บัลแกเรีย
โดย เอื้อยนาง
หน้างานมีการจัดแสดงภาพ โบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์ให้ชมด้วย ครั้นถึงเวลาเปิดงาน ฯพณฯ Mr.Kamen Velichkov เอกอัครราชทูต สาธารณรัฐ บัลแกเรียประจำประเทศไทย ได้กล่าวเปิด เก็บความได้ย่อๆ ว่า...
“บัลแกเรีย เป็นประเทศเก่าแก่ มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมของยุโรปและเอเชียที่เราภาคภูมิใจ คงเป็นการยากที่จะนำเสนอให้เห็นทั้งหมดด้วยภาพเพียงไม่กี่ภาพในวันนี้ นับเป็นสิ่งที่ดีที่ท่านได้มารู้จักบัลแกเรียในที่นี้ แต่จะดียิ่งกว่าหากคุณไปเยี่ยมบัลแกเรียที่บัลแกเรียเอง...
เราเป็นดินแดนแห่งกุหลาบแสนงาม โยเกิร์ตและไวน์รสเยี่ยม”
ประเทศสาธารณรัฐบัลแกเรีย (
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 บัลแกเรียซึ่งใกล้ชิดกับรัสเซียอยู่แล้วจึงเป็นฝ่ายอักษะด้วยและแพ้สงคราม หลังจากนั้นจึงถูกปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์ และมาเปลี่ยนเป็นระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาในปี 2533 มีการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2534 และในปี พ.ศ. 2550 ได้เป็นสมาชิกลำดับที่ 27 ของประชาคมยุโรปอย่างเป็นทางการ พร้อมๆ กับโรมาเนีย(อันดับที่ 26) เพื่อนบ้าน ประชากรของบัลแกเรียมีประมาณแปดล้านคน ประกอบด้วยชาวบัลแกเรียร้อยละ 83 ชาวเติร์กร้อยละ 9 นอกนั้นเป็นชาวอาร์เมเนีย ตาตาร์ เป็นต้น และประมาณร้อยละ 17 อาศัยอยู่ในเมืองหลวงคือเมืองโซเฟีย (
โซเฟีย เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางบกของคาบสมุทรบอลข่าน โดยมีทางรถยนต์เชื่อมถึงกรุงเบลเกรดและกรุงอิสตันบูล ซึ่งมีเส้นทางเชื่อมสู่ยุโรปเหนือ และลงสู่กรุงเอเธนส์ในกรีซ โซเฟียเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งของยุโรป และหากนับตามจำนวนประชากร โซเฟียถือเป็นเมืองใหญ่ลำดับที่ 12 ของ EU ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศ บนเชิงเขา Vitosha เป็นความผสมผสานระหว่างความเจริญสมัยใหม่กับอารยธรรมโบราณ มีแหล่งโบราณคดี ทางประวัติศาสตร์หลายแห่งแสดงให้เห็นถึงอารยธรรมหลายยุคสมัยที่ทับซ้อนกันอยู่ในนครโซเฟีย บางแห่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ซึ่งผู้อำนวยการธราพงศ์ ได้ไปชมมาและนำเสนอในโอกาสนี้ เช่น Boyana Church ย่านชอปปิ้งสินค้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงคือย่านถนน Stambolijski Straat
พล็อพดีฟ (
พล็อพดีฟเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์โบราณคดีของบัลแกเรีย มีศิลปะวัตถุสถาณอันเป็นร่องรอยวัฒนธรรมหลากหลายมีอายุหลายพันปีที่ยังอยู่มาจนปัจจุบัน เช่น Philippopolis Theatre
ย่านชอปปิ้งที่สำคัญของพล็อพดีฟคือ
บัลแกเรียมีมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญ ๆ เป็นทั้งโบสถ์ มัสยิด และสุสานโบราณมากมายหลายแห่ง จัดเป็นแหล่งศึกษาอารยธรรมโบราณของมนุษยชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกเช่น สุสานแห่งแทรเซี่ยน Thracian Tomb
ชาวแทรเซี่ยนโบราณเคยอาศัยอยู่ในแถบประเทศบัลแกเรีย โรมาเนีย ตุรกีและกรีซมาก่อน มีร่องรอยแห่งอารยธรรมแทรเซี่ยนเป็นสุสาน (Tomb) จำนวนมากกระจัดกระจายทั่วไปในบัลแกเรีย สุสานโบราณเหล่านี้มีอายุมากกว่า 500 ปีก่อนคริสตกาล หลายแห่งที่ได้รับการสำรวจแล้วจะพบสิ่งของอันเป็นวัตถุโบราณมากมายที่ทำจากเงิน ทองแดง และเครื่องเซรามิก โดยเฉพาะที่หุบเขาแทรเซี่ยนคิง (The Valley of Thracian Kings) ทางตอนใต้ของบัลแกเรียนอกจากจะขุดพบสิ่งของดังกล่าวยังพบหน้ากากทองคำอายุกว่า 2,500 ปี
ปัจจุบันชาวบัลแกเรียยังมีบ้านเรือนแบบโบราณที่เป็นรูปแบบเฉพาะตนอยู่อย่างถาวรมากว่าร้อยปีก็มี ทำให้บัลแกเรียเป็นประเทศน่าสนใจ มีหลายสถานที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้วทั้งที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติ ได้แก่
1. Boyana Church ปี 1979
2.
3. Rock – hewn
4. Thracain Tomb Kanzanlak ปี 1979
5.
6. Rila Monastery ปี 1983
7.
8. Srebarna Nature Reserve ปี 1983
9. Thracian Tomb of Sveshtari ปี 1985
และที่ท่านผอ.ธราพงศ์ ศรีสุชาติ นำเสนอภาพบนจอพร้อมกับบรรยายประสบการณ์ที่ท่านได้ไปเยี่ยมชมมามีหลายแห่งได้ทั้งความรู้และความประทับใจอยากไปเยี่ยมชม เช่น Rila Monastery ,
สุดท้ายทุกคนที่เข้าร่วมกิจกรรมได้ชิมไวน์จากบัลแกเรียพร้อมออเดิร์ฟหลากหลาย ผสมผสานมีทั้งขนมไทย เทศ ด้วยบรรยากาศเป็นกันเองและประทับใจ
ขอบคุณเจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ และสถานทูตบัลแกเรียที่มีน้ำใจทุกท่านค่ะ
เอื้อยนาง