http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 08/05/2024
สถิติผู้เข้าชม14,056,377
Page Views16,366,968
« May 2024»
SMTWTFS
   1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

จอมโกงจอมภู ตอน 29 ภูพยับหมอกบอลล์

 จอมโกงจอมภู ตอน  29 ภูพยับหมอกบอลล์

                                           จอมโกงจอมภู ตอน  29 ภูพยับหมอกบอลล์   

                                                                                                     โดยอินทรีดำ ลายเส้น-ปัณณิกา เปาอินทร์

 

มณีออกไปตรวจงานสนามกับประเสริฐด้วยเท้า  การเดินไต่ไปตามภูเขาสูงชัน น้ำหนักตัวที่ตกกระทบเพิ่มความหนักอีกเท่าตัว  มณีเดินตามประเสริฐช้าๆ เร่งอย่างไรก็สู้คนหนุ่มไม่ได้ คนทำงานกำลังดายวัชพืชอย่างเร่งรีบ เผื่อเสร็จเร็วจะได้เข้าไร่ทำสวนของตนเองต่อไป

มณีเดินดูต้นไม้ที่รอดตายไปเรื่อยๆอย่างสนใจ  ต้นที่เติบโตดี 4 เดือนกว่าหลังปลูกจะสูงราวๆ 1.20 ซม.แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมบางต้นมันแคระแกร็นผิดปกติ มณีตัดสินใจหยุดแล้วชี้ให้ประเสริฐขุดดู

มิน่า มันถึงไม่ตายแต่ไม่โตประเสริฐแกะถุงออกจากดินที่แข็งเป็นไต

ต้องระวังมากๆ หน่อย พรุ่งนี้ปลูกซ่อมด่วน ฝนยังมีอยู่ประเสริฐสวมถุงดำบนหลักปักหมายแนวเป็นสัญลักษณ์ว่าจะต้องซ่อมต้นนี้

มณีพูดพลางก็เรียกหัวหน้าคนงานมาสั่งให้เดินตรวจดูว่าต้นไหนแกร็นก็ให้เตรียมกล้าไม้มาปลูกซ่อมอีกครั้ง  เลิกงาน มณีเดินคุยไปกับชาวบ้านด้วยความเป็นกันเอง พลางก็ถามมูลว่า

มูล  นายมีลูกสี่คน เมียหนึ่ง ออกงานสองคนผัวเมียพอเลี้ยงลูกไหม ?“ มณีหันหน้าไปถามมูล

ถ้าทำสองคนก็พออยู่ได้ แต่ถ้าเจ็บไปสักคนก็ไม่ค่อยพอหรอกครับมูลตอบแล้วมองหน้า

            ฤทธิ์  เผ่น  ไว ล่ะ จะเกิดปัญหาอย่างมูลไหม ถ้าเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา หรือตกดอยจนเดี้ยง ทำงานไม่ได้มณีขว้างหินถามทาง

มีปัญหาแน่ๆ ครับนี่คือคำตอบที่เห็นได้ชัดว่า ลำพังการทำงานวันต่อวัน ก็แค่พออยู่พอกิน ขาดงานวันไหน หรือเจ็บป่วยก็เดือดร้อน

ถ้าอย่างนั้น ถ้าหัวหน้าตั้งกองทุนสวัสดิการเพื่อคนชรา คนทุพพลภาพ เกิดอัคคีภัย  หรือเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต  หรือแก่เกิน 60  ปี แล้วมีเงินสวัสดิการให้ใช้กินอยู่หลังเกษียนงานบ้าง จะดีไหม?”

ถ้าเป็นอย่างหัวหน้าว่าก็ดีซิครับ  พวกผมไม่เหมือนหัวหน้านี่ เกษียนแล้วยังมีเงินเดือนกิน หลวงเลี้ยงตลอดจนตาย เจ็บป่วยก็เบิกได้ เผ่นพูดแบบคนพอจะรู้เรื่องบ้าง

มันเหมือนมีลางบอกเหตุ อีกสัปดาห์เศษเท่านั้น มูลที่ถูกซักถามกลับเป็นอัมพฤกษ์ไปจริงๆ  เมียมูลร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด มณีลงไปเยี่ยม มูลพูดไม่ได้ แต่กระพริบตารับรู้เรื่องราว

ครอบครัวเดือดร้อนแน่  ประเสริฐเอาลูกสาวมูลคนโตทำงานเสาร์อาทิตย์เพิ่มหน่อย ให้อยู่งานในแหละ จะได้พอกับกำลังเด็ก” เมียมูลยกมือไหว้ขอบคุณ มณีเดินกลับที่ทำการด้วยความคิดคำนึง
            "ปากพล่อยแท้ๆเรา ไม่น่าไปถามมูลเลย"



                               

                   เด็กหญิงลูกสาวมูลขึ้นมาทำงานระหว่างวันหยุดเพิ่มเงินรายได้ให้กับครอบครัว  ตกกลางคืนทุกคืน มีงานเหมาให้เด็กๆ ที่มีปัญหาได้ทำ  เช่น  กรอกดินใส่ถุง 100 ถุง 10 บาทคืนหนึ่งราว 3 ชม.กรอกดินใส่ถุงได้ 300 ถุง ก็มีรายได้เพิ่มขึ้น  มณีซิกแซกเบิกจ่ายเงินให้แบบไม่ต้องลงลายมือชื่อ

ใช่เลย!  มณีโกงหลวงเพื่อปรับกลยุทธการทำงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์อีกตามเคย

ทุกครั้งที่มีคนเกิด  ประเสริฐมีหน้าที่นำของไปเยี่ยมเยียนทุกคนไป  มีคนป่วยก็ให้จัดรถไปส่งที่โรงพยาบาลทุกครั้ง ไม่ว่าจะไปโรงพยาบาลไหน  เป็นสวัสดิการที่มณีได้สั่งการให้ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

น้ำมัน  รถ ก็ของหลวง ไม่มีหน่วยราชการไหนจะเข้ามาโอบอุ้มชาวบ้านได้ทั่วถึง หน่วยงานอย่างเราอยู่ใกล้ชิดเขา ใช้กำลังของเขา จึงต้องเป็นหน้าที่ที่พึงเอื้ออาทรต่อกันอย่างพี่น้อง มณีพูดกับประเสริฐ

 มณีทำแบบฟอร์มขออนุเคราะห์ค่ารักษาพยาบาลไปถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลให้ไปด้วย  โชคดีที่มณีไปกราบขอด้วยวาจาไว้ทุกโรงพยาบาล แล้ว พอเห็นหนังสือก็ได้รับความอนุเคราะห์ให้ทุกครั้ง  แต่บางคนไม่เคยเจ็บไข้ได้ป่วยเลย ครั้นถึงเวลาจะป่วยก็เกิดปุ๊บปั๊บ

หัวหน้าครับ ลุงพุฒป่วยหนักมากนะครับ ไปเยี่ยมหรือยัง?” ลุงชุ่มถามเช้าวันหนึ่ง

ฮะ ! นั่นซิ ไม่เห็นแกออกงานเลย ไม่มีใครบอกด้วย  ผมก็มัวแต่ยุ่งๆ หลายเรื่อง ยังไงต่อไปใครเป็นอะไร ลุงชุ่มมาบอกหน่อยนะ บางทีผู้ช่วยก็หลงลืมไปบ้างมณีต่อว่า และขอร้องลุงชุ่ม

ดูท่าทางเหมือนจะไม่ป่วยเลยนะ ลุงพุฒแข็งแรงมากๆ” มณียังงง

มณีรับรู้ด้วยความเป็นห่วง และยังนั่งทำงานอยู่ในที่ทำการเพื่อตรวจสอบการเสนอเอกสารการเบิกจ่ายค่าแรงประจำเดือน ทองม้วนยกข้าวมื้อกลางวันให้กิน  แต่ยังไม่ทันจะได้กิน เผ่นก็เผ่นมาเร็วจี๋

            หัวหน้าครับ ลุงพุฒถามหา อาการไม่ดีมากแล้วนะครับ หัวหน้าลงไปดูเถอะ

มณีตกใจรีบลุกขึ้น พลางพับเอกสารใส่ลิ้นชักแล้วให้ทองม้วนเก็บอาหารเข้าตู้กับข้าวในครัวก่อน รีบขับรถลงไปในหมู่บ้านด้วยความเร็วจี๋ มณีจอดรถ ดับเครื่อง เข้าเกียร์คาไว้พร้อมกับยกเบร็คมือ แล้วจ้ำอ้าวไปที่บ้านลุงพุฒ มีชาวบ้านมามุงดูกันเต็มไปหมด พอเห็นหัวหน้า ป้าม้วนซึ่งผมเผ้ายุ่งเหยิงยิ่งกว่าทุกวันก็โวยวายขึ้น

มาช้าจังหัวหน้า  ลุงพุฒจะไปแล้ว เร็วๆๆ” ป้าม้วนพูดด้วยเสียงสั่นเครือ แล้วน้ำตาก็ไหลลงมาเป็นทาง

มณีเดินเข้าไปหาลุงพุฒที่มองหน้านิ่ง  เสียงแหบๆ แผ่วๆ เรียกหามณี  มณีจับขาลุงพุฒ รู้สึกว่าขาลุงพุฒเย็นเฉียบ และค่อยๆ เย็นขึ้นไปเรื่อยๆ 

          

            “หัวหน้า  ฝากลูกกับเมียผมด้วยเสียงลุงพุฒเบาแผ่วจนมณีต้องแนบหูใกล้ๆปาก

มณีเอื้อมมือไปแตะที่หน้าอกลุงพุฒ "เย็นเฉียบ" มณีน้ำตาคลอด้วยความสงสาร พูดได้เพียงสั้นๆ

ครับลุงพุฒ

ลุงพุฒค่อยๆ หลับตาลง  บุญเทียมหมออาสาสมัครพลิกเปลือกตาดู แล้วพูดค่อยๆ

ลุงพุฒไปดีแล้วเสียงร้องไห้โหยหวนของป้าม้วนบาดใจทุกคน 

แล้วฉันจะอยู่กับใคร ๆ น้ำตาไหลพราก ผมเผ้ายุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงยิ่งกว่าทุกวัน  เด็กหญิงตาลูกสาวลุงพุฒน้ำตาไหลย้อยเป็นคราบที่ร่องแก้ม  เดินเข้าไปซบอกลุงพุฒด้วยความอาลัยรัก ทุกคนกลั้นก้อนสะอื้นอย่างยากลำบากใจ   หลวงพ่อลงมาร่วมด้วยเมื่อไรไม่มีใครสังเกตพูดขึ้นเบาๆ

ความตายมาพรากจากไปเป็นอนิจจัง

งานศพลุงพุฒนิมนต์พระมาจากวัดหนองห้า 3 องค์ เพื่อให้ครบสี่องค์  ในงานชาวบ้านช่วยกันทำอาหารมาเลี้ยงกันเอง  เพราะว่าบ้านลุงพุฒทำอะไรไม่ได้เลย มีแต่บ้านโล่งๆ ป้าม้วนยิ่งแย่หนักขึ้นเพ้อพร่ำรำพันไม่ขาดปาก ตานั่งเฝ้าศพลุงพุฒอยู่ปลายเท้า มณีมองดูด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย แล้วหันไปคุยกับชาวบ้าน

ประสิทธิ์แก้วเห็นด้วยไหม ถ้าจะตั้งสวัสดิการเพื่อผู้สูงอายุ  ตายก็จะได้มีเงินทำศพ ถ้ายังไม่ตายเจ็บป่วยแบบมูลก็จะได้มีเงินเดือนๆ ละก้อนหนึ่งหล่อเลี้ยงชีวิตได้ ไม่มากก็น้อย

ทุกคนเห็นด้วยกับแนวคิดของหัวหน้า  แต่ทุกคนคิดไม่ออกว่าหัวหน้าจะทำอย่างไร   จะหาเงินมาจากไหน มองด้วยสายตาเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง            

ถ้าทำได้ก็ดี  ครับ?” มณียิ้มที่ชาวบ้านสนอง 

ดูลุงพุฒซี แก่หง่อมไม่ทำงานก็อดตาย แกไม่ได้ตายคนเดียว ลูกเมียแกอีกเล่า พอแก่แล้วน่าจะไม่ต้องทำงาน แต่ก็ไม่มีใครเลี้ยง  ต้องทำจนตายคามือนั่นแหละเสียงมณีที่พูดเบาสั่นด้วยความสะเทือนใจ น้ำตารื้นขึ้น ชาวบ้านมองหน้ามณีนิ่ง แววตารับรู้สัญญาณที่ปรากฏ

            หลังงานศพลุงพุฒหลายวัน  มณีตัดสินใจเข้าเมืองน่าน และแวะไปคุยกับเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง "น่านนที" ผู้สื่อข่าวน.ส.พ.ไทยรัฐ ประจำจังหวัดน่าน เล่าให้ฟังถึงความระทมทุกข์ของชาวบ้านซึ่งไม่เคยมีรัฐสวัสดิการใดๆ

เฮ้ย! คิดอะไรวะ มณี สร้างโรงเรียน สร้างวัด ตั้งมูลนิธิส่งเด็กเรียนหนังสือ นี่จะตั้งกองทุนสวัสดิการเพื่อคนชราอีกหรือ มันไม่ง่ายนะ ?” เฮียน่านว่าพลางมองหน้าเพื่อนรุ่นน้องอย่างเคร่งขรึม
            "ผมอยากทำจริงๆนะเฮีย ผมสงสารชาวบ้าน จนจนเจ็บจริงๆ" มณีย้ำ

ถ้าจะทำจริงๆ ก็จะเกิดผลดีกับชาวบ้านตาดำๆ มาก  ดีว่ะ! เฮียเห็นด้วยมณียิ้มกว้างที่มีคนเห็นด้วยโดยเฉพาะคนอย่างเฮียน่าน

แต่ว่า เฮียว่า ถ้าจะทำจริงๆ น่าจะขอเงินแบบให้เขาเต็มใจให้ คนให้มีความสุข สนุกด้วย  ได้บุญด้วย

มณีนั่งฟังด้วยความตั้งใจ คิดในใจ แกสมองไวและเข้าใจคิดจริงๆ

จัดงานบอลล์เลย ลีลาศรำวงการกุศลเพื่อผู้สูงอายุบ้านภูพยับหมอก เอาเลย เฮียเอาด้วย มณีช่วยเขาไว้เยอะนี่ ลองขอดูมั่งเฮียน่านบรรยายเบ็ดเสร็จก็หัวเราะ
            มณีนึกภาพออก ใช่
! ให้แล้วมีความสุขสนุกสนานด้วย มันต้องดิ้นๆๆ และเมื่อนำความคิดมาขยายฐานที่ประชุมกลุ่มย่อย ประเสริฐ ครูใหญ่มิ่งขวัญ ครูโสภณ ครูสายธาร และหัวหน้าคนงาน เครื่องชูกำลังวางเรียงหน้าทุกคนเว้นแต่มณีน้ำสีขาวเหมือนเดิม  ประเสริฐคิดตัวเลขหยุกหยิกๆ แล้วก็พูดด้วยเสียงแผ่วเบาตามเคย

พูดดังๆ ได้ไหม ของยังไม่ขึ้นหรือไง?” ครูโสภณแซวจังจัง


                               

             “ผมว่าบัตรงานบอลล์ 120 โต๊ะๆ ละ 1,000 บาท ถ้าขายหมดหักค่าใช้จ่ายแล้วจะเหลือประมาณ 40,000 บาท  แต่ถ้าเก็บเงินไม่ได้ 20% จะได้กำไรลดลงไป 30%ครับ
ประเสริฐประเมินคร่าวๆ เสียงดังฟังชัดขึ้น พูดเสร็จก็ยกแก้วขึ้นดื่มชูกำลังเสียง

“ถ้าตกลงตามนี้แล้วได้แค่ไหนก็แค่นั้น โรงเรียนจัดการเรื่องนักเรียนช่วยเสิร์ฟได้ไหมครับ?” มณีหันไปถามครูใหญ่ๆ รับปากว่า

เรื่องนักเรียนทำหน้าที่บริการไม่มีปัญหาครับ จัดการได้เลย ผมจะเดินขายบัตรให้กับโรงเรียนต่างๆ ในอำเภอนาน้อย เวียงสา นาหมื่น น่าจะได้สัก 50 โต๊ะครับ” ครูใหญ่มิ่งขวัญสนอง ครูโสภณพยักหน้าเห็นดีด้วย

ต้นน้ำ  ป่าไม้เขตแพร่  ป่าไม้จังหวัดน่าน  บริษัทน่านทำไม้จำกัด บริษัทแพร่ทำไม้จำกัด น่าจะได้เท่าไรประเสริฐ?” มณีถามเลขานุการส่วนตัว

รวมๆ กันผมว่าเกิน 50 ครับ” เสียงประเสริฐเริ่มดังขึ้น

เป็นอันว่า  ตกลงจัดงานบอลล์การกุศลเพื่อผู้สูงอายุมณีมองหน้าทุกคน ทุกคนพยักหน้าด้วยความเห็นชอบ

ดนตรี  เวที  พิธีกรงาน หาได้หมด  แต่ปัญหาคือ จะตั้งชื่องานครั้งนี้ว่าอะไรดีมณีปรารภขึ้น    

ในที่สุดตกลงกันว่าจะใช้ชื่อ ภูพยับหมอกบอลล์วันที่…..เดือน……….ปีพ..25…….หนาวจัดกำลังดี ดิ้นเท่าไรก็ไม่มีวันเหนื่อย เหงื่อไม่มีตกกลีบ

มณีขึ้นป้ายผ้าหน้าหน่วยด้วยข้อความว่า 

อาบไอหมอก ลีลาศการกุศลเพื่อคนชรา  ภูพยับหมอกบอลล์ ..

และในที่สุดการเตรียมงานก็ผ่านไปด้วยดี  ชาวบ้านที่ต้องเข้ามาทำงานเรียบร้อยทุกคน  งานเตรียมการเสร็จสิ้นลงด้วยความหวัง ท่ามกลางหุบเขากลางพนาป่าไพร  เป็นความสุขที่ทุกคนเต็มใจให้ การลีลาศไม่มันเท่าการดิ้น ดังนั้น พอได้จังหวะ การเปลี่ยนดนตรีเป็นสะติงจะยิ่งมันหยด จะได้หายหนาว
            มณีเตรียมจ้างวงดนตรีไว้สองวง สองช็อตเพื่อเปลี่ยนอารมณ์งาน

วันงานมาถึง แขกผู้มีเกียรติทยอยกันเข้ามาอย่างกับมด  ครู่เดียวก็เต็มงาน  ดนตรีบรรเลง พิธีกรปากหวานเจ้าประจำที่ร่วมงานกันเสมอมา อาจารย์ประจักษ์ กาวี หว่านคำเยินยอไม่ขาดช่วง  การประกวดนางงามกิตตินันท์บอลล์เสร็จสิ้น ได้ลูกสาวพี่นึกร้านอาหารเจ้าประจำเป็นนางงามของงาน 
                                               
                                                                     แด๊นซ์ กระจาย เพื่อคนชรา

            ความสนุกเริ่มเมื่อใกล้ดีแตก ด้วยการเปลี่ยนดนตรีจากวงสากลเป็นวงสะติง การดีดดิ้นอย่างเมามันเริ่มขึ้น และนั่นหมายถึงคืนนี้ดิ้นได้ไม่มีหยุด อากาศที่หนาวเย็นช่วยให้ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เสร็จงานภูพยับหมอก
บอลล์ได้เงินตั้งกองทุนสวัสดิการตามเจตนารมย์
              เฮียน่านชม "มึงยอด"

  งานบอลล์เสร็จสิ้น ได้เงินตั้งกองทุน 49,000 บาท มณีเชิญครูและชาวบ้านประชุมเพื่อยกร่างระเบียบการใช้จ่ายเงินกองทุน บำนาญประชาชน” ของหมู่บ้านภูพยับหมอก  ชาวบ้านยิ้มด้วยความมั่นใจ เสียงพูดคุยเป็นไปด้วยความสุข มณียิ้มพรายด้วยท่าทีพึงพอใจ
              "ถึงแม้จะช่วยเหลือซึ่งกันและกันในหมู่บ้านเดียวก็ยังดีกว่าไม่ได้ช่วยเหลืออะไรกันเลย"

  การประชุมคณะกรรมการกองทุนเริ่มขึ้นอย่างเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือ มูล ที่เป็นอัมพฤกษ์อยู่  ความสุขเกิดได้จากการรวมหัวใจเป็นดวงเดียวกัน 
               "ลุงพุฒ ขอบคุณนะครับ" มณีรำพึงในใจ

                                               

 

                                                       บำนาญประชาชน

Tags : jomgong

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view