รั้วสีเขียว Green fence
โดยป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ
รั้วสีเขียวที่เห็นอยู่นี้ เป็นรั้วจากต้นข่อย ซึ่งโดยปกติต้นข่อยต้นนี้จะชอบขึ้นตามดินดอน โขดเขิน เนินจอมปลวก เป็นต้นไม้ที่เติบโตได้ไม่ช้าไม่เร็วนัก ลำต้นมักคดงอ พุ่มเรือนยอดกลม กิ่งก้านเหนียว ใบเดี่ยวสากๆ ดอกเล็กๆสีขาว ผลแก่สีเหลืองรูปรี นกและสัตว์ขนาดเล็กกินเป็นอาหารได้ เพาะกล้าจากเมล็ดได้ง่าย
จากคุณสมบัติใบสากนี่เอง คนไทยบ้านนอกของเราจึงใช้ใบข่อยรูดเมือกจากปลาไหล ก่อนนำปลาไหลไปผัดเผ็ด จนกลายเป็นสำนวนในนวนิยายหลายเรื่องว่า "กะล่อนนัก เดี๋ยวได้เจอใบข่อย"
เรื่องนี้เคยเกิดขึ้นจริงเมื่อจอมเจ้าชู้แห่งโรงงานแถวพระนครศรีอยุธยา ได้ถูกสาวๆโรงงานจับแล้วใช้ใบข่อยรูดจนไอ้หนูถลอกปอกเปิก เจ็บปวด และแสบแทบขาดใจ เรื่องนี้ลงข่าวหน้าหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด เป็นนสพ.ไทยรัฐ ลือกันกระฉ่อน เป้นที่สนุกครึกครื้น
ในวัดวาอารามที่ตกแต่งด้วยไม้ดัด นอกจากต้นตะโกนาแล้ว ต้นข่อยเป็นอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยม เนื่องจากแตกกิ่งก้านได้ดี ใบดกหนา และทดทานต่อสภาพที่ถูกควบคุมการเจริญเติบโต
ผมเพิ่งพบว่าต้นข่อยก็นำมาปลูกเป็นรั้วสีเขียวดังในภาพได้ดี ลำต้นแตกกิ่งก้านถี่ ปลูกชิดๆกันหลายๆต้นจนมีความกว้างขนาด 30 ซม. ตัดแต่งใบและกิ่งได้สวยงามมาก (ภาพนี้ถ่ายมาจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน) เป็นรั้งบ้าน อาคารสถานที่ราชการ ได้ดีเยี่ยม
หน้าต่างนี้ นำสิ่งละอันพันละน้อยมาฝาก เพื่อให้ท่านได้เก็บไปคิดและเผื่อว่าวันหนึ่งอยากทำบ้างก็ทำได้เลย อันว่ารั้วสีเขียวนี้ดีช่วยลดโลกร้อนได้ เพราะว่ายิ่งตัดแต่งกิ่งและใบออกก็ยิ่งช่วยให้ต้นข่อยแตกกิ่งและใบออกมามาก รั้วสีเขียวก็ดูคาร์บอนไดอ็อกไซด์เพิ่มมาเป็นใบและกิ่ง เมื่อตัดแต่งก็สลายกลายเป็นอินทรีย์วัตถุลงสู่ดินเหมือนเดิม เป็นวัฏจักรครับ