กลุ่มนิติราษฎร์ กับความกล้าหาญทางจริยธรรม
และจุดยืนที่ตรงข้ามกับ "อประชาธิปไตย" กับ "อธรรมศาสตร์"
by Charnvit Ks on Wednesday, 28 September 2011 at 21:21
หนึ่ง) ตามที่ "กลุ่มนิติราษฎร์" มธ เสนอว่า
รัฐประหาร ๑๙ กันยา ๒๕๔๙ เป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายทำลายนิติรัฐ-ประชาธิปไตย
และยังเป็นต้นเหตุของปัญหาความขัดแย้งที่สืบเนื่องมาถึงปัจจุบัน
และเสนอให้ ลบล้างผลพวงของรัฐประหารนั้น
ขอแสดงความชื่นชม กับกลุ่มนิติราษฎร์
ที่มีความกล้าหาญทางวิชาการ และจริยธรรม
สอง) ขอเราให้ใช้ ปวศ เป็นตัวอย่าง และบทเรียน
ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ ผู้ประศาสนการ มธก
ได้เคยประกาศสันติภาพ
ที่ทำให้ประกาศสงครามเป็น "โมฆะ" มาแล้วเมื่อหลังสงครามโลก
ดังข้อความบางตอนต่อไปนี้
"การประกาศสงคราม...เป็นการกระทำอันผิดจากเจตจำนงของประชาชาวไทย
และฝ่าฝืนขืนขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ และกฎหมายบ้านเมือง"
ดังนั้น"การประกาศสงคราม....เป็นโมฆะ ไม่ผูกพันประชาชนชาวไทย..."
สาม) ขอให้ดู "ประกาศสันติภาพ" ฉบับเต็มข้างล่างนี้
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
อดีตอธิการบดีธรรมศาสตร์
ประกาศสันติภาพ
ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
(ตามประกาศประธานสภาผู้แทนราษฎร
ลงวันที่ ๑ สิงหาคม
พุทธศักราช ๒๔๘๗)
ปรีดี
พนมยงค์
โดยที่ประเทศไทยได้เคยถือนโยบายอันแน่วแน่ที่จะรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด
และจะต่อสู้การรุกรานของต่างประเทศทุกวิถีทาง
ดังปรากฏเห็นได้ชัดจากการที่ได้มีกฎหมายกำหนดหน้าที่คนไทยในเวลารบ เมื่อพุทธศักราช
๒๔๘๔ อยู่แล้วนั้น
ความจำนงอันแน่วแน่ดังกล่าวนี้ได้แสดงให้เห็นประจักษ์แล้วในเมื่อญี่ปุ่นได้ยาตราทัพเข้าในดินแดนประเทศไทยในวันที่ ๘
ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๔ โดยได้มีการต่อสู้การรุกรานทุกแห่ง และทหาร ตำรวจ ประชาชน
พลเมืองได้เสียชีวิตไปในการนี้เป็นอันมาก
เหตุการณ์อันปรากฏเป็นสักขีพยานนี้
ได้แสดงให้เห็นอย่างแจ่มแจ้งว่าการประกาศสงครามเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม พุทธศักราช
๒๔๘๕ ต่อบริเตนใหญ่และสหรัฐอเมริกา
ตลอดทั้งการกระทำทั้งหลายซึ่งเป็นปรปักษ์ต่อสหประชาชาตินั้น
เป็นการกระทำอันผิดจากเจตจำนงของประชาชาวไทยและฝ่าฝืนขืนขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและกฎหมายบ้านเมือง
ประชาชนชายไทยทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ซึ่งอยู่ในฐานะที่จะช่วยเหลือสนับสนุนสหประชาชาติ ผู้รักที่จะให้มีสันติภาพในโลกนี้
ได้กระทำการทุกวิถีทางที่จะช่วยเหลือสหประชาชาติดังที่สหประชาชาติส่วนมากย่อมทราบอยู่แล้ว
ทั้งนี้เป็นการแสดงเจตจำนงของประชาชนชาวไทยอีกครั้งหนึ่งที่ไม่เห็นด้วยต่อการประกาศสงครามและการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อสหประชาชาติดังกล่าวมาแล้ว
บัดนี้
ประเทศญี่ปุ่นได้ยอมปฏิบัติตามคำประกาศของสหรัฐอเมริกา บริเตนใหญ่ จีน
และ สหภาพโซเวียต ซึ่งได้กระทำ ณ
นครปอตสดัมแล้ว สันติภาพจึงกลับคืนมาสู่ประเทศไทย
อันเป็นความประสงค์ของประชาชนชาวไทย
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงขอประกาศโดยเปิดเผยแทนประชาชนชาวไทยว่า
การประกาศสงครามต่อสหรัฐอเมริกาและบริเตนใหญ่เป็นโมฆะ ไม่ผูกพันประชาชนชาวไทย
ในส่วนที่เกี่ยวกับสหประชาชาติ
ประเทศไทยได้ตัดสินที่จะให้กลับคืนมาซึ่งสัมพันธไมตรีอันดีอันเคยมีมากับสหประชาชาติเมื่อก่อนวันที่
๘ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๘๔
และพร้อมที่จะร่วมมือเต็มที่ทุกทางกับสหประชาชาติในการสถาปนาเสถียรภาพในโลกนี้
บรรดาดินแดงซึ่งญี่ปุ่นได้มอบให้ไทยครอบครอง คือ รัฐกลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี ปะริด
เชียงตุง และเมืองพานนั้น
ประเทศไทยไม่มีความปรารถนาที่จะได้ดินแดนเหล่านี้และพร้อมที่จะจัดการเพื่อส่งมอบในเมื่อบริเตนใหญ่พร้อมที่จะรับมอบไป
ส่วนบรรดาบทกฎหมายอื่นๆ
ใดอันมีผลเป็นปริปักษ์ต่อสหรัฐอเมริกา
บริเตนใหญ่และเครือจักรวรรดิก็จะได้พิจารณายกเลิกไปในภายหน้า
บรรดาความเสียหายอย่างใดๆ จากกฎหมายเหล่านั้นก็จะได้รับชดใช้โดยชอบธรรม
ในที่สุดนี้
ขอให้ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย ตลอดจนต่างด้าวซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรไทย
จงตั้งอยู่ในความสงบ และไม่ว่ากระทำการใดๆ อันจะเป็นการก่อกวนความสงบเรียบร้อย
พึงยึดมั่นในอุดมคติซึ่งได้วางไว้ในข้อตกลงของสหประชาชาติ ณ
นครซานฟรานซิสโก
ประกาศ ณ วันที่ ๑๖ สิงหาคม
พุทธศักราช ๒๔๘๘ เป็นปีที่ ๑๒ ในรัชกาลปัจจุบัน
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ทวี บุณยเกตุ
นายกรัฐมนตรี
charnvit KASETSIRI, ph.d.
for PEACE click:
http://www.petitiononline.com/sc2011/petition.html
for SIAM click:
www.petitiononline.com/SIAM2008
www.petitiononline.com/siam2007
Webs: charnvitkasetsiri.com;
http://textbooksproject.com/HOME.html,
http://www.tu.ac.th/org/arts/seas;