เติ้ล ตะวัน จารุจินดา

 “ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก และสามารถทำธุรกิจได้ ที่ผ่านมาคุณพ่อเขารักษาแบบไม่มีระบบเท่าไร บางครั้งคนมาเป็นคันรถเลย  แต่บางวันมี 2 – 3 คน ผมก็เข้ามาจัดระบบให้เป็นธุรกิจแล้วก็ทำการประชาสัมพันธ์ว่ามีศาสตร์แบบนี้อยู่ในโลกที่สามารถรักษาคนได้จริง ที่บ้านจักรวาลเราใช้ 2 ศาสตร์ด้วยกันศาสตร์แรกคือการเคลื่อนย้านเส้นเอ็นและสลายผังผืด ซึ่งสมัยก่อนคุณพ่อไปเรียนมาจากสิบสองปันนาและไปมาที่นั่นเพื่อรักษาคนจีน แต่พออายุมากก็กลับมารักษาคนไทย”

 ในวันที่ไปสัมภาษณ์หนุ่มเติ้ลอยู่บนชั้นสองนั้น ชั้นล่างมีผู้มาให้หมอเอ๋ยและทีมหมอนวดทั้งหลายนวดกันหลายสิบคนทั้งหญิงและชาย ส่วนใหญ่มานวดกันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้อาการเจ็บปวดหายขาด

“คนเราเมื่อกล้ามเนื้ออักเสบหรือมีปัญหา จะเกิดผังผืด ซึ่งจะดันเส้นเอ็นดันประสาททำให้เกิดอาการเจ็บปวด สิ่งที่คุณพ่อเรียนคือการเคลื่อนย้ายเส้นเอ็นเพื่อให้เส้นเอ็นเข้าที่ปกติรวมถึงพลังจักรวาล คนที่ใช้พลังจักรวาลเป็นเชื่อกันว่าจะสามารถรักษาโรคได้ทุกโรค เรื่องพลังจักรวาลที่อเมริกาและในยุโรปดังมากคนรู้จักหมดแต่ในไทยคนยังไม่ค่อยรู้จัก ซึ่งคนที่ใช้พลังจักรวาลได้ในบ้านเรามีไม่กี่คน  คุณพ่อเอาพลังจักรวาลมาหลังจากรักษาการเคลื่อนย้ายเส้นเอ็นแล้วก็นำมาบำบัดแก้ไขอาการอักเสบ เป็นเรื่องค่อนข้างมหัศจรรย์ที่คนที่มารักษาหายค่อนข้างเร็ว คนที่มารักษาหรือมาบำบัดกับเรา 3 ครั้งก็เห็นผลแล้ว”

000สารพัดโรคนวดแล้วหาย

ในบรรดาผู้ที่มานวดรักษานั้นมีอาการหลายแบบ อาทิอัมพาตน์อัมพฤต ไมเกรน นิ้วล็อค ผังผืดเกาะไหล่ อาการเหล่านี้”เติ้ล” บอกว่าสามารถรักษาได้ แต่มีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น ต้องเป็นอัมพฤตมาไม่เกิน 2 - 3 ปี  ทั้งนี้คนที่มารักษาส่วนใหญ่จะรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันมาก่อนแล้วไม่หายหมดทางเลือก จึงมารักษาที่นี่ ซึ่งจะหาย แต่บางคนไม่หายเพราะเป็นเป็นอัมพฤตอัมพาตทมานานแล้ว การรักษาต้องใช้เวลานาน

 สำหรับค่าบริการนั้นคิดเป็นจุดๆจุดละ 500 บาท ปวดไหล่ก็จุดหนึ่ง ปวดคอก็จุดหนึ่ง ปวดขาก็อีกจุดหนึ่ง ซึ่งการนวดบำบัดแบบใช้พลังจักรวาลนี้ต่างกันจากการนวดแบบสปาที่เป็นการนวดแบบผ่อนคลายต้องมีเวลารีดเส้นไล่เส้น  แต่การนวดเพื่อบำบัดเช่นถ้าปวดคอใช้เวลาแค่ 10 – 20 นาที อาการก็อาจจะหายไม่ต้องใช้เวลามากและไม่เจ็บ

00วางแผนขยายสาขา

 ในส่วนของลูกค้าในแต่ละวันจะไม่เท่ากันมีตั้งแต่วันละ 25 -80 คน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ บางช่วงลูกค้าลดลงเพราะรักษาหายแล้ว (โทรติดต่อได้ที่ 089-9496519  089-8767519) 

ในการทำธุรกิจร่วมกับเพื่อนครั้งนี้ เติ้ลมองว่า “คุณพ่อของเต้ก็เหมือนกับเป็นคุณพ่อของผมอีกคน ฉะนั้นธุรกิจนี้เหมือนกับครอบครัวของผม  และผมรู้สึกว่าการที่จะทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่งแล้วได้ช่วยเหลือคนบ้างมันก็วินวิน  เราได้ค่าแรงค่าเหนื่อยลูกค้าที่มาใช้บริการเขาก็หายเจ็บกลับไป”

เห็นอายุยังแค่ 30 ต้นๆ แต่เติ้ลบอกว่า “ทำธุรกิจกับพี่ชายมาตั้งแต่อายุ 23 ปี  เพราะเมื่อเข้าวงการบันเทิงพี่ชายแนะนำว่าอยู่ในวงการไม่ยั่งยืน เราเลยเริ่มเปิดบริษัทกัน ถ้าถามว่าธุรกิจนี้จริงจังไหมก็ค่อนข้างจริงจัง แต่ค่อนข้างปล่อยเพราะทีมงานของบ้านจักรวาลเขาเป็นมืออาชีพ และไม่ต้องประชาสัมพันธ์มากเพราะเป็นการบอกกันปากต่อปากมากกว่า เราก็มาทำอะไรให้เป็นระบบมากขึ้น อย่างที่นี่ผมเข้ามาดูเดือนละ 2 – 3 ครั้ง  เพราะหลังจากที่ระบบบัญชีเรียบร้อย ระบบอื่น ๆ ลงตัวผมก็ไม่ห่วง มันจะยากเฉพาะตอนเริ่มต้นเท่านั้นเอง และในอนาคตอาจจะขยายสาขา”

 ถามถึงปัญหาของธุรกิจนี้ เติ้ลแจกแจงว่า “ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของคน  เป็นการบริหารจัดการคน ไม่ว่าจะเป็นตัวหมอ ตัวลูกค้า  ผมว่าการรักษานอกจากจะสบายกายแล้วจะต้องสบายใจด้วย ส่วนใหญ่คนที่มารักษาจะมานั่งคุยกับคุณพ่อด้วย ผมจะเน้นเรื่องบริการ ทุกคนจะต้องดูแลลูกค้าดี ต้องยิ้มแย้มแจ่มใสกับลูกค้า”

 ส่วนเรื่องที่ว่าการเป็นนักแสดงช่วยในเรื่องธุรกิจอย่างไรบ้าง ประเด็นนี้เจ้าตัวตอบว่า “ความเป็นดาราของผมก็ช่วยได้บ้าง แต่ผมว่าคนไทยอยากลองและคนไทยเป็นชาติที่รักสุขภาพ  และผมคิดว่าถ้าเราทำอะไรที่เกี่ยวกับสุขภาพก็น่าจะดี เช่นธุรกิจล่าสุดของผมกับพี่ชายคือขายไอศกรีมเพื่อสุขภาพ ทานแล้วไม่อ้วน กินแล้วได้ประโยชน์”

000oเคยทำผับแต่ไม่เวิร์ก

 อย่างที่เติ้ลบอกว่า เคยทำธุรกิจมาตั้งแต่อายุ 23 ปีนั้น ทำให้เขาได้ประสบการณ์หลากหลาย

“เริ่มแรกที่ผมทำธุรกิจเราทำผับแอนด์เรสเตอร์รอง เป็นร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์  ทำ 5 – 6  ร้านอยู่แถวสุขุมวิท แต่ไม่ประสบความสำเร็จเพราะไม่ได้ทำเองและไม่มีประสบการณ์ก็หมดเงินไปเยอะ  หลังจากนั้นมาทำรายการทีวีออกอากาศทางช่อง 7  แล้วก็หยุดไประยะหนึ่ง ต่อมาผมเปิดบริษัทเล็กๆ ทำงานกับบริษัทมงคลฟิมล์ กระทั่งปัจจุบันผมเป็นฝ่ายบริหาร ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานี ดูธุรกิจของบริษัทมงคลฟิลม์ ในส่วนของทีวี ช่องมงคลแชลแนล และจะขึ้นช่องใหม่คือมงคลซีรี่ส์”

ในฐานะที่มีประสบการณ์ในวงการเคเบิ้ล เติ้ลมองว่า “ธุรกิจเคเบิ้ลทีวีอยู่ได้แน่นอน อนาคตข้างหน้าจะมีมูลค่าเป็นหมื่นล้านในองค์รวม เพราะคนนิยมดูมากขึ้น  สมัยก่อนอำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ช่องแต่ปัจจุบันอำนวจการตัดสินใจของความบันเทิงอยู่ที่คนดู อยู่ที่รีโมท คุณอยากดูอะไรก็เลือกได้เลย ซึ่งช่องที่เราทำก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ กลุ่มคนดูส่วนใหญ่เป็นคนพื้นที่รอบนอกกรุงเทพฯ ตอนนี้ยอดโฆษณาเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ”

 นับเป็นนักแสดงอีกคนที่สวมบทนักธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย และทายได้เลยว่าหนุ่มเติ้ลคนนี้อนาคตทางธุรกิจแจ่มใสแน่นอน อีกทั้งเจ้าตัวย้ำหนักย้ำหนาว่า ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไร แต่ก็ยังคงรับงานแสดงต่อไป