นิทานกับการท่องเที่ยว
โดยป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ
พลัดหลงไปเที่ยวตลาดน้ำแห่งหนึ่ง น่าจะเป็นหนึ่งในตลาดน้ำหลายแห่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิจารณาดูโดยรอบแล้วเห็นได้ว่าเป็นตลาดน้ำที่เกิดจากการปรุงแต่งขึ้น ไม่มีคลองธรรมชาติแต่อย่างใด หากแต่ขุดบ่อล่อกันกลางทุ่งชานเมืองอยุธยา เรียกกันว่า คลองสระบัว เนื้อที่กี่ไร่ไม่ได้ขอรายละเอียด แต่โดยรอบตลาดสร้างเป็นอาคารมุงจากง่ายๆ แต่ดูเก๋ไก๋ไม่น้อย เขาสร้างเพียงทางเดินให้กับนักท่องเที่ยวแทบจะเวียนรอบพื้นที่ มีส่วนหนึ่งเป็นร้านรวงที่แต่งให้ดูบ้านๆ ประกอบอาหารหวานคาวขายกันหลายสิบร้าน นั่นคือมีอาหารขายหลายสิบอย่าง
อาหารหวานคาวล้วนเป็นอาหารพื้นบ้านไทยๆ ภาคกลาง อยุธยาก็ว่าได้ รสชาติก็ใช่ รูปลักษณ์การแต่งกายของแม่ค้าพ่อขายสไตล์คนพื้นบ้านชานเมืองอยุธยาแท้ๆ เสียงพูดเสียงร้องถามหาคนกินก็เหน่อนิดๆ เช่นคนอยุธยา หน้าตาท่าทางหรือก็ใช่ เดินซื้อหาของกินจนได้พอเพียงก็หาที่นั่งลำเลียงลงกระเพาะอย่างอิ่มเอม แต่พลันทันใด เสียงพิณพาทลาดตะโพนก็ดังกระหึ่มขึ้นผสมผสานด้วยปี แตร ฉิ่งฉับ กับ โหม่ง ซ้อนเสียงกันดั่งวงมโหรี วงดนตรีไทยเดิมตั้งอยู่มุมหนึ่งของร้านรวงที่สร้างล้อมท้องน้ำ
กลางน้ำ มีชานใต้น้ำให้ย่ำเดินได้อย่างสะดวกดาย เหล่าอนงค์นางผู้งามงด ด้วยเครื่องทรงชุดไทยๆพื้นบ้านตามตำนาน ลิเก หรือ ละคร กำลังวาดวงแขนและปลายนิ้วอย่างอ่อนช้อย เสียงเสนาะเพราะเหลือหลายจากการบรรเลงและบทเล่าขานก็เกิดขึ้น ใช่เลย เป็นการแสดงด้วยละครพื้นบ้านตำนานไทยๆ เช่นเรื่องนิทาน ไกรทอง หรือนิทานเรื่องพระสังข์กับนางรจนา บทพากย์และบทที่เหล่านักแสดงกล่าว เป็นท่วงทำนองละครพื้นบ้าน แต่แทนที่จะเล่นกลางเวทีลานวัดหรือลานบ้าน กลับลงมาเล่นกันกลางท้องน้ำ อร่อยเหาะ อิอิ
เป็นเทคนิคการเปิดตลาดน้ำที่ล้ำยุคสมัยอย่างหาใครมาเทียบเทียมได้ยาก เป็นกลยุทธที่สุดยอดที่ใช้นิทานพื้นบ้านมาสานต่อการขาย นักท่องเที่ยวที่นั่งกินไปชมไปล้วนดูมีความสุข และนี่คือทฤษฎีการขายที่จะกลายเป็นการโฆษณาแบบ ปากต่อปาก อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นตลาดน้ำตลาดเดียวที่ปรุงแต่งขึ้นด้วยสมองและมุมมองทางการตลาดโดยแท้ เท่าที่ได้ไปชมตลาดน้ำส่วนใหญ่ อยู่ริมคลองริมแม่น้ำธรรมชาติสร้าง สินค้านั้นมีทั้งของฝากและของกินเหมือนๆกัน แต่จุดเด่นของที่นี่ คือการนำนิทานพื้นบ้านมาแสดงกลางน้ำ สนุกด้วยค่ะ