http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,010,093
Page Views16,319,274
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จอมโกงจอมภู ตอน 28 เจ้ากูอาละวาด

จอมโกงจอมภู ตอน 28  เจ้ากูอาละวาด

                                                  จอมโกงจอมภู ตอน 28  เจ้ากูอาละวาด

                                                                                           อินทรีดำ/เรื่อง ปัณณิกา/ภาพลายเส้น 

                     บนดอยหลังหมู่บ้าน  นกขุนทองออกไข่และแพร่พันธุ์ได้ปลอดภัย  ไม่มีใครกล้าไปขึ้นเอาลูกนกมาขายกันอีก  เจ้าอาวาสที่พวกเราเรียกหลวงพ่อไม่ยินดีด้วย  นก หนู ไน กระรอก กระแต แม้กระทั่งกระต่ายที่หากินอยู่ตีนเขาหน้าวัด กลับร่าเริง กระโดดโลดเต้นกันด้วยความสุข ดูช่างมีชีวิตชีวายิ่งนัก  มณีมานั่งคุยกับหลวงพ่อทีไรก็จะได้เห็นบ่อยๆ  และรู้สึกเพลิดเพลินกับความกุ๊กกิ๊กของกระรอกที่หยอกล้อกันและกัน  นกขุนทองโผบินไปมาพร้อมกับคาบเหยื่อมาป้อนลูกๆ

                     ในฤดูใบไม้ร่วง  ต้นขี้เหล็กอเมริกาทิ้งใบเพื่อลดการคายน้ำร่วงหล่นจนหมดต้น เป็นภาระให้หลวงพ่อต้องกวาดลานทุกวันๆ  หลวงพ่อกวาดไปใส่โคนต้นไม้ที่มีอยู่

                       ถ้าเผาก็เป็นก๊าซคาร์บอนไดอ็อกไซด์ขึ้นสู่อากาศ เกิดกรีนเฮ้าส์เอฟเฟค โลกร้อนมากขึ้นๆ นี่หลวงพ่อกวาดไปทิ้งไว้โคนต้นไม้  ฝนเดียวก็ผุพังเป็นปุ๋ยอินทรีย์หมด ต้นไม้ก็งอกงามหลวงพ่อว่าให้ฟัง

                         พอเข้าหนาว ดอกขี้เหล็กอเมริกาเหลืองสะพรั่งส่งกลิ่นหอมกรุ่น หมอกลงปกคลุมทุกค่ำคืน ความหนาวเย็นมาเยือนคราใด หลวงพ่อก็จะเก็บตัวเงียบๆ จะออกมาก็เมื่อมีกิจนิมนต์ เช่นหนาวนี้ผ้าป่าจากกรุงเทพมาทอดเช่นทุกปี หลวงพ่อดีใจและใจดี ยินยอมให้การทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษา           

                         “ฉันเองฉันมื้อเดียว ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรมากนัก ถวายเท่าไรก็ตามใจ ที่เหลือสมทบเข้ามูลนิธิเพื่อส่งเด็กๆเรียนน่ะดีแล้ว 
                                                        
                          ดังนั้นคณะผ้าป่าจึงถวายหลวงพ่อครั้งละ 3,000 บาท ส่วนที่เหลือ 80,000-150,000-บาทในทุกปี สมทบทุนมูลนิธิมงคล ปราการไชย   การทอดผ้าป่าจึงเป็นอีกหนทางหนึ่งที่บอกบุญได้ทุกคน ทำกันคนละเล็กคนละน้อยก็ได้เงินก้อนโต

                          แต่แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อปีที่รัฐบาลหนึ่งสั่งตัดงบประมาณการปลูกป่าเอางบประมาณไปใช้ในกิจกรรมอื่นดื้อๆ  หน่วยปรับปรุงต้นน้ำไม่มีทางเลือก ต้องลดจำนวนคนงานลง  และลดวันทำงานลง เพื่อให้เฉลี่ยอยู่กันได้ทั้งหมู่บ้าน  แต่ความเดือดร้อนก็ไม่จบสิ้น เพราะว่าชาวบ้านมีค่าใช้จ่ายคงที่  การกินอยู่  ลูกๆ เรียนหนังสือ เจ็บป่วยไข้ต้องใช้เงิน  หนี้สวัสดิการต้องหัก พักหนี้ไม่ได้ 

                           ชาวบ้านแห่กันขึ้นมาหาที่ทำการหน่วย  ประเสริฐพูดอธิบายให้ฟัง มณีนั่งฟังด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ 

                          “ถึงยังไงก็พักหนี้ไม่ได้  ถ้าพักหนี้ๆ ก็จะพอกเป็นหางหมู สวัสดิการล้มแน่นอนครับประเสริฐยืนยันหนักแน่น แต่

                          “พวกเราก็หยุดกินไม่ได้  ลูกหยุดเรียนก็ไม่ได้  แม่ป่วยไม่รักษาก็ไม่ได้

                          “ผมเองจะทำงานเต็มที่ก็ไม่ได้ รัฐบาลตัดหมด พวกมันเคยมาเป็นพวกเราไหมล่ะ  มันไม่เดือดร้อนนี่เผ่นโวยเสียงโห่ฮาดังขึ้นอย่างชอบใจ  เผ่นลุกขึ้นคำนับที่เป็นวีรชนคนกล้าพูดคืนนี้ เสียงโวยวายด้วยความเดือดร้อนเต็มสองหู 

                          “ป้าว่า  เงินเดือนก็ออกไม่ตรงเวลาก็เดือดร้อนพอแล้ว  แต่นี่ตัดงบปลายปีดื้อๆ  ป้าเดือดร้อนจริงๆ  จะเก็บดอกก็ไม่ได้จะบวกเพิ่มก็กลัวไอ้น้อยจะฆ่าตัวตาย จะทำยังไงกัน?” สิ้นเสียงป้าคำก็เกิดเสียงหัวเราะไอ้น้อยครืนใหญ่                                                            

                            “โหะๆ ป้าคำ  ไอ้น้อยกู้สวัสดิการดอกร้อยละ 3 หายห่วง ไม่กู้ป้าอีกแล้วคร๊าบ น้อยทนไม่ได้ลุกขึ้นสวน  ป้าคำชี้หน้า

                             อย่ามากู้เชียวนะมึง มีเสียงฮาดังขึ้นอีก  มณีนั่งฟังอยู่นาน จึงลุกขึ้นไปพูดบ้าง

                           “ผมคิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้น  รัฐบาลคงไม่ทำแน่นอนหากไม่จำเป็น  และพวกเราก็น่าเห็นใจตามที่เผ่นพูด  เพราะว่าพวกเราที่นี่อยู่เพื่อช่วยงานปลูกป่าปรับปรุงต้นน้ำให้ฟื้นสภาพ ถ้าไม่มีพวกเราคนส่วนใหญ่จะเดือดร้อนมาก  แต่พอพวกเราเดือดร้อนอย่างนี้กลับไม่มีใครช่วยได้เลย

                           มณีพูดจบเสียงตบมือดังขึ้น บางคนเช็ดน้ำตาที่ไหลโดยไม่รู้ตัว ความอัดอั้นมันน่ารันทดใจนัก

                          “พรุ่งนี้ ผมจะให้ประเสริฐไปเบิกข้าวสารมาอีกครั้ง เพื่อให้พวกเรามีข้าวมณีหยุดนิ่ง ทุกคนมองหน้าด้วยความสงสัย

                            “ต้มเหล้าเถื่อนขาย  จบเสียงมณี ความโกลาหลเกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

                            “จริงหรือครับ หัวหน้าทุกคนร้องพร้อมๆ กัน

                           “จริงมณีเสียงเข้ม ใบหน้าไม่มีรอยทะเล้นอย่างเคย

                         “เอาไหมพวกเรา?” วิเชียรลุกขึ้นถาม

                         “กูต้มเป็นที่ไหน กินอย่างเดียวไอ้น้อยว่า เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครา

                          “ไม่ยาก มึงก็หุ้นกับกู ต้มเหล้ามันต้องเฝ้าทั้งคืนนะมึงกว่าจะเสร็จวิเชียรว่าต่อ

                         “ให้กูหุ้นจริงหรือ?” น้อยคนไม่มีเครดิตถามซ้ำ  วิเชียรตอบว่าจริง  น้อยกระโดดออกไปจับมือกับวิเชียร 

                         ในที่สุด  ได้กลุ่มที่รวมตัวกันลงทุนต้มเหล้าเถื่อน 18 กลุ่ม  มีทั้งกลุ่มเล็กกลุ่มใหญ่ และทันทีที่ได้ข้าวสารมา การหมักเหล้าเกิดขึ้นด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น  บางคนมีแทงค์น้ำมันเปล่าใส่น้ำก็ดัดแปลงเป็นถังต้มเหล้า บางคนใช้กะละมัง ปี๊บสังกะสี  หม้อดิน  ไม้แก่นล่อนถูกแบกจากป่าตัดทอนเป็นฟื้นเผาเตาต้มเหล้า   ถังพลาสติกเตรียมรองเหล้าที่กลั่นตัวหยดใส  การบรรจุแกลลอน 5 ลิตรได้รับความนิยมมากที่สุด  ถ้ามีคนสั่ง 20 ลิตรก็มีใส่ให้ด้วย มณีเตือนว่า อย่าใส่สารพิษผสมนะ อันตรายถึงตาย

                           ซ่าเหล้าที่ทิ้งส่งกลิ่นเหม็นตลบไปทั้งหุบเขา  ไม่พ้นแม้กระทั่งวัดก็ได้กลิ่น  ความจำเป็นบังคับให้ต้องหาทางออก และนี่เป็นทางออกเร่งด่วนที่สุดที่ทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ เป็นทางเลือกเดียวที่คิดกันได้  ใช่! หัวไม่กระดิก หางจะกระดิกได้อย่างไร ประกอบกับเหล้าโรงที่ขายได้ขึ้นราคากันอย่างมาก มากกว่าค่าแรงงานที่ทำเงินแต่ละวัน

                              การขายเหล้าได้ลูกค้าไปทั่วทุกทิศ ตั้งแต่งานวัด งานบวช งานวันเกิด  งานสมโภชเจ้าอาวาสที่ได้พัดยศ แม้กระทั่งตำรวจหลายโรงพักสั่งไปส่ง รอยยิ้มกลับคืนมาสู่ใบหน้าชาวบ้านทุกคน พร้อมเสียงหัวเราะที่สดใส แต่แล้วด้วยความโด่งดังของหมู่บ้านภูพยับหมอกในกิจกรรมต้มเหล้าเถื่อนขาย แก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่พอเพียงก็เกิดเรื่อง 

                           วันหนึ่ง ประเสริฐไปตรวจงานสนามในป่า มณีไปงานแต่งงานลูกสาวผู้ใหญ่บ้านที่บ้านหนองห้า หน่วยว่างเปล่า  โรงเรียนเปิดสอนตามปกติ  ครูทุกคนอยู่ดีตามหน้าที่แต่ได้หน้าที่เพิ่มโดยอัตโนมัติ ชิมเหล้าแต่ละเจ้าอย่างจำใจ ใครๆก็คิดถึงบุญคุณครู ส่งขวดเหล้ามาให้แทบทุกเจ้า

                            สายตรวจสรรพสามิตจากจังหวัดน่านวิ่งรถด้วยความเร็วรี่ พุ่งดิ่งมาที่หมู่บ้านภูพยับหมอก  และทันทีที่ลงไปถึงหมู่บ้านก็กระโดดลงจากรถแล้ววิ่งไล่กวดจับนักต้มเหล้าเถื่อนอย่างโกลาหล  ลุงเขียนนั่งเฝ้าเตาต้มเหล้าอยู่เวรกลางวันกระโดดล้มกลิ้งลงดอย  แรมวิ่งกระหืดกระหอบหนีไปได้ ไอ้น้อยก๋าออกมาถือมีดพร้าเล่มงามโชว์ความเก๋า  สรรพสามิตรวบตัวได้ทันทียึดมีดไปด้วย  เบ็ดเสร็จถูกจับตัวได้ 8 คน นอกนั้นหนีไปได้    

                                                              

                           “ครูสายธารๆ ฉันแรมจ้ะ สรรพสามิตมาจับเหล้า ฉันหนีมาได้ ทำยังไงดีคะ?”

                           แรมหลบแทบติดดินหลังโรงเรียนอนุบาล  ครูสายธารครูช่วยสอนคนใหม่ที่แทนที่คนเก่าที่ลาออกไป เดินไปเรียกไวที่บ้านซึ่งหยุดงานตามสั่ง แล้วกระซิบสั่ง

                            “เอากุญแจในห้องยามล็อคประตูหน้าหน่วย แล้วขับรถมอเตอร์ไซด์ไปตามหัวหน้ามาจากงานบ้านหนองห้า บอกว่าสรรพสามิตมาจับเหล้าเถื่อน

                            มณีตีรถกลับหน่วยทันทีที่ได้รับทราบข่าวสาร  ใบหน้าบึ้งตึง  บอกบุญไม่รับ  ตาขวาง ผมเผ้าเป็นกระเซิง  จอดรถยนต์หน้าประตูดับเครื่องยนต์แล้วเดินลงมาด้วยความหงุดหงิด ไวไขกุญแจประตูออก  พอดีกับสายตรวจสรรพสามิตที่มีชาวบ้านและอุปกรณ์ต้มเหล้าใส่มาด้วย พุ่งรถมาจอดกลางสะพาน  ส่วนมณีจอดขวางทางออก การเผชิญหน้าเกิดขึ้น ต่างลงมายืนกลางสะพาน

                            "ผมมณี บันลือ หัวหน้าหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอกครับ" มณียกมือไหว้แล้วพูดขึ้น
ผมเผชิญ คนตรง หัวหน้าสายตรวจสรรพสามิตครับ  ที่ผมต้องมาจับก็เพราะว่ามีจดหมายร้องเรียนไปว่า ชาวบ้านภูพยับหมอกต้มเหล้าเถื่อนขายกันทั้งหมู่บ้าน  หัวหน้าลองอ่านจดหมายดูซิครับ  ไม่ลงนามแต่ก็สืบความแล้วว่าเป็นจริง  ผมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องทำตามหน้าที่ครับ” 
พร้อมกับยืนจดหมายให้มณี แต่มณียังไม่เปิดอ่าน

                           “ผมเข้าใจครับ แต่ว่า พวกผมไม่มีทางเลือกแล้ว รัฐบาลตัดงบประมาณไปปลายปีอย่างนี้ ผมต้องจ้างเป็นบางวัน  ชาวบ้านไม่พอกิน ค่าแรงงานก็ถูกกว่าเหล้าโรงที่เขาซื้อกินอีกนะครับ  ถ้าเลื่อยไม้ขายได้ก็ดี แต่ก็ทำไม่ได้  ผมขอโทษ งานนี้ผมขอก็แล้วกันนะครับ

                           พูดจบมณียกจดหมายขึ้นมาดู พอเห็นลายมือบรรจงสวยงามและมีข้อความว่า

                           “หมู่บ้านนี้มอมเมาประชาชน  ต้มเหล้าเถื่อน  ทำไม้เถื่อน  คนเถื่อน  วัดวาไม่เคยขึ้นมณีหัวเราะ  สรรพสามิตงง แต่ก็พลอยยิ้มตามไป แล้วหันไปสั่งทีมงาน

                           “หัวหน้าเขาขอครั้งหนึ่งเพื่อแก้ปัญหาความยากจน พวกเราปล่อยมณียกมือไหว้ แล้วส่งจดหมายที่พับกลับคืน

                            “หมดเตานี้ ผมจะให้หยุด ทำมานี่ก็แก้ปัญหาความยากจนได้หลายส่วนแล้วครับ งบประมาณใหม่ใกล้ตกมาแล้ว คงหมดปัญหา 

                              มณีมองตามจนสุดสายตา เราทำผิด เขาทำตามหน้าที่ แต่ต้องทำผิดเพราะว่าความเห็นรวบยอดที่ความยากจน  คืนเดือนมืดมาเยือนเหมือนลางร้ายใกล้เข้ามา  ทุกคนขึ้นมาชุมนุมกันโดยไม่ได้นัดหมาย 

                             “หัวหน้าจะสั่งเลิกต้มเหล้าหรือครับ?” เผ่นถามขึ้น ทุกคนสนใจ

                              “ก็คิดว่ายังงั้นแหละ พวกเราพอมีเงินแก้ปัญหาความฝืดเคืองช่วงนี้ได้แล้วนี่ และอีกเดือนเดียวก็เข้างบประมาณหน้า คงไม่มีวันหยุดมากอย่างนี้หรอก ทำงานเต็มที่เหมือนเดิม

                                มณีจบด้วยสายตายิ้มๆ  แต่เสียงที่ตามมา มณียิ้มไม่ค่อยออก

                                “กำลังดีเลยนะหัวหน้าเหล้าบ้านเรานี่ดังไปทั้งเวียงสา นาน้อย จนถึงนาหมื่น รสชาติดีแล้วก็ใสยังกับตาตั๊กแตน  ผมว่าอย่าเพิ่งเลิกเลยนะครับเชื่อมเสียดาย

                                “มันก็ดี แต่มันดังเกินไปเสียแล้ว  เอาฝีมือไว้ต้มกินไม่ดีกว่าหรือ?” มณีพยายามแย้ง

                               “โธ่ !หัวหน้า พูดกันตามตรงนะ ได้เงินดีมากไม่เหนื่อยด้วยครับทุกคนร้องใช่ๆๆ กันไปหมดทุกคน

                              “แต่รู้ไหม? ใครวะเขียนบัตรสนเท่ห์ไปที่สรรพสามิต น่าเหยียบแท้หน้อเสียงอื้ออึงดังขึ้น

                                “ใช่! มีคนอิจฉาพวกเรา  แต่พวกเราก็ต้มกันแทบทั้งนั้น ใครวะคนขี้อิจฉา?”เผ่นเสียงเขียวและเหลียวมองไปรอบๆ ท่าทางเอาเรื่อง

                               “ใครจะเขียนไม่สำคัญ  ที่สำคัญเราต้องรู้จักคำว่าพอและรู้จักคำว่าหยุด ถ้าไม่เช่นนั้นการแก้ปัญหาตรงนี้ก็เกิดผลเสียมากกว่าผลดี มณีตาลุกวาว มองกราดไปทั่วหน้า  ทุกคนนิ่งเงียบ

                               “ผมว่าอย่างหัวหน้าพูดนั่นแหละครับ  ได้มามากพอแล้วก็ต้องหยุด อาชีพพวกเราคือรับจ้างปลูกป่าและทำไร่ ที่หัวหน้าให้ทำก็เพราะว่ามีปัญหา ในเมื่อปัญหาจะหมดไปแล้วก็ต้องหยุดลุงชุ่มลุกขึ้นพูดช่วยสนับสนุนหัวหน้า

                                “โอ้โฮ  เสียดาย ฝีมือกำลังเข้าที่เลยนะลุงฤทธิ์พูดบ้าง

                                “เป็นอันว่าแม้จะเสียดายรายได้ และฝีมือต้มเหล้า ก็ขอให้กลับไปอยู่อย่างนักอนุรักษ์ที่ช่วยกันคืนป่าสู่แผ่นดินเถอะนะ  ต้มเหล้ากันหมดแล้วผมกับผู้ช่วยจะได้ใครช่วยงานล่ะ  แล้วอีกอย่างเจ้าป่าเจ้าเขาเขาคงไม่อยากให้ทำต่อแล้วละ บาป!!” มณีหยอด

                                   “เอาละ  ข้าขอประกาศว่า ควรเลิกเตานี้ เดี๋ยวหัวหน้ากับผู้ช่วยของเราจะลำบาก ไม่มีคนช่วยปลูกป่า

                                    น้อยสำแดงความดีออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทุกคนปรบมือและแยกย้ายกันไปบ้านใครบ้านมัน  น้อยขยับมาใกล้หัวหน้าแล้วแอบกระซิบถาม 

                                    “หัวหน้าๆ  ใครเขียน จดหมายฉบับนั้นน่ะน้อยมองเมียงด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ มณีหัวเราะแล้วผลักหัวน้อยให้ไปไกลๆ

                                   “เดี๋ยวโดน ไอ้น้อย ไปนอน!”

                                    เรื่องบัตรสนเท่ห์ถูกจับประเด็นพูดคุยกันตลอดทางกลับบ้าน มีแต่มณีเท่านั้นที่รู้ว่าใคร เขียน

 

ชาวบ้านมีค่าใช้จ่ายคงที่  การกินอยู่  ลูกๆ เรียนหนังสือ เจ็บป่วยไข้ต้องใช้เงิน  หนี้สวัสดิการต้องหัก พักหนี้ไม่ได้ 

 

Tags : jomgong

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view