http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,000,520
Page Views16,309,207
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

“ ซาไก”ยุคใหม่สู่แวดวงท่องเที่ยว โดยภาวิณีย์ เจริญยิ่ง เรื่อง-ภาพ

 “ ซาไก”ยุคใหม่สู่แวดวงท่องเที่ยว      โดยภาวิณีย์ เจริญยิ่ง เรื่อง-ภาพ

ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง

                               “ ซาไก”ยุคใหม่สู่แวดวงท่องเที่ยว                        

                วันก่อนกรมการปกครองพาผู้สื่อข่าวจากส่วนกลางไปเยี่ยมชมการปฏิบัติหน้าที่ของเหล่าอส.ท่องเที่ยว ในจ.สตูล จำนวนนับร้อย ซึ่งแต่ละคนก็มีอาชีพเป็นของตนเอง แต่ด้วยใจรักและอยากทำคุณประโยชน์ให้กับสังคมจึงมาสมัครเป็นอส.

                 ”ลุงคนึง จันทร์แดง “ หรือที่เรียกกันคุ้นปากว่า”ป๋านึง”   เป็นประธานอส.ท่องเที่ยว อ.มะนัง ที่คอยให้ข้อมูลและตอบข้อซักถามต่างๆ เพราะป๋านึงเป็นผู้อาวุโสและยังกว้างขวางด้วย ความที่เป็นทั้งประธานชมรมล่องแก่งอ.มะนัง  ประธานการท่องเที่ยวของอำเภอนี้

                  ฉะนั้นใครอยากรู้เรื่องท่องเที่ยวของอ.มะนัง ป๋านึงตอบได้หมด โดยเฉพาะเรื่องราวความเป็นมาของถ้ำภูผาเพชร ซึ่งแกเป็นคนหนึ่งที่ร่วมบุกเบิกเส้นทางท่องเที่ยวแห่งนี้จนเป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยว พูดได้ว่าใครไปสตูลแล้วไม่ได้ไปเหยียบถ้ำนี้ถือว่ายังไปไม่ถึง และน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งเพราะตั้งแต่เที่ยวถ้ำในประเทศเรามาหลายแห่ง รับประกันได้ว่าถ้ำนี้สวยไม่แพ้ถ้ำมีชื่อใดๆในโลก ที่สำคัญเข้าไปแล้วหายใจสะดวกสบายไม่เหม็นอับชื้นหรือมีกลิ่นเหม็นของขี้ค้างคาว แถมตอนเข้าปากถ้ำก็ตื่นเต้นสุดๆเพราะต้องก้มหัวมุดเข้าไป ใครตัวอ้วนตัวใหญ่อาจจะลำบากหน่อย

                 จากการค้นพบหลักฐานร่องรอยประวัติศาสตร์ ประมาณว่าถ้ำนี้ซึ่งอยู่ที่ ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง เมื่อกว่า 3,000 ปีมาแล้วเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์  ภายในถ้ำ เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยรูปร่างสารพัน แล้วแต่ใครจะจินตนาการว่าเป็นรูปอะไรบ้าง มีการแบ่งเป็นห้องๆ ประมาณ20 ห้อง และตั้งชื่อต่างๆกัน อาทิ ห้องผ้าม่าน ห้องปะการัง ห้องเห็ด ห้องเจดีย์ ห้องโดมศิลาเพชร ฯลฯ

                  ช่วงที่ขึ้นไปเที่ยวถ้ำภูผาเพชรนี้ ป๋านึงไม่ได้มาคนเดียว ยังพา”กำนันไข่” และพรรคพวกซาไกอีกหลายคนมาด้วย พร้อมกับโชว์การเป่าลูกดอกให้เห็นกันจะจะว่าหนุ่มซาไกนั้นเจ๋งขนาดไหน ใครชี้ลูกโป่งใบไหน หนุ่มซาไกเป่าถูกเป้าตรงไม่มีพลาด แตกเป็นว่าเล่น แม่นจริงๆ

                  ไหนๆมาเจอซาไกสักที มาฟังจากปาก”ป๋านึง”กันดีกว่า แล้วจะรู้ว่าเดี๋ยวนี้ซาไกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจท่องเที่ยวในจ.สตูลแล้ว

 

                 

                 “ก่อนผมจะบุกเบิกถ้ำภูผาเพชร ที่นี่เป็นพื้นที่สีแดง ทางรัฐบาลใช้เครื่องบินมาปราบปรามคอมมิวนิสต์ประมาณ ปี 2514  – 2517 จนถึงปี 2525 ก็หยุด  พวกซาไกก็ล้มตายไปเยอะ พวกนี้คิดว่าไข่ระเบิด เขาก็เริ่มถอยออกมาหาคน ก็เริ่มรู้จักกับผมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา  ผมชอบเป็นผู้ให้เวลาเจอกันที่ไหนผมก็ให้เงินให้ของ  หลังจากนั้นผมไปบุกเบิกถ้ำภูผาเพชร ผมก็ไปขอเมียให้พวกซาไก จัดงานแต่งงานวันวาเลนไทน์แต่งหน้าถ้ำภูผาเพชร

                  ผมจริงใจกับเขามาตลอด คนส่วนใหญ่จะโกหกเขา หลอกใช้เขามาเรื่อย ๆ เขาเลยกลัว  เวลาที่พวกซาไกเจ็บป่วยไม่สบายผมก็พาไปอนามัย  ไม่มีข้าวสารก็ลงมาเอาที่ผม ไปตลาดไม่มีเงินผมให้ จนถึงปัจจุบันเขาอยู่กับผมประมาณ 10 ปีแล้ว มีประมาณ 100 คน(ป๋านึงมีโฮมสเตย์และมีเรือให้บริการ สนใจโทร 086-2876041,  086-4832821)อยู่ประมาณ 1 ปีแล้วก็หายไป แต่ตอนนี้ 3 ปีแล้วไม่หายไปไหนเลย  เขาอยู่ในป่าแต่ก็ติดต่อผม กลางคืนไม่สบายผมก็จะพาเขาไปส่งโรงพยาบาล  คนพวกนี้เขาต้องการคนที่จริงใจต่อเขา ไม่โกหกเขา  ปัจจุบันในพื้นที่น่าจะมีประมาณ 200 คน

                  ผมเคยเข้าไปหาเขาในป่า เขาจะอยู่ติดกับสายน้ำ ชุดที่อยู่ฝั่งมะนังท่านนายอำเภอให้คนมาทำประวัติถ่ายรูปเพื่อจะทำเรื่องขอให้มีบัตรประชาชน  มีคนหนึ่งมาทำงานพายเรือกับผม เขาพายเรือ 4 เดือนมีเงินเก็บ 30,000  บาท

                   วิถีชีวิตของพวกซาไกยังเหมือนเดิม  ใช้ชีวิตในป่าเหมือนเดิม ที่นอนเหมือนเดิม แต่ต้องการเงินซื้อของ ใส่เสื้อผ้าเหมือนเรา ส่วนใหญ่ได้จากการบริจาค  ที่ผมเอาเขามาเลี้ยงไว้เพราะเผื่อว่าในอนาคตป่าหมดพวกเขาจะเป็นภาระต่อสังคม  กลุ่มที่ขับรถเครื่องเป็นก็จะขับรถเครื่อง คนที่ขับไม่เป็นก็จะมีคนพยายามดึงออกมาข้างนอกเป็นเครื่องมือของคนที่ไม่หวังดี

                   เขาไม่ชอบให้คนเรียกซาไก ชอบให้เรียกว่า”มานิ” มากกว่า  มานิ หมายถึง คนป่าหรือชาวป่า ที่ผ่านมาถ้าเขาไม่เดือดร้อนจะไม่เคยขอร้องใคร ฝนตกฟ้าร้องแดดออกน้ำท่วมไม่เดือดร้อนไม่เคยขอร้องให้ใครช่วย 

                  ที่บ้านเขาจะเรียกว่าทับ  เอาไม้ 2 อันปักแล้วเอาใบไม้มาทับ ๆ ทำที่นอน  เวลาเขานอนจะเอาเพิงทับแล้วเอาเท้าไปไว้ข้างใน ลูกเขาก็คลอดเองไม่ต้องไปโรงพยาบาล

                  ยาสมุนไพรของเขาเรียกไอ้เหล็ก บางชนิดเขาเอามาผูกเอวแก้ปวดดีมาก  ของดีอีกอย่างหนึ่งคือน้ำผึ้ง เวลาหน้าน้ำผึ้งเขาจะนำน้ำผึ้งมาขาย

                  บางพวกที่ออกมาอยู่กับคนคือพวกที่ไม่กลัวคน กลุ่มที่กลัวคนก็ยังเหมือนเดิม มีคนหนึ่งชื่อกำนันไข่ก็ติดต่อกับผู้คน ถ้าใครขึ้นไปแล้วไม่มีกำนันไข่ไปด้วยเขาจะวิ่งเข้าทับกันหมด  กำนันไข่พูดไทยได้ ลูก ๆ เขาพูดไทยได้ทุกคน

                 ถ้าจะให้เขาถ่ายรูปด้วยเขาก็จะถ่ายด้วย  แล้วก็ให้เงินเขาก็จะเอาเงินไปซื้อข้าวสาร เพราะของป่าเริ่มหายากแล้ว เขาจะอยู่ไม่เป็นที่ แต่พวกกำนันไข่จะอยู่กันเป็นที่เพราะผมไปขอหน่อกล้วยจากอำเภอมะนัง หามะพร้าว หาดีปลีให้ปลูก เพื่อให้เขาได้ทำมาหากินเพราะถ้าไม่ทำอย่างนี้ ผมเชื่อว่าอีกหน่อยเขาจะเป็นภาระของสังคม

                 กลุ่มที่ขับรถเครื่อง เวลาตำรวจโบกมือให้จอด เขาจะไม่จอดเพราะว่าเขาไม่รู้จัก  บางกลุ่มเขามีคนให้ที่เขาก็จะอยู่กับที่เป็นคนกรีดยาง บางกลุ่มหาตัวนิ่มขายเพราะได้ราคาดีกิโลละ 2,500 บาท  เขาเป็นนักล่าที่เก่งมาก เขารู้หมด ถ้าหน่วยราชการไม่สนใจ ผมกลัวพวกที่ไม่หวังดีให้เขาไปค้ายาบ้า ซื้อปืนให้เขาไปล่าสัตว์ ไปตัดต้นไม้ น่ากลัวมาก 

                 เท่าที่ผมดูวิถีชีวิตเขาคงไม่เปลี่ยน ที่จะเปลี่ยนก็มีวัยรุ่นไม่กี่คน  คนที่อยู่กับผม เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ  ส่วนตัวกำนันไข่มีเมีย 3 คน ลูก 15 คน แต่ตอนนี้เหลือคนเดียวเพราะให้เพื่อนไปหมด ถ้าใครมีเมียหลายคนแล้วมีคนอื่นมาชอบก็ให้ไป เขาจะเป็นแบบนั้น  ส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน  คนกลุ่มนี้มีข้อเสียคือขี้อาย กลัวคน ถ้าเขาไม่ขี้อายผมจะฝึกอะไรให้เขาอีกหลายอย่างเพื่อให้เขาหาเงินไปเลี้ยงครอบครัว 

                  เรื่องตำแหน่งกำนันไข่นั้นเขาแต่งตั้งกันขึ้นมาเอง  ท่านนายอำเภอคนปัจจุบันให้เจ้าหน้าที่ของอำเภอมาทำประวัติ  ผมแนะนำว่าถ้าเขาอยู่ฝั่งมะนังน่าจะให้ใช้นามสกุลศรีมะนัง เพื่อว่าเวลาไปที่ไหนถ้าเขาหลงไปจะได้ทราบว่ามาจากมะนัง 

                  ถ้าใครมาที่โฮมสเตย์ผม จะให้ซาไกโชว์การเป่าลูกดอก สิ่งที่ผมประทับใจพวกซาไกคือเขามีความจริงใจที่สุด” 

 

Tags : ท่องเที่ยวทั่วไทย

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view