http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,993,771
Page Views16,302,042
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ท่องแดนแผ่นดินธรรมตอน62.วัดท่าหลวง ไปกราบหลวงพ่อเพชร โดยป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ

ท่องแดนแผ่นดินธรรมตอน62.วัดท่าหลวง ไปกราบหลวงพ่อเพชร โดยป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ

ท่องแดนแผ่นดินธรรมตอน62.

วัดท่าหลวง ไปกราบหลวงพ่อเพชร

โดยป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ

                  ป่านท่องแดนแผ่นดินธรรมมากมายหลายวัด แต่ละวัดล้วนมีความสำคัญ ส่วนใหญ่เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองเป็นส่วนใหญ่ อาจเป็นวัดเก่าแก่มาแต่โบราณ อาจมีพระเก่าแก่ของแท้ที่งดงามมากๆ และอาจเป็นวัดที่มีพระบรมธาตุสำคัญคู่เมือง จังหวัดพิจิตรก็เช่นกัน มีดีมาอวดเพียบ

                หลวงพ่อเพชร พระประธานในอุโบสถวัดท่าหลวง ตั้งอยู่ฝั่งซ้ายริมแม่น้ำน่าน มีความเป็นมาอย่างไรหรือ 

                ตำนานหลวงพ่อเพชรนั้นเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อครั้งที่แม่ทัพหลวงจากกรุงศรีอยุธยายกทัพขึ้นไปปราบขบถที่เมืองจอมทอง นครเชียงใหม่ ปีใดไม่ปรากฎแน่ชัด ได้มาการพักทัพที่เมืองพิจิตร  เจ้าเมืองพิจิตรได้ปรารภว่า ถ้าปราบขบถเรียบร้อยแล้ว ขอพระพุทธรูปงามๆมาฝากสักองค์หนึ่ง ครั้นแม่ทัพผู้นั้นได้ปราบขบถเมืองจอมทองสำเร็จ จึงได้อัญเชิญหลวงพ่อเพชรจากจอมทองล่องแพมาตามแม่น้ำปิง แล้วฝากไว้ที่เมืองกำแพงเพชร พร้อมกับแจ้งให้เจ้าเมืองพิจิตรทราบ

หลวงพ่อเพชรวัดท่าหลวงเมืองพิจิตร

                พระพิจิตรและชาวเมืองได้เดินทางไปสักการะแล้วอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่วัดนครชุม เมืองพิจิตรเก่า ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมใองแต่นั้นนานมา ล่วงมาถึงพ.ศ.2442 พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 โปรดให้สร้างวัดเบญจมบพิตรที่กรุงเทพ แล้วให้อัญเชิญพระพุทธชินราชวัดพระศรีมหาธาตุเมืองพิษณุโลก ไปประดิษฐานที่วัดเบญจมบพิตร แล้วก็ให้อัญเชิญหลวงพ่อเพชรจากวัดนครชุมเมืองพิจิตรไปประดิษฐานแทนที่วัดพระศรีมหาธาตุพิษณุโลก 

                เรื่องนี้ได้สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้อนาประชาราษฎร์ทั้งเมืองพิษณูโลกและเมืองพิจิตร โดยเฉพาะเมืองพิจิตรนั้นถึงกับอัญเชิญหลวงพ่อเพชรไปหลบซ่อนตามป่าดง  แต่เมื่อทางการตามจนพบก็ได้นำลงเรือชะล่ามุงหลังคา แล้วก็ลากไปตามแม่น้ำน่านจนไปจอดเทียบท่าเรือหน้าวัดพระศรีมหาธาตุ แต่แล้วด้วยบุญบารมีของหลวงพ่อเพชรและหลวงพ่อพุทธชินราช สมุหเทศาภิบาล เมืองพิษณุโลก นำความกราบบังคมทูลต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงทราบ

วัดท่าหลวง

                จึงโปรดให้ดำรงพระพุทธชินราชประดิษฐานที่วัดพระศรีมหาธาตุดังเดิม และให้หลวงพ่อเพชรประดิษฐานที่วัดท่าหลวง เมืองพิจิตรใหม่ ตราบเท่าทุกวันนี้ ส่วนพระประธานในอุโบสถวัดเบญจมบพิตร กรุงเทพ ได้จำลองพระพุทธชินราชเป็นพระประธานแทน ในขณะเดียวกับที่ชาวเมืองพิจิตรเก่าก็จะอัญเชิญหลวงพ่อเพชรไปประดิษฐานยังวัดนครชุม เมืองพิจิตรเก่า แต่ชาวเมืองพิจิตรใหม่ก็ไม่ยอม จนกระทั่งเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรในขณะนั้น เจ้าคุณพระธรรมทัสสิมุนีวงศ์(เอี่ยม) เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง ได้ไกล่เกลี่ยด้วยการหล่อหลวงพ่อเพชรจำลองไปประดิษฐานยังวัดนครชุมเมืองพิจิตรเก่า 

หนุมานสปอตไลท์ เท่ แปลก งดงาม

                หลวงพ่อเพชรองค์นี้เป็นพระโลหะสำริดปางมารวิชัย นั่งขัดสมาธิเพชรชายสังฆาฏิสั้นเหนือพระอุระขนาดหน้าตัก 1.40 เมตรสูง 1.60 เมตร ประทับนั่งบนฐานรูปบัวคว่ำบัวหงาย พุทธลักษณะสมัยเชียงแสนรุ่นแรก สร้างราวๆปีพ.ศ.1660-1880 รวมอายุกว่า 881 ปี ปัจจุบันนี้วัดท่าหลวงเป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่ในเขตปกครองตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร โทร.056-612585 

                ป่านเข้าไปกราบสามทีแล้วก็เงยหน้าขึ้นชมความงดงามของพุทธศิลป์ ได้ทราบความว่า สังวาลย์นั้นเดิมทีไม่มีแต่มีผู้มาสร้างถวายให้ในภายหลัง ส่วนจะเป็นใครไม่ปรากฎนาม หากปรากฎนามก็คงจะได้ฟังคำติฉินนินทามากมาย โดยเฉพาะนาคล้อมองค์พระด้วยยิ่งน่าเสียดาย ซึ่งไม่ควรจะถวายส่งเดช จนภาพลักษณ์ของหลวงพ่อเพชรเดิมสูญเสียเอกลักษณ์ไปอย่างสิ้นเชิง ดังนั้น วัดไหนก็ตามหากจะถือปฏิบัติเช่นนี้ควรระวัง ควรพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วน 

ประตูโบสถ์วัดท่าหลวง สวย

                ภายในอุโบสถมีพุทธศาสนิกชนเข้ามาถวายสังฆาทานแด่ภิกษุสงฆ์ รับศีลป์ประพรมน้ำมนต์ แล้วก็กราบลาจากไปกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า ป่านเดินออกมาจากโบสถ์ก็ตรงไปเดินรอบๆ ได้เห็นหนุมาน พาลี องคต ฯลฯ ทหารเอกของพระรามและพระลักษณ์ในรามเกียรติ ถือปืนอาก้ากระบอกใหญ่บะเห่ง แต่เมื่อเดินเข้าไปพินิจใกล้ๆจึงได้เห็นว่าแท้ที่จริงเป็นกระบอกไฟสปอตไลท์เพื่อส่องสว่างอุโบสถให้งดงาม นับว่าเป็นแนวคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่น การปั้นก็ปั้นได้สัดส่วนงดงามเสียอีกด้วย ไปวัดท่าหลวงอย่าลิมเดินชม

                 วัดท่าหลวงอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่าน จึงมีประเพณีแข่งเรือยาวที่หน้าวัดทุกปี ซึ่งอยู่ในช่วงวันแรม 6 ค่ำเดือน 10 ทุกปี แต่เป็นเทศกาลประเพรีแข่งเรือยาวเพียงวันเดียว แบบน๊อกเอาท์ งานประเพณีแข่งเรือยาวนี้เริ่มมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2450 โดยเจ้าคุณพระธรรมทัสสิมุนีวงศ์ เป็นเจ้าอาวาสและเป็นเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรเป็นต้นมา ช่วงเดือนกันยายน หากอยากชมการแข่งเรือยาวที่เป็นต้นแบบแล้วละก้อ มาที่วัดท่าหลวงได้เลย งานยิ่งใหญ่ด้วยมีเรือยาวมาจากทั่วประเทศลงแข่งขันกันเต็มฝีพาย 

ประติมากรรมธรรมจักรหินทรายอายุ 220 ปี

                ป่านเดินผ่านไปใต้ร่มโพธิ์หน้าวัด ได้เห็นประติมากรรมธรรมจักรโบราณอายุกว่า 220 ปี  สร้างด้วยหินทรายสวยงามมาก นอกจากนั้นยังมีมณฑปจตุรมุขหน้าท่าวัด สร้างไว้เหมือนเป็นปะรำรับเสด็จชมเรือแข่งประเพณี  ส่วนบริเวณวัดที่กว้างขวางนั้น มีสิ่งก่อสร้างสลับกันต้นไม้ร่มรื่น แต่อย่างไรก็ดี ยังมีที่ว่างให้พุทธบริษัทได้เข้ามาจอดรถยนต์ได้สะดวก 

                ไปเมืองพิจิตรคิดดีก็ไปกราบไหว้หลวงพ่อเพชร สักครั้ง เยี่ยมสุดๆ      

คนไทยกับการไหว้พระ   

 

                 

 

                  

Tags : ท่องแดนแผ่นดินธรรมตอน61.วัดพระบรมธาตุบ้านตาก

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view