม่มีใครลงมาช่วยพวกเราได้หากพวกเราไม่ช่วยตนเอง

ผู้ช่วยประเสริฐสรุป  เสียงโห่หิ้วอึงมี่  เป็นสัญญาณประหนึ่งสัญญาใจ แต่ไม่มีใครจับมือใครเหมือนในหนังฝรั่งสักคน มณียิ้มหันไปสบตาประเสริฐด้วยความสุข สิ่งที่นำเสนอไม่มีใครปฏิเสธ

มันอาจจะเป็นความหวังของคนที่เร่ร่อนถางไร่ทำกินไปหลายขุนเขา และเริ่มอยากที่จะลงหลักปักฐานโดยมีอาชีพรับจ้างปลูกป่าต้นน้ำที่มั่นคง มีรายได้ทุกวันที่ทำงาน  มีเงินซื้อข้าวของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มให้กับลูกเมียได้  แต่คราวนี้ เมื่อกำลังจะมีที่ดินไว้สร้างบ้านอยู่อาศัย มีที่ดินให้ลูกๆ อีกคนละแปลง มีที่ดินทำกินทำไร่ทำสวน มีที่นาที่หัวหน้าจะใช้แรงงานหลวงขุดแจกชาวบ้าน มีปลาในสระน้ำให้ตก และมีน้ำมีไฟฟ้าใช้เหมือนอย่างหมู่บ้านอื่นๆ เขาบ้าง 

มณีลุกขึ้นไปสรุปด้วยคำถามเรียงตัว

ลุงชุ่มอยู่มานานที่สุด ลุงชุ่มจะปักหลักที่นี่ไหมครับ?”

ลงครับ ถ้าจะตายก็ขอตายที่บ้านนี้เลย

ลุงชุ่มขานรับด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น

ลุงเขียน เฒ่าพอๆ กับลุงชุ่มล่ะ จะไปตายที่อื่นหรือจะตายที่นี่?”

มณีถามแล้วมองหน้าหัวเราะๆ หลายคนหัวเราะตาม

เพื่อนชุ่มจะตายที่นี่ ผมจะทิ้งมันไปตายที่ไหนได้ล่ะครับ เพื่อนซี้เลยครับ

สิ้นเสียงลุงเขียน เสียงหัวเราะดังครืนใหญ่ ลุงชุ่มปรี่เข้ามาจับมือลุงเขียน เขย่ากันแรงสุดๆ

ให้มันได้อย่างนี้ซิเพื่อน ลุงชุ่มเขย่ามือไปก็พูดไป

ลุงนวล อยู่ยามหรือมาด้วย

มณีร้องหา เสียงใสๆ ของลุงนวล ตอบมาเป็นซอ

เพื่อนกินเพื่อนกัน จะไปตายด้วยกันแล้วลืมฉันหรือนี่ ฉันจะตามไปหาเหล้ากับเจ้าทั้งสอง จะไม่ให้หม่นให้หมองแม้ในเมืองผี

                                

                                                                               ภาพฝันอันเลือนลางของภูพยับหมอก   
               สิ้นเสียงลุงนวลก็ฮากันท้องคัดท้องแข็ง ยิ่งเมื่อลุงนวลกระโดดออกไปจับมือกันเป็นสามเกลอด้วยแล้ว เพิ่มความสนุกสนานยิ่งนัก มณีพูดตบท้าย

ประเสริฐเก็บหนัง มีตลกคาเฟ่แล้วเลิกๆๆ

เท่านั้นเองเด็กๆ กรูกันไปล้อมประเสริฐแล้วดึงจอหนังช่วยกันตั้งทันที เสียงหัวเราะยังดังไม่ขาดจนเมื่อไฟปิดและทุกคนเริ่มเลิกคุยกัน หนังกระด้างเด้งขึ้นจอซึ่งแท้ที่จริงคือสไลด์ เป็นภาพนิ่งที่ผ่านเครื่องฉายไปยังจอสีขาว  หนังกระด้างเรียกเสียงหัวเราะได้ทุกครั้งที่ภาพปรากฏ

 

ไม่ทำก็ดีเหมือนกัน เผื่อเงินจะเหลือเข้ากระเป๋ามากหน่อย

 

Tags : foresterlife9

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view