เสือกลิ่นสาบ ตอนที่1. ป่าไม้เขตน้อย โดย "อินทรีดำ"
กรมป่าไม้ใช้อธิบดีเปลือง ชั่วเวลา 2 ปี มีการเปลี่ยนตัวอธิบดีหลายคน ด้วยเหตุผลนานาประการ แต่จะอย่างไรก็ตาม อธิบดีกรมป่าไม้คนใหม่ล่าสุดมีดีกรีเป็นดอกเตอร์ ที่ได้ชื่อว่ามีหัวก้าวหน้า ภาษาอังกฤษดี และกล้าได้กล้าเสีย ในทันทีที่ได้นั่งแท่นตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้เต็มตัว ท่านได้กำหนดแผนการพัฒนาป่าไม้รูปแบบใหม่ล่าสุด
นั่นก็คือ ตั้งสำนักงานพัฒนาป่าไม้ขึ้น เป็นการนำร่อง
โดยใช้พื้นที่ป่าไม้เขตแพร่และป่าไม้เขตลำปางเป็นเป้าหมายในครั้งนี้
ผืนป่าสูงชันสลับซับซ้อน
กรมป่าไม้แบ่งการบริหารราชการเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเรียกว่า การบริหารส่วนกลาง อันประกอบด้วยกองต่างๆประจำทำงานอยู่ในกรมป่าไม้ขึ้นตรงต่ออธิบดี และยังมีป่าไม้เขตอีกจำนวน 21 เขตที่กระจายบริหารราชการต่างกรมป่าไม้อยู่ในภูมิภาค แต่ขึ้นตรงกับอธิบดี ซึ่งแต่ละเขตถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มๆจังหวัด ๆ ป่าไม้เขตหนึ่งบริหารงานอาจจะ 1-5 จังหวัดแล้วแต่การแบ่งปันความรับผิดชอบ
และอีกส่วนหนึ่งเรียกว่าการบริหารราชการส่วนภูมิภาค อันได้แก่ป่าไม้อำเภอ-ป่าไม้จังหวัดอันเป็นการบริหารราชการด้านการบริการพ่อค้าประชาชนที่ขึ้นตรงต่อผู้ว่าราชการจังหวัด การบริหารงานต้องประสานกันผ่านระดับอธิบดีและผู้ว่าราชการจังหวัดนั้นๆ
“เดิมทีเดียว ป่าไม้เขตหนึ่งๆถือกันว่าเป็นอธิบดีภาคหนึ่งๆ มีกรอบงานและหน้าที่คล้ายกับการย่อส่วนกรมป่าไม้ลงไปปฏิบัติในส่วนภูมิภาค และในอดีตก็เคยแบ่งย่อยจากป่าไม้เขตลงไปเป็นเขตย่อยๆที่เรียกว่าป่าไม้แขวงเพื่อให้เกิดความกระชับในการบริหารราชการ แต่ต่อมาป่าไม้แขวงถูกยุบเลิกไป จึงเหลือเพียงป่าไม้เขตเท่านั้น” ท่านอธิบดีพูดไปพลางก็ส่ายสายตาจับจ้องไปยังใบหน้าของป่าไม้เขตแต่ละคน แล้วก็พูดต่อไปอีกว่า
“แท้ที่จริงสำนักพัฒนาป่าไม้ก็คือรูปแบบป่าไม้แขวงในอดีต ซึ่งจะรวบรวมพื้นที่เป็นเขตย่อยๆโดยให้มีหน่วยงานทุกหน่วยของกรมป่าไม้ที่สังกัดส่วนกลางทั้งหมดมาปฏิบัติงานร่วมกัน โดยมีหัวหน้าสำนักพัฒนาป่าไม้เป็นผู้บริหารแทนป่าไม้เขตใหญ่ๆอีกระดับหนึ่ง เหมือนเป็นป่าไม้เขตน้อยๆในพื้นที่”
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวในที่ประชุมป่าไม้เขตจากทั่วประเทศ เพื่อมารับทราบนโยบายและแนวคิดแนวทางปฏิบัติ
“แต่ในการแบ่งงานคราวนี้ ใช้ Area Approach กำหนดพื้นที่เป็นหลัก โดยรวมเอาหน่วยงานทุกหน่วยในพื้นที่มาขึ้นกับสำนักงานนี้ ผมเห็นว่า...” ท่านอธิบดีหยุด
มีป่าไม้เขตคนหนึ่งยกมือขออนุญาตออกความเห็น
“ถ้าจะทำการพัฒนาในรูปแบบการบริหารงานใหม่เช่นที่ท่านกล่าวมานี้ ผมเห็นว่าถ้าจะทำการพัฒนารูปแบบการบริหารงานใหม่เช่นที่ท่านกล่าวมานี้ ให้แปลงเป็นป่าไม้เขตย่อยที่ยึดพื้นที่เป็นลุ่มน้ำๆ ไป เพื่อจะได้บริหารจัดการได้อย่างชัดเจน ผลดีคือ สามารถวัดความเปลี่ยนแปลงเป็นลุ่มน้ำ สามารถวิเคราะห์ได้แม่นตรงยิ่งขึ้น“
“ฟังดูแล้วท่านป่าไม้เขตมีแนวคิดที่ดี แต่ ณ วันนี้ผมอยากให้ดำเนินการตามที่ผมได้กล่าวและกำหนดแผนปฏิบัติไปแล้วตามนี้ ใครมีปัญหาอีกหรือไม่” พลางส่ายสายตาผ่านหน้าป่าไม้เขตคนที่เสนอแนวคิดเสริมอย่างไม่ค่อยพอใจนัก
“ป่าไม้เขตแพร่(แพร่-น่าน)แบ่งเป็น 17 สำนัก แพร่ 11 สำนัก น่าน 6 สำนัก ป่าไม้เขตลำปางแบ่งเป็น 9 สำนัก ในแต่ละสำนักพัฒนาป่าไม้ต้องรับผิดชอบทุกหน่วยงานในพื้นที่นั้นๆ แผนปฏิบัติการจะแจกแจงไปในแผนงบประมาณ ขอให้ทุกเขตไปดำเนินการอย่างเคร่งคัด ก.พ.จะส่งเจ้าหน้าที่ไปประเมินผลงานทุก 6 เดือน ถ้าประสบความสำเร็จเกินคาด สำนักพัฒนาป่าไม้จะปรับเป็นระดับ 7 และขยายผลไปทั่วประเทศ ท่านป่าไม้เขตแพร่และลำปางคงต้องทำงานหนักหน่อยนะครับ” อธิบดีกล่าวสรุปแล้วยิ้มกว้าง
“ผมป่าไม้เขตแพร่ยินดีสนองแนวคิดการพัฒนาป่าไม้ของท่านอธิบดีครับ” ป่าไม้เขตแพร่ นายธานี ศรีธวัช พร้อมรบ
“ผมป่าไม้เขตลำปาง ก็ยินดีรับบัญชาครับ ผมมั่นใจว่าจะสนองนโยบายของท่านอธิบดีได้อย่างครบเครื่องครับ” ป่าไม้เขตลำปาง นายแสวง ม่วงขำ สนองบ้าง เล่นเอาท่านอธิบดียิ้มจนตาหยี พร้อมกับเอ่ยวาจาเบาๆ
“ขอบคุณ ๆ ท่านป่าไม้เขตทั้งสอง”
หลังจากรับทราบนโยบายของท่านอธิบดีกรมป่าไม้เรียบร้อยแล้ว ท่านป่าไม้เขตแพร่ นายธานี ศรีธวัช ได้เรียกหน่วยงานในสังกัดป่าไม้เขตแพร่ซึ่งมีทั้งหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดแพร่และจังหวัดน่าน ในสังกัดป่าไม้เขตแพร่ประกอบด้วย ฝ่ายปลูกสร้างสวนป่า ฝ่ายป้องกันรักษาป่า ฝ่ายจัดการที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ฝ่ายจัดการป่าไม้ และหน่วยงานสังกัดส่วนกลางแต่อยู่ในท้องที่ป่าไม้เขตแพร่(แพร่-น่าน) ทั้งหมด อาทิเช่น หน่วยงานในสังกัดกองอนุรักษ์ต้นน้ำ กองอุทยานแห่งชาติ กองอนุรักษ์สัตว์ป่า ซึ่งจะต้องเข้าร่วมปฏิบัติการคราวนี้ด้วย
บ้านพักของมณี บันลือ
การแบ่งกรอบงานใหม่ครั้งนี้ มณี บันลือ นักวิชาการป่าไม้ 6 หัวหน้าหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอก ทำหน้าที่หัวหน้าสำนักงานพัฒนาป่าไม้ที่นน. 2 ใช้หน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอกเป็นสำนักงาน โดยมีหน่วยงานในสังกัดดังนี้คือ ระดับฝ่ายประจำในสำนักงานคือ ฝ่ายจัดการป่าไม้ ควบคุมสัมปทานทำไม้ระยะยาวโดยมีป่าสัมปทาน 2 ป่าคือป่าน้ำน่านฝั่งซ้ายและป่าน้ำน่านฝั่งขวา
ฝ่ายจัดการต้นน้ำ ควบคุมการปลูกป่าปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอก สถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน ฝ่ายป้องกันรักษาป่า ควบคุมงานป้องกันและปราบปราม มีหน่วยป้องกันรักษาป่าน้ำหิน และหน่วยป้องกันรักษาป่าน้ำแหง ฝ่ายจัดการที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ควบคุมการจัดที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ฝ่ายบริหารทั่วไป ควบคุมงบประมาณและการบัญชี ไม่มีอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแต่อย่างใด มีพื้นที่รวมทั้งหมด 1,460 ตารางกิโลเมตรหรือ 912,500 ไร่
อัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่เป็นข้าราชการ 12 คน ลูกจ้างประจำ 4 คน ลูกจ้างชั่วคราวรายเดือน 6 คน รวมเป็น 22 คน เท่ากับข้าราชการ 1 คนต้องมีหน้าที่ดูแลพื้นที่ป่าไม้ 76,041.66 ไร่ สัดส่วนความรับผิดชอบที่ไม่สมดุล และงบประมาณก็เจียดจ่ายจากหน่วยงานนั้นๆมาผสมผสานกันไป เป็นระบบแบ่งปันที่ยุ่งยากเพราะว่าไม่มีงบประมาณโดยตรงเลย
ผาชู้
หลังการรายงานตัวของทุกคนและทุกฝ่าย มณีเชิญประชุมในสายวันหนึ่ง โดยดัดแปลงโรงรถเก่าเป็นห้องประชุมโล่งๆ มีโต๊ะสนามที่สร้างไว้หลายชุดเรียงเป็นโต๊ะประชุม สมชายตั้งสมุดเซ็นชื่อผู้เข้าประชุม มณียืนรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อทุกคนเข้าที่ มณีนั่งที่หัวโต๊ะแล้วเริ่มการประชุม
“สวัสดีทุกคนอีกครั้งครับ ก่อนอื่นผมขอแนะนำตนเองก่อน และขอให้ทุกคนแนะนำตัวเองด้วยครับ ผมมณี บันลือ นักวิชาการป่าไม้ 6 อดีตหัวหน้าหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอก วันนี้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าสำนักพัฒนาป่าไม้ที่ นน.2 หน้าที่รับผิดชอบก็ดังที่ทุกคนทราบกันดีแล้ว พี่ชัยเชิญครับ” มณีหันไปทางพี่ชัย
“ผมชัย เชี่ยวชาญ เจ้าหน้าที่บริหารงานป่าไม้ 6 หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปราบปราม ประสบการณ์ ผมผ่านงานทุกงานของป่าไม้เขตแพร่ อยู่ทั้งแพร่และน่านมากว่า 16 ปี มีหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.2 และรับผิดชอบการป้องกันและปราบปรามทั้งสำนัก 1,460 ตร.กม.ครับ ผมมีเมียสามลูกห้าคนครับ”
พี่ชัยพูดจบก็หัวเราะก็เลยหัวเราะตามกันทุกคน
“ผมเกียรติ งามเครา เจ้าพนักงานป่าไม้ 5 หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามที่นน.2 สังกัดหัวหน้าชัยครับ”
“ผมบุญสม ฤทธิ นักวิชาการป่าไม้ 5 หัวหน้าฝ่ายจัดการป่าไม้ รับผิดชอบการทำไม้ในป่าสัมปทานระยะยาวที่ นน.2และนน.3 ป่าแม่น้ำน่านฝั่งซ้ายและฝั่งขวา มีข้าราชการ 1 คนครับ” มีเสียงหัวเราะยิ่งดังขึ้น
“ผมอร่าม กลางนา เจ้าพนักงานป่าไม้ 4 หัวหน้าฝ่ายจัดที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ แต่สำนักนี้มีแต่ป่าเตรียมการสงวน” คราวนี้เสียงหัวเราะขำกลิ้ง “ผมก็เลยมีแต่ตัวล่อนจ้อนไม่มีงบประมาณสักบาท แต่ผมมีความสามารถพิเศษที่เมื่อครั้งอยู่ที่ป่าไม้เขตแพร่ ผมไปร้องเพลงตามคาเฟ่ท์หารายได้พิเศษครับ ถ้ามีงานสังสรรค์เมื่อไรผมขอรับใช้ทุกคนครับผม”
จบคำก็มีเสียงปรบไม้ปรบมือ ประสานเสียงหัวเราะเป็นที่สนุกสนาน
“ผมสมชาย สายทอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ 1 หัวหน้างานธุรการและการเงิน แนวถนัดเพลงฮูขี้ดำครับ” มีเสียงฮาเป่าปากดังขึ้นด้วย เพราะว่าทุกคนพอจะรู้เพลงเด็ดของเขามาบ้างแล้ว ยิ่งเขาเอ่ยเจือรอยยิ้มจากใบหน้าทะเล้นๆยิ่งเพิ่มความหรรษาได้ไม่น้อย
“ผมประเสริฐ งามชนะ เจ้าพนักงานป่าไม้ 4 หัวหน้าหน่วยปรับปรุงต้นน้ำภูพยับหมอก ที่ตั้งที่ทำการสำนักนี้แหละครับ รับผิดชอบปลูกป่าต้นน้ำและยินดีร่วมงานทุกฝ่าย” ด้วยร่างที่ผอมเกร็งผิวชาวใต้ ใบหน้าเรียบนิ่ง บอกบุคลิกสุขุมลุ่มลึก
“ผมมนต์ชัย ใจดี เจ้าพนักงานป่าไม้ 3 หัวหน้าสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน หน่วยที่ตั้งอยู่สูงสุดในพื้นที่สำนักนี้ 1900 เมตรจากน้ำทะเล และเป็นหน่วยเดียวที่เหนื่อยใจมากกับชาวเขาเผ่าม้งที่ กอ.รมน.นำมาปล่อยทิ้งไว้เมื่อปีพ.ศ.2518 มีหน้าที่วิจัยต้นน้ำ ไม้เถื่อนวิ่งผ่านหน้าสถานีผมไปแพร่ได้อย่างรวดเร็ว และปลอดการจับกุมมานานหลายปีแล้วครับ”
และทุกคนก็รายงานตัวจนครบ 12 คน ไม่เว้นแม้กระทั่งลูกจ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวรายเดือนประจำหน่วยป้องกัน
“เรื่องงบประมาณ ป่าไม้เขตแพร่ให้งบค่าน้ำมันเชื้อเพลิงมาเดือนละ 200 ลิตร ในการปราบปรามและงานทั่วไป ผมคิดว่าคงไม่พอแน่นอน ค่าเบี้ยเลี้ยง และอื่นๆพอมีเจียดจ่ายได้บ้าง ฝ่ายจัดการป่าไม้มีค่าใช้สอย ค่าวัสดุ ในการออกไปคัดเลือกตีตราไม้ และตีตราชักลากไม้ เรื่องการตีตราไม้ผมอยากให้ทุกคนที่ทำงานตรงนี้สบายใจได้ว่า จะแบ่งปันกันออกไปตีไม้ในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยเฉพาะฝ่ายป้องกันรักษาป่าที่ต้องทำงานหนัก ฝ่ายจัดการที่ดินด้วยครับ แต่ทั้งหมดทุกคนต้องสมทบทุนกองกลาง 5% ”
“ส่วนสถานีวิจัยและหน่วยปรับปรุงต้นน้ำมีงบประมาณมากกว่าหน่วยงานอื่นๆ คงต้อง ตัด 5% เพื่อสมทบทุนในการปราบปรามสำนักพัฒนาป่าไม้ที่นน.2 อาหารการกินกินรวมกันทั้งสำนัก มีแม่ครัวคอยดูแลให้ ยกเว้นเสื้อผ้าใครๆก็ซักเอาเองนะครับ สำหรับพี่ชัยคงไม่เดือดร้อนเรื่องนี้เพราะว่ามีแม่บ้านตั้งสามคน”
ศาลากลางน้ำบ้านภูพยับหมอก
มีเสียงฮาครืนใหญ่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข และเป็นกันเอง มณีกล่าวด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุขว่า
“ผมขอให้ทุกคนร่วมใจกันทำงานให้สมกับที่อธิบดีกรมป่าไม้ปรารถนาที่จะปฏิวัตรแนวทางปฏิบัติใหม่ ถ้ามีปัญหาอะไรขอได้กรุณามาเล่าให้ผมฟังตรงๆ เป็นอะไรก็เป็นกัน ขอบคุณทุกคนครับ”
ต่อจากนั้นความใกล้ชิดสนิทสนมยิ่งเพิ่มมากขึ้น ด้วยประเสริฐจัดงานต้อนรับอย่างเต็มที่ อร่ามสำแดงความเป็นอดีตนักร้องคาเฟท์ได้อย่างสมจริง สมชายใส่มุกตลกโปกฮาไม่หยุด ชัยวาดลวดลายเสือเก่าด้วยเพลง “ชายชั่ว” อย่างกินใจ มณีทำหน้าที่พิธีกรมือเก๋าที่เรียกเสียงหัวเราะได้ทุกครั้งที่หยอกแกมหยิก พลิกมุขตลบ
งานเลี้ยงดำเนินไปจนทุกคนแทบหมดแรง จึงร้างรากันไปเอง กระนั้นรุ่งเช้าหลายคนยังตื่นแต่เช้าตรู่ปฏิบัติกิจได้ตามปกติ บ้างออกไปจ๊อกกิ้งออกกำลังกาย หลายคนกินกาแฟคุยกันอย่างมีความสุข