ปราสาทเมืองต่ำ อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ผมชอบไปเที่ยวชมปราสาทพนมรุ้ง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์มาก ไปมาหลายครั้งก็ไม่เบื่อ ด้วยว่ามนต์เสน่ห์ของศิลปะการแกะสลักเสลาหินทรายและความยิ่งใหญ่อลังการของปราสาท ได้สลักปักใจผมจนติดหนึบ ไปครั้งใดผมก็เลยไปเที่ยวที่ปราสาทเมืองต่ำ บ้านโคกเมือง อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ด้วยทุกครั้ง เว้นแต่มีเวลาและโอกาสน้อย
อ้อ สันนิษฐานกันว่า ปราสาทเมืองต่ำสร้างราวๆศตวรรษที่ 16-17 ตามคติศาสนาฮินดูลัทธิไศวนิกาย จุดเด่นคือปราสาทก่อิฐ 5 องค์ ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน มีกำแพงแก้วและระเบียงคดล้อมสองชั้น
ศูนย์บริการและป้ายหน้าทางเข้าปราสาท
เพื่อนสื่อมวลชนที่นับถือคนหนึ่งชวนไปจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านใต้ 4 จังหวัด แล้วก็แถมพาผมไปท่องเที่ยวปราสาทเมืองต่ำ แม้ว่าเวลาจะใกล้ค่ำแล้วก็ตาม แต่ด้วยวิสัยของสื่อมวลชนและตากล้องระดับมือโปร เขากล่าวว่า ถ่ายได้ กล้องดิจิตอลใช้แสงน้อย ประการสำคัญใช้ขาตั้งกล้องจะช่วยให้การถ่ายด้วยสปีด(ความเร็ว)ต่ำได้ดี แม้ไม่เด่นเท่าแสงพอดีก็ใกล้เคียง เอากับพ่อซิ !!
บารายนอกปราสาทและป่าไม้ต้นใหญ่ๆหน้าทางเข้า
เมื่อถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของอุทยานประวัติศาสตร์ ปราสาทเมืองต่ำ ได้แว้บไปถ่ายรูปบารายนอกปราสาทไว้ด้วย เพราะว่าตามหลักการก่อสร้างปราสาทของขอมนั้น สิ่งแรกที่ต้องสร้างคือชุมชนคนทำงานและบารายเพื่อเก็บน้ำไว้เพาะปลูกและใช้สอย ซึ่งจะช่วยให้คนทำงานอยู่อาศัยได้ด้วยความบริบูรณ์ มีน้ำกินน้ำใช้ในครัวเรือน มีน้ำทำนา มีน้ำก็มีปลา กุ้งหอย และพืชผัก
กำแพงแก้วด้านหน้าปราสาทและระเบียงแก้วชั้นสอง
บารายนอกปราสาทขนาดใหญ่นี้กว้าง 500 เมตรยาว 1,090 เมตร ความลึก 3-4 เมตร หัว(เหนือ)ท้าย(ใต้)มีศิลาแลงทำขั้นบันไดลงในสระ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือและเฉียงใต้มีสะพานขอมรองรับน้ำออกไปยังพื้นที่เกษตรกรรมทำนา นี่คือความฉลาดหลักแหลมของคนขอมโบราณ มีการกำหนดหลักการ กำหนดแผนการปฏิบัติ การบริหารทรัพยากรจากแหล่งธรรมชาติและมนุษย์ ไม่ธรรมดาครับ
ระเบียงคดนี้ถ่ายจากกำแพงแก้วด้านใต้ขวาซ้ายเป็นสระน้ำ
ปราสาทเมืองต่ำสร้างบนที่ราบต่ำกว่าปราสาทพนมรุ้ง ห่างกันราวๆ 7 กม. มีถนนราดยางเชื่อมต่อการคมนาคมอย่างสะดวก เป็นปราสาทที่ประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ที่เหมือนหรือคล้ายๆกับทุกปราสาทขอม วัสดุที่ใช้ก่อสร้างได้แก่ หินทราย อิฐ และศิลาแลง ประกอบด้วยสิ่งก่อสร้าง 6 ส่วนดังนี้คือ
ปราสาท 5 องค์ องค์ประธานพังทะลายแล้ว
ภาพแรกที่เห็นคือ "กำแพงแก้ว" หรือแนวรั้วที่ก่อสร้างด้วยศิลาแลงเพื่อล้อมปราสาท กว้าง 120 เมตร ยาว 127 เมตร สูง 2.7 เมตร บนสันกำแพงแต่งแต้มให้ดูงดงามด้วย ทับหลังกำแพงหินทราย มีรูเพื่อปัก"บราลี" ทั้งสี่ด้าน แต่ละด้านมีซุ้มประตูหรือ"โคปุระ" ที่ทำด้วยหินทราย มีประตูตรงกับประตูระเบียงคด ประตูเหล่านี้ใช้เป็นทางเข้าออกปราสาท สลักรูปดอกบัว 8 ดอกบนพื้น เพื่อ โชคลาภ ความเป็นปึกแผ่น และมีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
มุมนี้เห็นฐานศิลาแลงปรางค์ประธาน
"บารายหรือสระน้ำ" ภายในอาณาบริเวณปราสาท ขาดไม่ได้เช่นกัน มีอยู่ 4 สระ โดยขุดเป็นรูปหักมุมกับกำแพง ก่อด้วยศิลาแลงเป็นขั้นบันได้ลงไปจนถึงก้นสระ เพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้สอยในพิธีกรรมต่างๆทางศาสนา รอบขอบสระมีหินทรายสลักเป็น"นาค 5 เศียร" อีกนัยหนึ่งเสมือนดั่งเป็นมหาสมุทรทั้งสี่ที่รายล้อมเขาพระสุเมรุ แต่ที่เห็นมีบัวสายปลูกประดับอยู่ด้วย ก็สวยงามดีครับ
บารายในปราสาทและประตูลงสระ
เมื่อเดินทางไปเที่ยวปราสาทขอม ควรลองเดินตามรอบรั้วไปก่อน 1 รอบ เพื่อจะได้เห็นรูปทรงของปราสาทชั้นนอกสุด หลังจากนั้นก็เดินชั้นที่สอง อันได้แก่ "ระเบียงคด" ซึ่งเป็นรั้วชั้นในที่กว้าง 2 เมตร เพื่อให้สามารถเดินไปได้รอบปราสาท พื้นปูด้วยศิลาแลง มีช่องหน้าต่างที่ประดับด้วย"ลูกมะหวด"ทั้งสี่ด้าน เหมือนเป็นทางเดินตรวจการณ์รักษาความปลอดภัย
ระเบียงคดที่ล้อมรอบปราสาทอันเป็นปรางค์ประธานนั้น ตกแต่งและเติมเต็มด้วยโคปุระทั้ง 4 ด้านเช่นเดียวกับซุ้มประตูกำแพงปราสาท มีกรอบประตู มีการสลักลวดลายกรอบประตู มีทับหลังที่มีทั้งของเดิม บูรณะขึ้นใหม่ และอยู่ในสภาพที่เสื่อมสลายไป ส่วนจะเป็นรูปสลักอะไรบ้างนั้น ค่อยติดตามอ่านต่อไป เพื่อให้การท่องเที่ยวชมปราสาทสนุกและน่าสนใจ จึงต้องหัดสังเกตและเรียนรู้จากของจริง
ถ่ายจากระเบียงคดทิศตะวันตก
ไฮไลท์ของการท่องเที่ยวชมปราสาทเมืองต่ำอยู่ที่ ปราสาทประธาน 5 องค์ อันเป็นปราสาทสร้างด้วยอิฐ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน แถวหน้า 3 องค์ แถวหลัง 2 องค์ โดยถือเอาองค์กลางแถวหน้าเป็นปราสาทประธาน ตอนนี้มีแต่ฐาน ส่วนองค์ประสาทประธานพังทะลายลงหมดแล้ว ส่วนปราสาททั้ง 5 องค์นั้นมีประตูเข้าได้เพียงด้านเดียวทางทิศตะวันออก ส่วนประตูอื่นๆเป็นประตูหลอก
ทับหลังของปราสาทองค์ทิศเหนือ พระศิวะและพระอุมาเทวีประทับโคอศุภราช
องค์ประธานมีมุกหน้าอีกชั้นหนึ่ง มีทับหลังประตูที่สลักภาพเทพถือดอกบัวประทับนั่งเหนือหน้ากาฬแวดล้อมด้วยสตรีเป็นบริวาร หน้าบันสลักพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
ภาพเหล่านี้อยู่ตรงไหนหนอ
พระปรางค์บริวารอีก 4 องค์รูปทรงยังดีอยู่ แต่ละองค์มีทับหลังสลักเสลาสวยงาม แต่เหลือให้เห็นอยู่เพียง 2 องค์ ได้แก่ องค์ทิศเหนือของแถวหน้าและองค์ทิศใต้แถวหลัง สลักเป็นภาพพระศิวะอุ้มนางอุมาเทวีไว้บนพระเพลา(ตัก) ประทับนั่งอยู่บนหลังโคนนทีและภาพพระวรุณทรงหงส์ ยอดปรางค์ที่พบเป็นหินทรายสลักรูปดอกบัวตกอยู่
ปราสาทเมืองต่ำแตกต่างจากปราสาทอื่นๆตรงที่มีปราสาท 5 องค์ เรียวแถวหน้า 3 องค์ แถวหลัง 2 องค์ เป็นมิติเขาพระสุเมรุอันเป็นศูนย์กลางชมพูทวีป เป็นศูนย์กลางจักรวาล และเป็นทีสถิตของเหล่าทวยเทพ ตามคติโบราณของขอม
ภาพสลักสองภาพนี้อยู่ใกล้กัน ตรงไหนเล่า?
ด้านหน้าปรางค์ประธาน 5 องค์ มีบรรณาลัยที่เป็นหอสมุดเก็บรักษาคำภีร์หรือตำราทางศาสนาและพิธีกรรมโบราณ โดยตั้งอยู่ข้างละ 1 องค์ สร้างด้วยอิฐ
หน้าบัน ทับหลังกรอบประตู กรอบประตู ของรูปแบบปราสาททุกแห่งส่วนใหญ่จะสลักเสลาไว้ด้วยหินทรายสีชมพู ลวดลายที่สลักเสลาเล่าเรื่องราวจากเรื่องรามเกียรติ เช่นทับหลังปราสาทองค์ทิศเหนือเป็นภาพกฤษณะโควรรธนะ
พระศิวะนั่งชันเข่าเหนือหน้ากาฬ
หรือว่าทับหลังของปราสาทองค์ทิศเหนือแถวหน้าเป็นภาพสลักรูปพระศิวะประทับนั่งบนหลังโคอุศุภราชอายุรุ่นกลางพุทธศตวรรษที่ 16
ทับหลังเหนือซุ้มประตู(โคปุระ) เป็นภาพพระกฤษณะปราบนาคกาลียะ เป็นอวตารภาคแปดของพระนารายณ์ ตามความเชื่อที่ว่า พระองค์อวตาร(แปลงหรือเกิด)มาปราบทุกข์บนโลกมนุษย์ 10 ครั้ง
หินทรายสลักเก่าเริ่มสึกกร่อน
นอกจากนี้ ยังมีภาพสลักเสลาหินทรายที่งดงามอีกมากมายในปราสาทเมืองต่ำ ที่ต้องขอบอกว่า มีความงดงามไม่แพ้ปราสาทพนมรุ้งแต่อย่างใด เป็นปราสาทที่ยังคงรูปไว้ได้อย่างดี แม้มีบางส่วนที่ประดิศบ์ขึ้นมาใหม่ การเข้าชมจึงควรหัดสังเกตด้วยว่า ทับหลังหรือภาพสลักใดเป็นภาพเก่า หรือภาพแต่แต้มใหม่ หรือภาพที่ผสมกันระหว่างการอนุรักษืของเก่าและการตกแต่งเพิ่มเติม
ภาพเหล่านี้เป็นปริศนาที่ชวนให้อยากรู้ และอยากติดตามว่า ภาพสลักที่เห็นในหน้าเว็บไซต์นี้ ที่ปราสาทเมืองต่ำ สถิตอยู่ตรงส่วนไหนของปราสาท อาจอยู่ที่หน้าบันหรือทับหลังกำแพงแก้ว หรือระเบียงคด หรือว่าอยู่ที่โคปุระใดๆ ไปท่องเที่ยวทั้งที หากได้คิดไปด้วยคงจะช่วยให้เกิดความน่าสนใจและน่าจะได้ประโยชน์ เพิ่มการจดจำและรับรู้ที่ทรงคุณค่า
หน้าต่างลูกมะหวดและกรอบประตูสลักลาย
แท้ที่จริงแล้ว ที่บ้านโคกเมืองใกล้ปราสาทเมืองต่ำนั้น เป็นชุมชนขอมที่มีรากเหง้ามาจากขอมโบราณ อาจเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของช่างสลักเสลาหินผู้มากความสามารถ หรืออาจจะเป็นเพียงเกษตรกรที่ทำนาเลี้ยงบรรดาช่างสลักหิน แต่อย่างไรก็ตาม บ้านโคกเมืองมีของฝากติดมือในราคาตามสมควร และในกรณีสนใจผ้าไหมผ้าฝ้ายฝีมือพื้นบ้าน ลวดลายโบราณก็สืบหาได้
ในช่วงที่ไปถ่ายภาพเป็นเวลาใกล้ค่ำ ภาพที่ถ่ายได้จึงสวยงามระดับนี้เท่านั้น หากมีโอกาสได้เดินทางไปอีกครั้งจะนอนเฝ้าตะวันขึ้นและตะวันตกเลยทีเดียว เพื่อบันทึกภาพที่สวยสดใสชวนชมมากกว่าที่เห็น ขาว-ซีด-มัวซัว การท่องเที่ยวนั้นมิใช่ว่าไปครั้งเดียวแล้วเลยไป หากมีเรื่องราวหรือความงดงามที่ซ่อนเร้นอยู่ ก็ควรจะได้ไปท่องเที่ยวให้สาสม
ปราสาทพนมรุ้ง-ปราเมืองต่ำ-บ้านโคกเมือง เพียงเท่านี้ก็ชวนอยู่ชวนเที่ยว และชวนกินอาหารพื้นถิ่นรสชาติอร่อยเหลือ
ปราสาทเมืองต่ำเปืดให้เข้าชมเวลา 08.30-16.30 น. คนไทย 10 บาท คนต่างชาติ 40 บาท พักแรมรีสอร์ทใกล้ๆอีกคืนละไม่กี่ร้อยบาท โคตรคุ้ม