http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,956,839
Page Views16,263,140
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จอมโกงจอมภู ตอน 13 โรงผึ่งเมล็ดไม้

จอมโกงจอมภู ตอน 13 โรงผึ่งเมล็ดไม้

ตอน  ตอน 13 โรงผึ่งเมล็ดไม้  

 

การสร้างหมู่บ้านในฝันใกล้ความเป็นจริงเข้ามาทุกขณะ  บ้านหลังสุดท้ายที่สร้างได้ช้าที่สุดคือบ้านลุงพุฒ เพราะว่ามีแรงงานเพียงแรงเดียว  ลุงพุฒไม่เคยปริปาก แต่ทุกวันที่เลิกงานจะเดินเข้าป่า ไปตัดไม้ไผ่บ้าง ไม้เสาขนาดโต 2 กำ(สองคืบ) ยาว  8 ศอกครึ่ง  บางคนสงสารก็ไปช่วยกันแบกจากป่ามาแล้วช่วยกันตกแต่งให้ดูดี

            หัวหน้าสั่งว่า ถ้าเจอไม้แก่นล่อนให้ตัดมาใช้ได้ ทิ้งไว้ในป่าไฟไหม้ทุกๆ ปีเสียประโยชน์เปล่าๆ แต่ถ้าเจอไม้แตกสองนางสามนางก็ให้ตัดลงมาใช้สักนางสองนาง  เหลือไว้สักนางหนึ่ง  เป็นการบำรุงป่าให้สวยงามมากขึ้น

วิเชียรเล่าขณะแบกไม้ช่วยลุงพุฒ

            ไม้อะไรสองนางสามนางเผ่นถามวิเชียร

            ไม้ต้นไหนที่แตกหลายง่ามไง ถ้าแตกสองง่ามเรียกว่า สองนาง ถ้าแตกสามง่าม เรียกว่า สามนาง  ปกติต้นไม้ที่ดีควรมีนางเดียว

วิเชียรอธิบายตามที่หัวหน้าเล่า

           อ้อ ! เหมือนมีเมียคนเดียวก็ต้องสวยวันยังค่ำเผ่นเข้าใจ 

   “ผมว่าส่วนใหญ่เป็นไม้ที่แตกจากตอเดิมนะ ถึงมีหลายนาง   เผ่นขยายความตามที่สังเกตเห็น

            เออใช่ !  ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น ต้นแม่มันถูกตัดไปแล้ว หน่อที่แตกใหม่ก็มักจะมีมากกว่า 3 หน่อเสมอ แต่เหลือรอด 3 หน่อนี่ถือว่าตอมันต้องใหญ่ แข็งแรง แต่บางชนิดก็ไม่แตกหน่อนะ ตายไปเลย”                     
            วิเชียรเล่าต่อจากประสบการณ์เดินป่ามานานหลายสิบปี

            ตกค่ำ การพัฒนาบ้านลุงพุฒมีเพื่อนบ้านมาร่วมกันหนาตา เพราะว่าเป็นหลังสุดท้ายตามที่ผู้ช่วยประเสริฐประกาศหน้าแถวตอนเช้าก่อนออกงาน  ตะเกียงเจ้าพายุและตะเกียงแก๊ส 3 ดวงส่องสว่างจ้า เด็กๆ กวาดเศษไม้เศษหญ้ามาใส่กองไฟถูกก่อขึ้นเป็นหย่อมๆ เพื่อให้แสงสว่างเพิ่มขึ้น เผาขยะไปในตัวด้วย  

วันนี้ปิดการสร้างบ้านพักหลังสุดท้าย มีขนมนมเนยแจกอิ่มหนำสำราญกว่าทุกวัน  ช่างไม้ประจำหมู่บ้านหมายหลุม  ระยะถูกต้อง แผนกขุดลงมือทำงาน  อีกกลุ่มเกลาไม้เสา อีกพวกเกลาไม้คาน ตง และ พอตั้งเสาได้ไม้คานก็ตีกระหนาบเข้ามาอย่างรวดเร็ว ประเดี๋ยวเดียว บ้านก็เป็นรูปเป็นร่าง แผนกมุงหลังคาปีนขึ้นไปแล้วงานก็ลุล่วงด้วยความชำนาญ เพราะว่าทำร่วมกันมากว่า 48 หลังแล้ว  เป็นอันว่าบ้านลุงพุฒเสร็จเรียบร้อย 

            ลุงพุฒ  ขึ้นบ้านเอาฤกษ์เอาชัยหน่อยมณีพูดเสียงดัง   ลุงพุฒยิ้มเห็นหมากปากแดง แล้วจูงมือป้าม้วนและตาลูกสาวเดินขึ้นบ้านด้วยความดีใจ ทุกคนตบมือแล้วเฮกันดังลั่น 

            บ้านของเราลุงพุฒพึมพำบอกเมียและลูก

            หนูจะนอนที่ไหน พ่อ?” ตาถามขึ้นด้วยเสียงใสๆ นัยตาโตแจ๋วแหวว

            นอนกับแม่กับพ่อซิ ยังเด็กอยู่ป้าม้วนกระซิบเสียงดังตามแบบฉบับที่ฟังแล้วไม่ต้อง
แคะขี้หู

           
                   

            ลุงพุฒเดินไปดูห้องครัว  ห้องนอน  ใบหน้าที่มีความสุขชวนให้มณีน้ำตาซึม  เป็นความสุขที่ยากจะบรรยายว่า รู้สึกเช่นไรที่ทำให้นกมีรังอยู่  หนูมีรังนอน แต่นี่เพื่อนร่วมชะตากรรมกว่า
200 ชีวิตได้มีบ้านเป็นของตนเองอย่างถาวร  มันคือผลพวงของความสามัคคีมีน้ำใจ ให้อภัยและไม่เกี่ยงงอนกันและกัน แม้มิใช่พี่น้องร่วมอุทร

    แล้วมณีก็เดินไปที่เนินดินจุดที่จะสร้างโรงเรียน

            เกราะดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนเดินไปรวมกันที่มณียืนอยู่ ประเสริฐ    และทองม้วนเตรียมแจกขนมหวาน วันนี้ได้กินแปลกออกไปกว่าถั่วเขียวต้มน้ำตาล แต่เป็นกล้วยบวชชีที่แสนจะหวานกลมกล่อมและหอมมันหม้อใหญ่ 

  “เด็กๆ เข้ามาก่อน จัดแถวมณีตะโกนเสียงดัง เด็กๆ รีบเข้าแถว

 “คนเฒ่าคนแก่ต่อมาเลย แล้วก็ผู้ใหญ่ทั้งหลาย  กินได้ตามชอบ 2-3 ถ้วยก็ได้ แต่ต้องค่อยๆเวียนมากินนะ

           มณีมองดูพลันความคิดก็แล่น 

 “นี่ก็อีกความสุขที่กล้วยข้างครัวออกผลมาให้ แต่ดัดแปลงนิดหน่อย  เป็นของหวานที่แสนอร่อยลิ้น ได้ทั้งอิ่มท้อง ได้ทั้งอิ่มใจ  ได้ทั้งอิ่มความสัมพันธ์  กล้วยน้ำว้าที่ปลูกทิ้งปลูกขว้างพอออกเครือเหลือปลีก็ตัดไปต้มจิ้มน้ำพริก ใส่ต้มข่าไก่ก็ได้ ยำหัวปลีก็อร่อย   พอเป็นลูกแก่กินเป็นผลไม้ใกล้ตัว แล้วก็ยังเหลือต้นให้ตัดเอาหยวกมาแกงปลาย่างหรือเป็นผักสดจิ้มน้ำพริกได้อย่างเอร็ดอร่อย  ต้องให้ชาวบ้านปลูกกล้วยน้ำว้าทุกบ้าน แจ๋ว

เสียงทับพีขอดหม้อ กล้วยบวชชีหมด  มณีพูดเสียงดังเช่นเคย

อิ่มท้องแล้วนะ  ต่อไปนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนต้องหันมาช่วยกันอีกงานหนึ่งคือ การสร้างอาคารเรียนเพื่อลูกหลานของเราทุกคน  แบบที่สร้างผู้ช่วยเตรียมไว้แล้ว  พวกที่ขุดดินมาถมเนินเตรียมรับงาน ขาดแต่ไม้เคร่าฝาและเครื่องหลังคาเดี๋ยวหน่วยจัดให้ ส่วนหน้าต่างประตูจะขอบริจาคจากร้านวัสดุก่อสร้าง  เสาจะใช้เสาไม้ที่เป็นศาลาเก่ามาดัดแปลงเอา  พื้นเทปูนไส้ในใช้ไม้ไผ่ซีกแทนเหล็ก  คิดว่าแค่รับน้ำหนักโต๊ะเก้าอี้คงไม่เป็นไร พรุ่งนี้เราจะเริ่มงานกัน   พี่น้องคงต้องช่วยกันสร้างโรงเรียนให้ลูกหลานแล้วเนาะ

มณีจบด้วยคำวิงวอนเช่นทุกครั้ง   นี่คือการพัฒนาที่ไม่ได้จ้าง ค่ำคืนหนึ่งๆกว่าจะเลิกก็ซึ่งก็ปาเข้าไปสองยาม มันเป็นงานที่เต็มไปด้วยความหวัง

            วันนี้ก็เหมือนทุกวัน มณีและประเสริฐต่างตื่นแต่เช้าและเข้าที่ทำการ มานั่งกินกาแฟ กินข้าว แล้วก็คุยกันตามปกติ พอได้เวลาประเสริฐก็ออกไปจัดงาน
            มณีนั่งทำบันทึกถึงผู้บังคับบัญชาประกอบการเบิกจ่ายค่าวัสดุต่างๆ เพื่อเทลานตากเมล็ดไม้  ในบันทึกมณีอ้างว่า

   “จำเป็นต้องสร้างลานตากเมล็ดไม้  จึงขอเบิกปูนซีเมนต์ ทราย  หิน เหล็ก  ลวด 

    มณีสั่งให้ประเสริฐไปเบิกมาจากร้านค้าวัสดุเจ้าประจำ 


                      
           

              ค่ำ หลังอาหารผ่านพ้นไปอย่างอิ่มหนำสำราญ  ทุกคนออกจากบ้านมาด้วยความตั้งใจ  ต่างก็แบกจอบแบกเสียม ลงมือช่วยกันปรับพื้นที่ดินที่ถมสูงให้แน่นเพื่อเทปูน และขึ้นโครงหลังคา  คนแข็งแรงทำหน้าที่ผสมปูน  ขนอ่อนแอช่วยกันปรับพื้นที่ที่จะเทปูน  อีกกลุ่มช่วยกันวางแผงไม้ไผ่แกนกลาง  ผู้หญิงและเด็กๆ ช่วยกันขนทราย หิน น้ำ เพื่อให้คนผสมปูนทำงานได้เร็วขึ้น  ทุกอย่างพร้อมงานเทปูนลานตากเมล็ดไม้ก็เริ่มขึ้นอย่างขมีขมัน ชั่วครึ่งคืน ลานตากเมล็ดไม้ขนาด
16x20 เมตรก็เสร็จเรียบร้อย โดยมีแนวหลุมที่ขุดเตรียมลงเสาเว้นว่างไว้อย่างลงตัว  
แต่แล้วก็มีเสียงขี้เมาตะโกนขึ้น ไอ้น้อยเจ้าเก่า

            พัฒนาอะไรกันนักหนาหัวเน่า…….ผมดูแล้วนี่เป็นการกดขี่ประชาชนคนยากคนจน !”

    มีเสียงโห่ไล่ดังขึ้น ไอ้น้อยเดินเซถลาเข้ามาร่วมวงด้วยอีกมือถือขวดเหล้า

            มือไม่พายยังเอาตีนมึงราน้ำ เอาซะดีไหมหัวหน้า

    ว่าพลางก็จะเกิดการรุมประชาทัณฑ์ไอ้น้อย  ไอ้น้อยยังก๋าไม่เลิก

            เห็นกูเมาเหรอะ เข้ามาเลย

     ปากยังดี แต่ยืนยังแทบจะไม่อยู่   นางแรมโผล่มาจากงานชักกะเย่อถูลู่ถูกังไอ้น้อยกลับบ้าน  เด็กๆ ลูกน้อยเดินตามกลับไปด้วยใบหน้าเหยเก

            การพัฒนาทุกคนเหนื่อย ผมรู้ แต่ผมทั้งเหนื่อยและเสี่ยง ที่ยอมเสี่ยงก็เพื่อพวกเราคนทำงาน  เพราะฉะนั้น เรื่องแค่นี้อย่าถือสา  น้อยมันเมาก็แค่นั้น แต่เมียมันเข้าใจและก็ช่วยงานพัฒนาโดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย สงสารเมียกับลูกๆ มัน  ขอให้ทุกคนอดทนและอย่าถือโกรธน้อยเลย

    มณีจบคำกล่าวสั้นๆ แล้วก็บอกเลิกงานในคืนนี้ พร้อมยกมือไหว้กราดไปทั่ว   

   “ขอบคุณๆๆ ทุกๆ คนชาวบ้านทุกคนยกมือไหว้ตอบ

            อีก 7 วัน ต่อมา  มณีบันทึกถึงผู้บังคับบัญชาอีกครั้งแล้วส่งไปทางไปรษณีย์เช่นเคย ข้อความคือ

ในทางวิชาการป่าไม้ เมล็ดไม้ซ้อเมื่อแก่เก็บได้ต้องปลิดเมล็ดออกล้างน้ำแล้วผึ่งในร่มโรงเรือน  ไม่ให้ถูกแดด หากถูกแสงแดดความมีชีวิตจะสั้น ต้องใช้ลมที่พัดผ่านทำให้เมล็ดแห้ง  อัตราการงอกและการรอดตายจะสูงขึ้น  จึงขอดัดแปลงลานตากเมล็ดไม้เป็นโรงผึ่งเมล็ดไม้ 

มณีเบิกกระเบื้องมุงหลังคา  น็อต  ตะปู  สีน้ำทารักษาเนื้อไม้  มณีโก่งราคาการเบิกจ่ายสูงกว่าปกติเพื่อผันเงินออกมาซื้อวัสดุอื่นๆ ที่เบิกไม่ได้  

มณีก็ไม่ได้ติดตามแต่อย่างใดว่า ทางกองอนุมัติหรือไม่  หากแต่ลงมือสร้างโรงผึ่งเมล็ดไม้ทันที  เรื่องไม้ที่ใช้ มณีใช้แรงงานหลวงเลื่อยทุกวันจนได้ไม้พอเพียงที่จะสร้างโรงเรือน  แต่ขอโทษที เสาหน้า 8 นิ้ว  ทุกชิ้นส่วนเท่าสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัย  แน่นหนามาก

อีกหนึ่งเดือนถัดมา  การสร้างโรงผึ่งเมล็ดไม้เสร็จเรียบร้อย  ได้อาคารเสาไม้จริงหลังคามุงกระเบื้องลอนคู่ โดยมีพื้นเป็นปูนที่เทลานตากเมล็ดไม้  และแทบไม่น่าเชื่อว่ากรมป่าไม้ได้แจ้งเวียนให้เลิกปลูกไม้ซ้อเนื่องจากพบว่า มีการระบาดของหนอนเจาะลำต้น  ทำให้ต้นไม้ซ้อตายเป็นผืนใหญ่ โรงผึ่งเมล็ดไม้ซ้อจึงร้างเลิกใช้ประโยชน์ไปโดยปริยาย เข้าล็อคดังโพล๊ะ

มณีทำบันทึกอีกครั้ง เล่าเรื่องแรงงานที่จ้างปลูกป่าต้นน้ำ ขอสร้างหมู่บ้านป่าไม้โดยไม่อาศัยงบประมาณ ในแผนงานระบุจะมีที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยและที่ดินทำกิน มีโรงเรียนให้บุตรธิดาชาวบ้านได้เรียนหนังสือโดยดัดแปลงจากโรงผึ่งเมล็ดไม้ซ้อ  มีแหล่งน้ำใช้สอย มีการเลี้ยงปลาโตเร็วเป็นอาหาร มีพืชผักสวนครัว  และมีวัด 

การทำงานพัฒนาเร่งรีบอย่างกับหนีไฟ  ไม้ไผ่เฮียะสานลายสองตีเป็นฝา  หน้าต่างประตูเป็นไม้จริงที่ได้รับบริจาคมาจากพ่อเลี้ยงนวลในตลาดนาน้อยและคนที่เห็นดีเห็นงามด้วย  ไม้ฝาเลื่อยจากไม้ในป่าที่ยังมีให้เลื่อย  ด้วยแรงงานหลวงตามเคย  ชั่วเวลาที่ผ่านไป 3 สัปดาห์ อาคารเรียนชั้นเดียวเสร็จเรียบร้อย ป้ายโรงเรียนแกะสลักสวยงาม


           มณีเดินทางไปพบครูใหญ่โรงเรียนบ้านหนองห้า เพื่อปรึกษาและขอรับการสนับสนุนครูช่วยสอน

         พี่เทียน ทำยังไงดี  เด็กๆ จะมาเรียนที่หนองห้าก็ไม่มีค่ารถยนต์เดินทาง มันไกล เสื้อผ้าก็ไม่ค่อยจะมีใส่กันเลย  ขอครูไปสอนหนังสือที่ภูพยับหมอกเถอะครับ  อาคารเรียนสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ถ้าได้ครูไม่พอ  จะจ้างลูกจ้างวุฒิครูมาช่วยสอนให้ด้วยครับ

          ได้ เดี๋ยวผมจะบันทึกเสนอไปว่าป่าไม้สร้างอาคารเรียนยกให้ แต่ไม่มีครู คงต้องเป็นโรงเรียนสาขาของที่นี่นะครับ 

          เรื่องโต๊ะเก้าอี้นักเรียน  มีของเก่าที่ยกทิ้งไว้ไหมครับ ผมจะขนไปซ่อมใช้งานไปก่อน ดีกว่าไม่มี?” มณีถาม ครูเทียนมองสบตายิ้มแล้วตอบ

          ได้ครับ ได้ มีกองทิ้งไว้หลังห้องเยอะเลย  จะมาขนไปซ่อมเมื่อไรก็บอกนะครับ

           สัปดาห์ต่อมา มณีขับรถไปขนโต๊ะ เก้าอี้เก่าๆ จากโรงเรียนบ้านหนองห้ามาซ่อม  ได้จำนวนตามที่มีความจำเป็น  ความฝันเรื่องเด็กๆ จะได้เรียนหนังสือมองเห็นรำไร มณีสั่งให้ประเสริฐจัดมือช่างไม้ลงมือซ่อมแซมโต๊ะเก้าอี้ อีกกลุ่มทาสีอาคาร อีกกลุ่มขนย้ายลงไปเก็บที่ในห้อง กลัวเด็กๆ มาเล่นจะพังเสียก่อน ทุกครั้งที่มีงานพัฒนา ก็เหมือนมีงานมหรสพกลางหมู่บ้าน มีแสงไฟจากตะเกียงเจ้าพายุแก็ส มีกองไฟก่อเป็นหย่อมๆ มีคนทำงานและมีเด็กๆ มาวิ่งเล่นส่งเสียงดัง ไม่เหงาสักคืน

           

การพัฒนาทุกคนเหนื่อย ผมรู้ แต่ผมทั้งเหนื่อยและเสี่ยง ที่ยอมเสี่ยงก็เพื่อพวกเรา คนทำงาน

 

Tags : Forester lifes

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view