http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,010,345
Page Views16,319,528
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ควันหลงปีใหม่ 2010 โดยป่าน ศรนารายณ์

ควันหลงปีใหม่ 2010                                       โดยป่าน ศรนารายณ์


                                                             ควันหลงปีใหม่ 2010                                      

                                                                                                         โดยป่าน ศรนารายณ์

                ไม่ว่า เชื้อชาติใดๆ สังคมใดๆ เมื่อถีงเทศกาลวันปีใหม่แล้วล้วนเปี่ยมล้นไปด้วยบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง ที่เห็นได้ชัดเจนและเพิ่งผ่านพ้นไปก็ เทศกาลวันคริสมาสท์ของชาวคริสท์  เทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของคนทุกชาติทั่วโลก ซึ่งมีแต่ความครึกครื้นและสนุกสนาน เป็นความอภิรมณ์หนึ่งในรอบปี  แต่สำหรับการท่องเที่ยวในเทศกาลเช่นที่ว่านี้ในเมืองไทย หากมิได้มีการวางแผนการอย่างรอบคอบแล้ว บอกได้คำเดียวว่า เหนื่อย ลองติดตามพฤติกรรมการท่องเที่ยวช่วงวันปีใหม่ดู แล้วท่านจะรู้ว่า ปีหน้าฟ้าใหม่ควรจะทำอย่างไรดี 

                                  
                                                                     เย็นย่ำตะวันรอนๆ

                 ต้องขอบอกกล่าวกันก่อนนะคะว่า  ป่านเองก็เป็นประเภทที่อยากไปไหนก็มักจะไปตามใจชอบทันทีทันใด ไม่ค่อยมีแผนการนัก เรื่องมันก็เลยลงเอยแบบนี้ แต่...แม้มิได้อย่างหนึ่งหากรู้จักปรับเปลี่ยนอุณหภูมิความต้องการได้ ก็ยังมีเรื่องน่าตื่นเต้นมากมายให้จับต้องได้ 
                 สายของวันปีใหม่หลังการชำระล้างร่างกายและกิจธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เกิดความรู้สึกว่าเหงาๆ อยากไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง ทั้งๆที่รู้นะว่า วันหยุดนักขัตฤกษ์ยาวๆอย่างช่วงวันปีใหม่ 5 วันติดต่อกันนั้น ที่พักแรมเอย ร้านอาหารการกินเอย  การเข้าออกห้องสุขาอาลัยเอย  การจราจรบนท้องถนนเอย ล้วนแต่ชวนให้เครียดได้ง่ายๆ เพราะว่าช่วงเวลาเช่นที่ว่านี้แหละเคยมีประวัติศาสตร์มาหลายครั้งแล้วค่ะว่า
                 ต้องแย่งกันเที่ยว  แย่งกันพัก  แย่งกันกิน  แย่งกันเข้าห้องสุขา และแย่งกันบึ่งรถยนต์ไปสู่เป้าหมายอย่างกับอดอยากเสียเหลือเกิน แม้จะเลือกเอาวันหยุดกลางช่วงเวลาก็ตาม กลิ่นอายของความคับคั่งหนาตาอยู่เช่นกัน เพียงแต่เบาบางลงไปนิดหน่อย

          
                                                               แอคชั่นกันคนละรูปสองรูป   
        
                  คณะของป่านบึ่งรถยนต์ขนาดครอบครัวไปด้วยกัน 3 ชีวิต มุ่งหน้าออกจากบ้านท่าเดียว รถยนต์ไต่อยู่บนถนนหน้าบ้านแล้วยังไม่รู้กันเลยว่าจะไปที่ไหนดี เรียกว่า ขอให้ได้ไปก็แล้วกัน มันเขาละ
                  "ไปอยุธยาแล้วกัน มีตลาดน้ำให้เที่ยวเลือกกินอาหารได้หลายอย่างด้วยนะ ที่นี่มีการแสดงในน้ำให้ชมด้วย ดึกหน่อยก็กลับมานอนที่บ้าน"
                  "ไม่เอา อยากไปนอนต่างจังหวัด" เสียงหนึ่งแทรกซ้อนขึ้นด้วยมาดมั่น
                  "ไปก็ไป แต่จะไปที่ไหนล่ะ" อีกเสียงหนึ่งเสริม
                  "ไปอย่างนี้ จะมีปัญหาเรื่องที่พักนะ ยิ่งไม่ได้จองไว้ด้วย การจราจรก็ยังแน่นๆอยู่" เสียงแรกกล่าวขึ้นอีกเป็นการทักท้วงเบาๆ
                  "ไม่เอา จะไป" เสียงที่สองยืนยัน เสียงเข้มเลย
                  "ไปก็ไป ไปกินเสต๊กที่มวกเหล็กแล้วกลับก็แล้วกัน" เสียงที่สามว่า เสียงที่หนึ่งเห็นด้วย แต่เสียงที่สามยังยืนยัน
                  "ไปแล้วก็อยากพักที่ต่างจังหวัด อุตสาห์ขนเสื้อผ้ามาด้วยนะนี่" 
                  เป็นอันว่ารถบึ่งหน้าไปทางสระบุรี และมุ่งสู่เป้าหมาย "มวกเหล็ก" ดินแดนแห่งทุ่งหญ้า วัวนม วัวเนื้อ และร้านสเต๊ก เบื้องหน้า รถยนต์วิ่งกันขวักไขว่ แต่ก็ไม่ถึงกับแน่นถนน ด้วยว่าวันที่ไปนี่เป็นวันที่ 1 แล้ว เป็นวันเริ่มต้นปีใหม่เลยทีเดียวเชียวค่ะ  การจราจรที่ว่าหนาแน่นจนแทบขยับเขยื้อนไปไม่ได้คือวันที่ 30-31 ธันวาคม อันเป็นวันส่งท้ายปีเก่า  ใครๆก็มุ่งหน้ากลับบ้านเกิดเมืองนอน โดยเฉพาะคนอีสาน "ต้องกลับ"
                   รถยนต์ของเราแวะพักตามปั๊มที่มีสุขาสะอาดเอี่ยม มินิมาร์ทพร้อมให้เลือกหาของกินเล่นบนรถ เสร็จธระก็บึ่งกันต่อไป จนถึงร้านสเต๊กเจ้าใหญ่ 


                                         
                                                                  สเต๊ก ต้องที่มวกเหล็ก
 
                  เกิดการจราจรติดขัดตั้งแต่ทางเข้าร้าน ต้องไปจอดรถไกลมาก แต่ทุกคนก็อยากกิน "ทนได้" มีเสียงบ่นเบื่อหน่ายกับการจราจลดังกล่าวอยู่แว่วๆ  ในที่สุดก็ต้องไปนั่งรอคิวเชือด เอ้ย ไม่ใช่ ไปนั่งรอคิวเรียกชื่อให้ไปต่อคิวกิน โรงเรือนทุกหลังที่มีบริการขายของสารพัดชนิดเพื่อฝากคนทางบ้านคนเต็มไปหมดหลัง แวะซื้อของฝาก แล้วไปยืนแอคท่าถ่ายรูปเก็บไว้หน่อย  จากนั้นตะวันก็รอนแรมไปไกลจนมืดสนิท จะไปไหนกันต่อดีล่ะ  มืดค่ำเสียแล้ว ไม่มีใครไปชักรถพระอาทิตย์ได้สักคน    
 
        
                 กำแพงภาพสีสันสนุกสนาน หนุ่มสาวนิยมมาถ่ายรูป                           ดาวเคียงเดือน
                                                                         
                  "กลับบ้านเถอะ หาที่นอนไม่ได้หรอก เมื่อกี้โทรไปถามรีสอร์ทที่มวกเหล็กเต็มไปหมด คงหายาก"
เสียงที่หนึ่งกล่าวขึ้น
                  "มาแล้วก็อยากพักค้างอ่ะ  ขับรถมาตั้งหลายชั่วโมงนะ" เสียงที่สองยืนยัน
                  "งั้นก็ลองแวะดูแล้วกัน ถ้ามีก็พัก" เสียงที่สามว่าไปนั่น เสริมกันดีเลย
                  ก็แน่ละซิ เตรียมเสื้อผ้ากันมาแล้วนี่เน๊าะ  
                  ว่าแล้วรถยนต์ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยหนึ่ง มีรีสอร์ทมากมายหลายแห่งซ่อนตัวอยู่ในซอย อันเป็นถนนที่ทะลุไปยังเขาใหญ่ได้ แต่ทุกแห่งก็เต็มหมด เหลืออยู่แห่งหนึ่ง ไฟมืดสลัวๆ น่ากลัวจังเลย ว่างอยู่ มียายแก่ๆสองคนเฝ้าและแสดงตัวเป็นคนจัดการ แต่ด้วยบรรยากาศสลัวๆ ทึมๆ ก็เลยเผ่นดีกว่า ในที่สุดก็บึ่งรถยนต์กลับกรุงเทพมหานครทันใด ท่ามกลางเสียงบ่นเสียดาย  
                   "ปีหน้าเอาใหม่ วางแผนการเลยดีกว่า"

                          
                                                                         สี่แยกราชประสงค์

                  รถยนต์วิ่งด้วยความเร็ว 90 กม./ชม. ถนนโล่งดีกว่าขาไป ทันใดนั้นเอง เหมือนว่าเพิ่งจะนึกได้ รถยนต์ก็พุ่งไปลงยังย่านราชปรารถ -ราชประสงค์-อันเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ  มีศาลพระพรหมที่ผู้คนนับหมื่นแห่กันไปขอพร และแสงไฟที่ประดับประดาไว้รอรับตั้งแต่ช่วงเทศกาลคริสมาสท์จนถึงช่วงปีใหม่อยู่ตามหน้าห้างและโรงแรมที่ส่วนใหญ่ชาวต่างชาตินิยมมาพักแรม 
                  พอจอดรถยนต์ใต้ถุนห้างเรียบร้อยก็ยกคณะเล็กๆ แต่อ้วนๆขึ้นไปเดินอยู่หน้าห้างดัง  โอ้โฮ มีคนมาท่องเที่ยวมากมายเหลือกำลัง ยืนถ่ายรูปกับโคมไฟหลากสีสัน มีทั้งหนุ่มๆสาวๆ และที่มากันตั้งแต่ปู่ย่าตาทวดไปจนถึงลูกหลานเหลน เป็นแหล่งบันเทิงเริงรมณืที่ปราศจากมลพิษ เยี่ยม  ว่ากันว่าทุกปี คนกรุงเทพมาเคาน์ดาวน์กันที่นี่ ป่านไปอยู่บ้านนอกคอกนาหลายปี ไม่รู้เรื่องกับเขาหรอกนะคะ

                       
                                        คริสมาสท์สีทอง                                   ต้นไม้ติดไฟพราวแพรว

                   ภาพที่ถ่ายได้ล้วนเป็นการตกแต่งไฟ แต่แต่งกันหลากหลายรูปแบบ  นักท่องเที่ยว หรือจะเรียกว่าอะไรดี คนกรุงเทพดีไหม ต่างก็ถ่ายรูปด้วยกล้องดิจิตอลเป็นส่วนใหญ่  ใช้มือถือถ่ายก็มี ในยุคดิจิตอลนี้ก็ดีไปอย่างหนึ่ง ถ่ายรูปดีหรือไม่ดีก็เลือกได้ ง่ายต่อการใช้งาน สะดวกที่พกพา แก้ไขเปลี่ยนปรับรูปได้ในคอมพิวเตอร์ก่อนที่จะตกลงใจว่าจะเก็บรูปไหนไว้ ในแผ่นดิสก์  ในแฮนดี้ไดซ์  ในเมมโมรี่เครื่องคอมพิวเตอร์ในบ้าน ที่สำคัญประหยัดเงินค่าฟิล์ม และค่ากระดาษอัดรูป
                   โลกนี้ช่างมหัศจรรย์โดยแท้ แต่อย่างไรก็ตาม ความเชื่อ ความผูกพัน ความสุข และความสนุกสนานเกิดได้แต่ใจตนและคนในครอบครัว เป็นสื่อแสดงถึงความเป็นมนุษย์ที่มีจิตวิญญาณ มีอารมณ์ ความรู้สึก มีจินตนาการ  และมีความสัมพันธ์ 

     
                   ศาลพระพรหม                             ศาลตรีมูระติ                           ศาลพระพิคเนศ

                    หน้าโรงแรมอัมรินทร์ที่ประดิษฐานศาลพระพรหมมายาวนาน มีผู้คนแห่แหนกันไปซื้อหาดอกไม้ธูปเทียน และพวงมาลัย มีแม้กระทั่งช้างม้าที่ใช้แก้บน ร้านค้าริมถนนมีมากมายหลายร้าน นอกจากนั้นก็ยังมีขอทาน และโหราจารย์ นั่งให้บริการอยู่ใกล้ๆ  ฝั่งตรงข้ามเป็นอีกโรงแรมหนึ่ง มีการตั้งชุดกวางทองและรถแก้ว สวยงามอย่างเหลือกำลัง มีผู้คนไปยืนถ่ายรูปกันตลอดเวลา เป็นอีกภาพของความศิวิไลซ์ด้วยแสงสีสันที่ปั้นแต่งให้เข้ากับเทศกาล จากคริสมาสต์ถึงปีใหม่ 


                                        
                                                                 ต้นคริสมาสท์ที่หลงเหลืออยู่
                           
                     กลับไปที่ลานกว้างหน้าห้างดัง มีต้นคริสต์มาสท์สูงใหญ่ไฟอร่ามตา ผู้คนเข้าไปยืนถ่ายรูปกันวุ่นวายไปทั่วทุกมุม มีลานเบียร์ให้ผู้นิยมดื่มเฉลิมฉลองนั่งโซ้ยกันเต็มพิกัด  อีกมุมหนึ่งมีศาลตรีมูระติในความเชื่อของศาสนาฮินดูตั้งอยู่ กระถางธูปคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ศรัทธา เวียนเข้าแล้วก็เวียนออกกันปักธูป ส่วนดอกกุหลาบสีแดงก็นำไปวางซ้อนกันที่ฐานศาลเจ้า  ถัดกันไปเป็นศาลของพระพิคเณศ อันเป็นอีกความเชื่อและศรัทธา ดอกดาวเรืองสีเหลืองถูกวางไว้ที่ฐานเช่นกัน  กลิ่นธูปควันเทียนคละคลุ้งตลบอบอวลไปทั่วบริเวณ 

  
                                                               กวางทองกับรถม้า เอ้ย  รถกวาง

                      พระจันทร์เต็มดวงทรงกลดอยู่บนท้องนภากาศ  ส่องแสงสีนวลละออตาลงสู่ผืนโลกในยามราตรี ช่างมีมนต์เสน่ห์เหลือเกิน เป็นความสวยงามของค่ำคืนที่ทุกคนมีความสุข เป็นอีกวาระหนึ่งที่ยลยินกันทั่ว แม้ในกรุงเทพมหานครที่แสงไฟส่องสว่างพร่างพราว แต่พระจันทร์ก็ไม่เคยเหงาหงอยด้อยแสงแต่อย่างใด 
                      "นี่ถ้าอยู่กลางป่าพนาลีนะ พระจันทร์จะสวยซึ้งกว่านี้อีก" เสียงที่สามเจ้าอารมณ์พิลาศรำพึง
                      "ก็ไม่มีที่ว่างให้กับเรา ผู้ขาดการวางแผนนี่  ป่านนี้คนที่ได้ไปพักผ่อนอยู่ตามทุ่งนาป่าเขา เขาคงได้ชื่นชมกับความสวยซึ้งตรึงใจแน่เลย " เสียงที่หนึ่งเสริมด้วยอารมณ์คล้อยตาม
                      "ปีหน้าเอาใหม่นะคะ จะวางแผนการให้เจ๋งเลย" เสียงที่สองย้ำเจตนา 
                       
                                             

                       คืนนั้น ดึกสงัด ป่านได้เดินทางกลับเข้าสู่เคหาอย่างอารมณ์ดี มีความสุขตามสภาพที่เป็นจริง ฝากไว้ก่อน ปีหน้าฟ้าใหม่ จะมาเอาคืนให้ได้เลย
 

                                                           
                                                                 ข้าวโพดหวานมวกเหล็ก

             
                        
                                          ชีวิตที่เลือกเกิดไม่ได้                                ลืมพยากรณ์

Tags : Art culture tradition ceremony ans way of life

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view