http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,008,264
Page Views16,317,339
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ตรุษจีนวันนี้กับอดีตที่แตกต่าง โดยอึ้งเข่งสุง /เรื่อง ภาพ/ธงชัย เปาอินทร์

ตรุษจีนวันนี้กับอดีตที่แตกต่าง      โดยอึ้งเข่งสุง /เรื่อง  ภาพ/ธงชัย เปาอินทร์


                                                                    ตรุษจีนวันนี้กับอดีตที่แตกต่าง     

                                                                                                 โดยอึ้งเข่งสุง /เรื่อง  ภาพ/ธงชัย เปาอินทร์ 
                                                                                                  ถ่ายจาก ถนนเยาวราช กทม.

                          ผมเกิดมาเป็นลูกจีนในแผ่นดินไทยอย่างเต็มภาคภูมิ ผมไม่เคยปิดบังว่ามีเตี่ยและมีแม่ที่เป็นลูกครึ่งจีนครึ่งไทย ผมมีสายเลือดที่แตกต่าง พ่อมาทาง แม่อยู่อีกทาง ผสมกลมกลืนแล้วผมกลับเป็นชายไทยเชื้อชาติไทย เชื้อสายจีนลูกผสม แต่ก็รักประเทศไทย รักในหลวง  พระเจ้าแผ่นดินของประเทศไทยในราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ แม้เตี่ยผมเป็นจีนก็ยังจงรักภักดียิ่งชีวิต 
                          แต่ด้วยเชื้อชาติที่ติดมากับดีเอ็นเอ พวกเรายังคงสืบทอดวัฒนะธรรมประเพณีตามแบบอย่างทั้งจีนและไทย เพียงแต่อดีตกับปัจจุบันนี้ แตกต่างกันไปบ้าง แล้วไง?

                           


                          เมื่อยังเด็ก เตี่ยผมเตรียมการไหว้เจ้าวันตรุษจีนเต็มที่ ด้วยว่านานทีปีหนและมันเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมายาวนาน เริ่มตั้งแต่เตี่ยปั่นจักรยานไปตลาดเพื่อซื้อหาเครื่องเซ่นไหว้ที่หาไม่ได้ในบ้านทุ่งของเราเช่นกระดาษเงินกระดาษทองที่ต้องซื้อมาแต่ละปี ซื้อปีเผาปีนั่นแหละ 
                          "ส่งเงินทองไปให้บรรพบุรุษไว้ใช้"   
                          กระดาษแดงเขียนด้วยหมึกจีนตัวอักษรจีน เอาไว้ติดหน้าบ้าน เตี่ยไม่ได้เขียนไว้เฉพาะบ้านของเรา แต่เตี่ยเขียนเผื่อญาติๆ ด้วย เยอะมาก เตี่ยเรียนหนังสือมาจากเมืองจีนตัวจริงคนหนึ่ง
                          เครื่องหุงต้มสำรับกับข้าวก็เป็นจำพวกปลาหมึกแห้งตัวโตๆ บ๊ะพ้วย(หนังหมูแห้ง) หน่อไม้แห้ง กุ้งแห้ง ผักชี ต้นหอม เห็ดหอม ผลไม้ก็พวก  ส้มโอ  กล้วยหอม  ผลไม้กระป๋อง ฯลฯ ซึ่งไม่มีขายที่บ้านทุ่งของเราเลย





                           ของที่เตี่ยซื้อหาได้จากบ้านทุ่งไว้ล่วงหน้าก็เช่น เป็ด ไก่  หมู  ปลา  ซื้อตัวเป็นๆ เลี้ยงไว้ บางปีหาไม่ทันก็ไล่จับไก่เป็ดที่ผมชอบเลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้าน ปีนั้นก็รู้สึกสะเทือนใจอยู่บ้าง เลี้ยงมากับมือ เชือดกับมือ
                           ขนมที่แม่ทำเองได้ก็เช่นขนมเข่ง  ขนมเทียน   ขนมบัวลอย ฯลฯ
                           ผมมีหน้าที่เชือดไก่และเป็ด ถอนขน ล้าง ชำแหละ  ตามระบบที่เคยถูกสอนให้ทำมาหลายปี นอกจากนั้นก็ยังมีหน้าที่เฝ้ากระทะใบบัวต้มเป็ดไก่หมูตามที่แม่ปรุงให้
                           "ไฟแรงไปก็ใช้ตะหลิวตักขี้เถ้าสาด  ลดแรงไฟลงหน่อย เดี๋ยวไหม้" แม่คอยเตือนผมเป็นระยะๆ
                           กลิ่นเครื่องพะโล้หอมเตะปากตุ่ยเลย  ต้มเป็ดแล้วก็ต้มไก่และเนื้อหมูสามชั้น ของไหว้สมัยนั้นมากมายหลายอย่าง เพราะว่าเตี่ยไหว้ทั้งสามเวลาเหมือนประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมานานแล้ว
                           วันจ่ายเพื่อเตรียมของไหว้จึงเหนื่อยกันทุกคน

 
                                                                        
           
                            วันไหว้ตรุษจีน เตี่ยเล่าให้ฟังว่า ถ้าไหว้เช้ามืด เรียกว่า ไป่เหล่าเอี๊ย เป็นการไหว้เทพเจ้า หรือไหว้เจ้าที่เจ้าทาง  เครื่องเซ่นไหว้ก็จะใช้ ซาแซอันหมายถึงเนื้อสัตว์สามอย่าง เช่น ไก่ เป็ด หมู หรือ โหงวแซก็หมายถึงเนื้อสัตว์ห้าอย่างเช่น ไก่ เป็ด หมู ปลา  ปลาหมึกแห้ง หรือจะเป็นห่าน หรือเนื้อสัตว์อย่างอื่นๆอีกก็ได้  
                           "ไหว้ตอนสายมาหน่อย เรียกว่า ไป่แป๋บ้อ  อันหมายถึงไหว้บรรพบุรุษ เช่นปู่ย่าตายายพ่อแม่  ที่ตายไปแล้ว  ไหว้ได้ตั้งแต่สายๆจนถึงก่อนเที่ยงคืน ว่างช่วงไหนก็ไหว้ช่วงนั้น เครื่องไหว้ก็เหมือนๆกัน หมูเห็ดเป็ดไก่ ตามแต่บรรพบุรุษเคยชอบ หรือบางทีก็ตามใจปากคนไหว้เหมือนกัน ส่วนผลไม้จะไหว้อย่างไรก็ได้ไม่บังคับเป็นกติกานัก

                 

 
                           "ส่วนการไหว้ตอนบ่าย   เขาเรียกว่า ไป่ฮ่อเฮียตี๋  อันเป็นการไหว้พี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว เครื่องไหว้ก็จำพวกขนมเข่ง  ขนมเทียน  ขนมบัวลอย หรืออะไรก็ได้ที่ผู้ล่วงลับชื่นชอบ 
                          ในการไหว้ทั้งสามช่วงดังกล่าว ผมเห็นเตี่ยไหว้ด้วยเหล้าและน้ำชาทุกครั้ง เพียงแต่บางทีก็เหล้าแม่โขง บางทีก็เหล้าขาว และบางทีก็เหล้าเซียงชุน
                           นี่ถ้าเตี่ยผมชอบชีวาส ผมมิต้องไหว้ด้วยชีวาสเลยหรือ? 


    


                          หลังจากการไหว้เสร็จแล้ว พวกเราเหล่าพี่ๆน้องๆ ก็จะได้กินอาหารร่วมกันอย่างเต็มอิ่ม กลิ่นเป็ดพะโล้ที่มันเตะปากผมจนตุ่ยนั้น ได้เวลาเอาคืน ผมกินตั้งแต่หัวเป็ดจนถึงของโปรด "ก้นจุ้น" ของเป็ด โฮกฮือจริงๆ วันนั้น พวกเราก็จะได้แตะเอีย หรือซองแดง ที่รอคอยมาทั้งปีด้วย เตี่ยกับแม่ไม่เคยให้มาก แค่ให้เป็นพิธี แต่ก็มากกว่าทุกวันที่ได้เงินไปโรงเรียน 
                          วันนี้ ลูกจีนแผ่นดินไทยร่ำรวยมากมายก่ายกอง รวยกันชนิดที่เจ้าของแผ่นดินแทบไม่มีอะไรเลย โดยเฉพาะลูกจีนย่านเยาวราช บางรัก วรจักร สีลม เจริญกรุง ท่าเตียน ตลาดน้อย และหัวเมืองใหญ่น้อยทั่วประเทศไทย  ฯลฯ การไหว้วันตรุษจีนจึงไว้ด้วยเครื่องไหว้ที่เพียบพูนกว่าคนทั่วๆไป

                           


                           ส่วนที่ยากจนก็ไหว้บ้างไม่ไหว้บ้างตามแต่ฐานะของแต่ละครอบครัว ตามภาวะเศรษฐกิจของบ้านเมืองแต่ละปี  บ้านเมืองสงบการค้าก็ดีถึงดีที่สุด เครื่องไหว้และเงินแตะเอียก็มากขึ้นได้ แต่ถ้าบ้านเมืองไร้ความสงบ การค้าก็ย่ำแย่เป็นธรรมดา ไหว้พอให้ได้ชื่อว่าไหว้ บางครอบครัวถึงกับต้องเอ่ยวลีเจ็บ
                           "จะไหว้อะไรนักหนา จะกินยังแทบจะแย่งหมากิน"
                           พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนที่เข้ามาอาศัยใบบุญของร่มฉัตรราชวงศ์จักรีล้วนสำนึกในบุญคุณแผ่นดิน  มิใช่เพียงด้วยปากเหมือนใครบางคน หากแต่รู้คุณแล้วตอบแทนแผ่นดินเกิดจริง เสียภาษีทางตรงและทางอ้อม ครบถ้วน  รู้กตัญญูคุณบิดรมารดา โคตรเหง้าเหล่ากอที่เกิดมา เผื่อแผ่ไปถึงวงศาคณาญาติ และเพื่อนชาวไทยเชื้อสายจีนด้วยกัน
                           เขาจึงได้รวมตัวกันจัดงานท่องเที่ยววันตรุษจีนที่เยาวราชจนโด่งดังไปทั่วโลก 
                           กลายเป็นถนนคนเดินเที่ยวในประเพณีวันตรุษจีน เช่นปีนี้ตรงกับวันที่ 14-15 กุมภาพันธ์ 2553 อย่างยิ่งใหญ่อลังการ โดยได้รับพระมหากรุณาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ขวัญใจปวงประชาชาวไทยเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานทุกปี ยังความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรชาวไทยเชื้อสายจีนยิ่งนัก 


   


                          ว่ากันว่า ถนนเยาวราช สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ช่วงปีพ.ศ.2435-2443  ทรงโปรดให้ตัดถนนสายนี้เพื่อพระราชทานให้คนไทยเชื้อสายจีนอยู่อาศัยและทำมาหากิน จนรุ่งเรืองและร่ำรวยกันมากมายภายใต้พระบรมโพธิสมภารราชวงศ์จักรีสืบมา
                          ความยาวของถนนสายนี้ 1,532 เมตร  โดยเริ่มต้นที่คลองโอ่งอ่างมาจนถึงวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ส่วนชื่อ ถนนเยาวราช(YAOWARAT ROAD) ด้วยว่าครั้งที่พระราชา(รัชกาลที่ 5) ที่เสด็จขึ้นครองราชย์ยังทรงพระเยาว์ ทรงมีพระชนมายุเพียง 15 พรรษา 

                 

                          
                           บนถนนสายนี้นอกจากมีชาวไทยเชื้อสายจีนมากที่สุดแล้วยังมีตึกสูงที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ เช่นตึก 7 ชั้นตึก 9 ชั้น มีร้านขายทองคำคุณภาพดีมีประกันมากมายหลายร้าน  มีภัตตาคารร้านอาหารจีนอร่อยๆ และมีเครื่องยาสมุนไพร ทั้งจีนและไทยจำหน่ายเป็นแหล่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยก็ว่าได้  มีศาลเจ้าจีนหลายแห่งเป็นที่เคารพนับถือ 
                           ต่อมาเรียกว่า China Town (ไชน่าทาวน์)ของเมืองไทย กลายเป็นจุดขายให้ฝรั่งต่างชาตินิยมชมชอบที่ได้มาท่องเที่ยว และศึกษาหาความรู้เรื่องราวของชาวจีนในประเทศไทย 
                           แต่ไม่แน่ใจว่า ไชน่าทาวน์เมืองไทยแห่งนี้ มีมาเฟียเหมือนในไชน่าทาวน์เมืองฝรั่งหรือไม่?

      

                          แม้ชาวไทยเชื้อสายจีนส่วนใหญ่จะร่ำรวย แต่ก็มีไม่น้อยที่ยากจน  ยากจนมาก  และยากจนจนไม่มีบ้านจะอยู่อาศัย กลายเป็นคนเร่ร่อนนอนตามใต้สะพาน  ในสลัม  ในศาลเจ้า  ในฮวงซุ้ย  ก็มีไม่น้อย เรียนตามตรงทุกครั้งที่ได้พบเห็นสภาพเช่นนั้น ผมรู้สึกเศร้าสะเทือนใจในชะตากรรมของเขา ผมเก็บมาเล่าให้เตี่ยฟัง เตี่ยก็จะบอกว่า
                          "นิ้วบนฝ่ามือเรายังไม่เท่ากันเลย" 
                          "แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนา แข่งกันยาก" 
                          "กรรมใครก็กรรมมัน บางทีเขาอาจจะไม่ขยันทำงานหาเงิน หรืออาจจะติดการพนัน"
                          "หรือไม่ก็เมามายกับสุรานารีกีฬาบัตร" แม่เสริมขึ้นด้วยเสียงเรียบๆ  
                           แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่เคยเห็นว่ามีองค์กรการกุศลใดของเหล่าคนจีนที่ร่ำรวยจะช่วยเหลือคนเชื้อชาติเดียวกันอย่างเป็นรูปธรรมใดๆ 
                         ที่เห็นก็เป็นเพียงการเทกระจาดให้ทานคนจน การตั้งมูลนิธิเพื่อช่วยเก็บศพ ซึ่งล้วนแต่มีผลต่อการดำเนินธุรกิจอันเกี่ยวเนื่องกับการหักลดภาษีเงินได้จากรัฐบาลเสียส่วนใหญ่ เศร้าๆเหมือนกันนะ


                    


                          ในฐานะลูกจีนในไทยที่ไม่เคยจน ด้วยว่าเตี่ยกับแม่มักจะสอนเสมอว่า 
                          "รวยหรือจนไม่สำคัญ มันสำคัญที่ความสุขอยู่ที่ใจ"  
                          แต่ถึงอย่างไรผมก็ยังอยากเห็นน้ำใจไมตรีระหว่างเชื้อชาติและเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบ  อยากเห็นลูกจีนผู้รุ่มรวยสักคนลงมาศึกษาวิจัยคนไทยเชื้อสายจีน อย่างน้อยให้ได้ข้อมูลพื้นฐาน(Data base) ที่แท้จริง ว่ามีคนไทยเชื้อสายจีนยากจนเท่าไร ร่ำรวยเท่าไร และเมื่อขยายสายพันธุ์ไปแล้ว ผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเพื่อให้เป็นฐานข้อมูลในสายเลือดเดียวกัน ช่วยกันก่อนได้ก็ดีมิใช่หรือ 
                          ครอบครัวเดียวกันช่วยเหลือกันและกัน  ตระกูลเดียวกันช่วยกันและกัน  คนไทยเชื้อสายจีนในไทยช่วยเหลือกันและกัน หากต้องรอประเทศชาติเข้ามาช่วยเหลือกคงจะอีกนานแสนนาน  
                          ถ้าเกิดองค์กรดังกล่าวได้ คงดีไม่น้อย  
                          ปีใหม่จีนผ่านไปกลิ่นอายยังอวลอบ แต่ปีหน้าก็จะเวียนมาบรรจบอีกครั้ง
                          ความหวังยังมีเสมอ

                    
                         
                           

 



Tags : tradition

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view