หอสรงน้ำพระพุทธรูปแบบโบราณ วัดโพธิ์ไชย
อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
“เอื้อยนาง”
“เรือนหลังเล็กจิ๋ว เรียกหอสรง คือศาลที่มีเสาสี่ต้นยกพื้นสูงเพียงอกผู้ใหญ่ มุงหลังด้วยแป้นเกล็ด เป็นที่ที่หลวงตาได้อัญเชิญพระพุทธรูปเก่าแก่ออกจากสิม(โบสถ์)ลงมาประดิษฐานไว้หลายองค์ เล็ก ใหญ่ เพื่อให้ทุกคนได้บูชาดอกไม้ และสรงน้ำหอมในช่วงสงกรานต์ซึ่งมีขึ้น ไม่น้อยกว่าสิบห้าวันในแต่ละปี
เช้าวันแรกของเทศกาลสงกรานต์บ้านเฮามีการทำบุญรวมกันที่วัดบนศาลาใหญ่ ฟังเทศน์หนึ่งกัณฑ์ แล้วหลวงตาก็จะนำขบวนญาติโยมนำดอกไม้ไปบูชา พร้อมสรงน้ำหอมมพระพุทธรูปในหอสรงนี้
“เร็ว ๆ ไว ๆ เด็ก ๆ ไปอาบน้ำขี้พระ”
เด็ก ๆ จะวิ่งแจ้นแข่งกันไปเบียดอออยู่ใต้หอพระพุทธรูป รอน้ำหอมที่ไหลราดผ่านลงมา ผ่านองค์พระ รินหลั่งพรั่งหยดไหลลงข้างล่าง รินสู่หัว หู ไหล่ เนื้อตัว หน้าตา หอมกรุ่น สดชื่น น้ำหอมนี้ที่เราเรียกว่าน้ำขี้พระ เป็นสายธารแห่งความรัก ความศรัทธา พาความอบอุ่น ซ่านทรวง และชุ่มเย็น สู่หัวใจดวงน้อย ๆ ทั้งสนุกที่ได้เบียดกันอาบน้ำ ที่สำคัญได้แบ่งปัน ด้วยเนื้อที่อันจำกัดนั้น เราต้องได้เข้ารองรับน้ำให้เปียกกันทุกคน ก่อนแถวผู้ใหญ่ที่เดินมาสรงน้ำจะหมดลง”
ตัดต่อข้อความจาก “กรุ่นกลิ่นดอกไม้ป่า” ในหนังสือ “เมื่อยายอายุเท่าหนู” เป็นการบอกเล่าความเก่า เกี่ยวกับ “หอสรง” ของผู้เขียน ที่มีประสบการณ์ในสมัยเป็นเด็ก วันนี้ไปพบหอสรงแบบเดียวกันนี้ที่วัดโพธิ์ไชย ท่าอุเทน นครพนม ช่างงามและออนซอนเหลือใจจนอดที่จะเก็บมาฝากกันไม่ได้ค่ะ ที่ต่างก็คือ หอนี้มีหลังคาเป็นกระเบื้อง แต่ยังคงลักษณะแบบแป้นเกล็ดอยู่ และเสากลายเป็นเสาปูน ที่ใหญ่เทอะทะนี้ คงเป็นเพราะผู้สร้างต้องการพยุงหอไว้เป็นมรดกอยู่นาน ๆ นั่นเองว่าไหมคะ
QQQQQ
|