นางกวัก เทพแห่งการค้าขายร่ำรวย โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

นางกวัก เทพแห่งการค้าขายร่ำรวย

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

             ภาพนางกวักรูปนี้ถ่ายมาจากวัดไผ่ล้อม หลวงพ่อน้ำฝนบริกรรมคาถา ส่วนจะบูชากันกี่บาทกี่สตางค์ ผมไม่รู้จริงๆ แต่เห็นว่าสวยงามดี ก็เลยถ่ายมา เมื่อมาพิจารณาแล้วก็เห็นว่าน่าจะลงในหน้าต่างนี้ได้ ประกอบวิจารณาญาณของท่านผู้อ่าน เชื่อไม่เชื่อก็มีเรื่องเล่าให้อ่านละครับ

             ตำนานนางกวักเล่าสืบต่อกันมาดังนี้คือ มีพ่อค้าคนหนึ่งชื่อว่า สุจิตพราหมณ์ มีภรรยาชื่อ สุมณฑา มีบ้านเรือนอยู่ที่เมืองมัจฉิกาสัณฑ์ใกล้เมืองสาวัตถี ได้กำเนิดบุตรีหนึ่งคนชื่อว่า สุภาวดี ต่อมากิจการค้าเจริญรุ่งเรื่องมากขึ้นจึงได้ซื้อเกวียนมาเล่ม(คัน)หนึ่ง เพื่อนำสินค้าไปขายยังเมืองต่างๆ ในการเดินทางไปค้าขายนี้ ถ้าสุภาวดีขอไปด้วย การค้าขายได้กำไรงาม ขายดิบขายดี จนสุจิตพราหมณ์ผู้พ่อเอะใจ ครั้นคราวใดที่สุภาวดีไม่ได้ไปด้วย การค้าขายก็ฝืดเคืองลง 

              สุภาวดีนั้นเป็นหญิงสาวผู้โชคดีถึงสองชั้นกล่าวคือ

              ชั้นแรกนางได้มีโอกาสฟังธรรมปฏิบัติจาก พระมหากัสสัปเถระเจ้า ซึ่งได้กำหนดจิตประสาทพรให้สุภาวดีและครอบครัวทุกครั้งที่ได้มีโอกาส     

              ชั้นที่สอง นางได้มีโอกาสฟังธรรมจาก พระสีวลีเถระเจ้า ซึ่งเป็นพระอริยสงฆ์เจ้าที่แปลกแตกต่างจากพระสงฆ์องค์อื่นๆ ด้วยว่าเมื่ออยู่ในครรภ์มารดานั้น ท่านอยู่ถึง 7 ปี 7 เดือนจึงคลอด ท่านเป็นผู้ที่มีโชคลาภสักการบูชาตลอด พระสีวลีเถระเจ้าจึงได้กำหนดจิตปราสาทพรให้กับสุภาวดีและครอบครัว 

              สุภาวดีจึงมีความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมะแตกฉาน โชคดีมีลาภ ทำให้กิจการค้าของบิดาเจริญเฟื่องฟู ไม่เคยขาดทุนเลย  ด้วยตำนานที่มีมาแต่ดั้งเดิมเช่นนี้ จึงได้มีการปั้น หล่อ แกะสาลัก รูปนางสุภาวดีในท่านางกวัก เพื่อเสริมสิริมงคลให้เกิดแก่กิจการค้าโดยทั่วหน้า 

              นางกวักจึงกลายเป็นรูปเคารพที่บ่งชี้ถึงความเจริญรุ่งเรืองในการค้า กวักเรียกลูกค้าเข้าร้าน เงินทองไม่ขาดมือ ด้วยเหตุนี้ ร้านค้าที่ต้องพึ่งพาลูกค้าจึงนิยมบูชานางกวักเอาไว้ที่ร้านเสมอ แม้เลิกกิจการไปแล้วก็ยังเก็บรักษษเอาไว้ ถือว่าเป็นเทพที่เคารพนับถือ ควรบูชา