หนึ่งคน หนึ่งทุน หนึ่งความหวังปริญญาตรี
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะกรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์(เพื่อการศึกษาแบบต่อเนื่อง) อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน ได้เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปี พ.ศ.2552 เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2553 เวลา 10.00-12.00 น. ณ สำนักงานมูลนิธิสมเพิ่มกิตตินันท์ เลขที่ 248 บ้านกิตตินันท์ หมู่ 14 ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150 โดยการนำของนายอุดม หิรัญพฤกษ์ เป็นประธานกรรมการมูลนิธิ และนายธานี ภมรนิยม เป็นประธานกรรมการกิตติมศักดิ์
ประธานกรรมการแฝด กรรมการและสื่อมวลชน
การเดินทางแยกออกเป็นห้าสายคือ คณะท่านประธานกรรมการ เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวมีพ่อแม่ลูก จากกรุงเทพมหานคร ท่านประธานกิตติมศักดิ์ เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากปันเจนไฮอะเวย์ อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ คณะนายแพทย์สุวิทย์ เกียรติเสวี คอลัมม์นิสท์จากหน้าต่าง มองคุณภาพขีวิตและสิ่งแวดล้อม นสพ.เดลินิวส์ คณะสื่อรายการร่วมมือร่วมใจ ไปรถไฟกรุงเทพ-แพร่ และคณะของคุณอังคณา จันทราสุนทรกุลและคุณกัลญารัตน์ ชมิดท์ จากภูเก็ต ทุกคนเสียสละค่าใช้จ่ายในการเดินทางเองทั้งสิ้น
คณะกรรมการจากท้องที่อำเภอนาน้อย
สำนักงานมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ ตั้งอยู่ริมสระน้ำกลางหมู่บ้านกิตตินัท์ เป็นอาคารสองชั้นทรงยุโรปผสม ต้นไม้ร่มครึ้ม อากาศเย็นสบาย ได้บรรยากาศการประชุม เริ่มต้นด้วยประธานกรรมการมูลนิธิขอเรียนเชิญยืนไว้อาลัยแด่คุณสมเพิ่ม กิตตินันท์ อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ ผู้วางรากฐานทุนการศึกษาต่อเนื่อง ให้กับเยาวชนผู้ด้อยโอกาส ได้มีโอกาสที่จะเพิ่มศักยภาพการเรียนให้สูงยิ่งขึ้น และอดีตคณะกรรมการที่วายชนไปแล้วหลายคน 1 นาที
คุณแอ๊วและเพื่อนบริจาคสมทบทุน ประธานขึงขัง
การประชุมครั้งนี้ ประธานกรรมการแจ้งให้ทราบว่าได้เงินบริจาคสมทบทุนมูลนิธิเพิ่มเป็นเงิน 145,480 บาท ผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาตได้แสดงรายการงบดุลประจำปี 2552 รับรองรายงานการประชุมสามัญประจำปี 2551 และพิจารณาให้ทุนการศึกษาต่อเนื่องในปีพ.ศ.2553 จำนวน 45 ทุน รวมเป็นเงินทุนทั้งสิ้น 180,100 บาท เป็นการให้ทุนตามระเบียบเพื่อการศึกษาของเยาวชนแบบต่อเนื่อง ดังนี้คือ
1. ระดับอนุบาล 1-3 จำนวน 10 ทุนๆละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 5,000 บาท
2. ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 12 ทุนๆละ 800 บาท รวมเป็นเงิน 9,600 บาท
หัวหน้า ประมวล โพธิ กล่าวรายงาน นักเรียนทุน วรยศ ถุงตุ้ย ขอบคุณคณะกรรมการ
3. ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 5 ทุนๆละ 3,500 บาท รวมเป็นเงิน 17,500 บาท
4. ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 9 ทุนๆละ 6,000 บาท รวมเป็นเงิน 54,000 บาท
5. ระดับอุดมศึกษาปีที่ 1-4 จำนวน ทุนๆละ 9 ทุนๆละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 90,000 บาท
รวม 45 ทุน เป็นเงินทั้งสิ้น 176,100 บาท
วุ่นเลยอ๊ะ.....หนูเล็กเด็กชายหญิงน่ารักๆ อนาคตที่วาดหวังของกรรมการ
คณะกรรมการมูลนิธิได้รับทราบและเห็นชอบอนุมัติเงอนส่งเสริมการศึกษาแบบต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับอนุบาล-ปริญญาตรี หนึ่งทุนหนึ่งคน ความหวังว่าจะได้หนึ่งปริญญา เป็นทุนเสริมให้กับเยาวชนได้มีกำลังใจ พ่อแม่ต้องช่วยสนับสนุนเงินเพิ่มที่จำเป็น นอกเหนือจากที่มูลนิธิได้ช่วยบรรเทาเรื่องค่าใช้จ่าย แล้ว เยาวชนเหล่านั้นจะต้องช่วยกันประหยัด ใช้เงินทุนอย่างมีคุณค่า และช่วยหางานทำพิเศษ เพื่อลดภาระให้กับพ่อแม่อีกทางหนึ่ง
รอยยิ้มของผู้ปกครอง ที่ระลึก....แต่ละปี
ตั้งแต่มูลนิธิได้ให้ทุนการศึกษาต่อเนื่องไปแล้ว มีนักเรียนทุนที่เรียนจนจบปริญญาตรีแล้ว 15 คน ปวส.3 คน นอกนั้นจบระดับ ม.3-ม.6 รวมโดยย่อ มีงานทำแล้วสำรวจได้ 52 คน นอกนั้นยังติดตามไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการมูลนิธิล้วนเข้ามาดำเนินการเกี่ยวข้องกับมูลนิธินี้ตั้งแต่ยังไม่เกษียณราชการจนวันนี้เกษียณราชการกันมาแล้วรวมเวลาถึง 24 ปี
ด้วยความอุตสาหะ เสียสละ แต่กลับรู้สึกปลาบปลื้ม ภูมิใจ และถึงขั้นลั่นวาจากันว่า จะทำจนกว่าจะสิ้นลม เพียงเพื่อสืบทอดเจตนารมณ์ที่ดีของเพื่อน และเพื่อให้เยาวชนผู้ด้อยโอกาสได้มีโอกาสเรียนสูงขึ้น
(โปรดคลิกไปอ่าน ตอน 22 จิตใต้สำนึก จอมโกงจอมภู เรื่องเล่า..สั้นและยาว..ชาวดง)
อาหารอร่อย ด้วยแม่ครัวคนเดิม..นาย
หลังประชุมได้ไปช่วยกันแจกทุนให้กับนักเรียนทุน แถวนักเรียนยังโย้เย้เหมือนทุกปี ด้วยว่านักเรียนทุนชั้นอนุบาลนั้นยังเล็กนัก เหมือนจับปูใส่กระด้ง แต่เมื่อให้เต้นอวดคณะกรรมการ กลับเต้นกันได้อย่างน่ารักน่าชัง สร้างความขบขันไปทั่วหน้า นักเรียนทุนระดับอุดมศึกษา วรยศ ถุงตุ้ย ได้ขึ้นไปกล่าวขอบคุณ รำลึกถึงในน้ำใจของคณะกรรมการมูลนิธิด้วยความฉาดฉาน
แจ๊ก ....ผู้ไม่เคยยอมแพ้ บันทึกภาพออกทีวี
ตามด้วย แจ๊ก อดีตนักเรียนทุนที่โชคร้ายเกิดอุบัติเหตุจนพิการครึ่งตัว นั่งบนรถเข็นแล้วเล่นกีต้าประกอบเพลงที่เขาแต่งขึ้นเอง เพลงที่ร้องคลอเสียงกีต้าโปร่งอ้อยสร้อย แว่วกังวาลไพเราะเสนาะจิต ฟังแล้วน้ำตาซึม ขอบตาร้อนผ่าว
"ผมเรียน กศน.จบ ม.6 แล้วครับ แต่ผมช่วยตัวเองได้ ผมเป็นช่างอิเลคตรอนิก เปิดร้าน แจ๊ก อิเลคตรอนิก อยู่ที่ตลาดอำเภอนาน้อย ผมตั้งใจว่าจะเรียนต่อปริญญาตรี และจะเข้าไปขอทุนคณะกรรมการมูลนิธิสมเพิ่ม กิตตินันท์ เพื่อผ่อนภาระค่าใช้จ่ายของผมครับ"
รายการร่วมมือร่วมใจได้ถ่ายบันทึกกิจกรรมของมูลนิธิ เด็กๆ และแจ๊ก เพื่อช่วยเผยแพร่ให้กับสาธารณะชนได้รับรู้ ความร่วมมือร่วมใจของคนชรากลุ่มหนึ่งที่มีต่อเยาวชนในป่าดงพงไพรห่างไกลความเจริญ
ชาวบ้านแบกฟักทอง ฟักเขียว กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า มะละกอฮอลแลนด์ที่กำลังปลุกกันมากมาให้เป็นของติดไม้ติดมือคณะกรรมการนำกลับไปกินยังเมืองกรุง
ตามประเพณีที่ถือปฏิบัติกันมาตลอด 24 ปี หลังเสร็จสิ้นภาระกิจการกุศลคนใจบุญแล้ว ก็ต้องหาสถานที่บนดอยสูงๆ หนาวๆ ห่างไกลความเจริญ เพื่อไปพักผ่อนนอนร่วมกันอย่างสนุกสนานและเบิกบานใจเช่นทุกปี ปีนี้ ผู้ประสานงานแนะนำให้ไป อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน เฮเฮ!!