แถลงข่าวเทศกาลท่องเที่ยว
ปลายฝนต้นหนาว รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม จ.อุบลราชธานี
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ปลายฝนต้นหนาวทุกปี จังหวัดอุบลราชธานีทุกภาคส่วน มีภาระกิจสำคัญ นั่นคือการเปิดฟ้าเทศกาลท่องเที่ยว ตามแนวคิด รับตะวันใหม่ก่อนใครในสยาม ที่ผาชะนะได อุทยานแห่งชาติผาแต้ม ซึ่งมิใช่เพียงแค่นั้น หากแต่ปลายฝนต้นหนาวเช่นนี้แหละที่มีดอกไม้ป่าบานสพรั่งให้ชมเชยกันเต็มอิ่ม ได้เดินท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย และได้ชมธรรมชาติอีกหลายหลาก
ผมโชคดีที่ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ออกหมายเชิญให้สื่อมวลชนทุกสาขากว่า 30 ชีวิต เดินทางมาฟังแถลงข่าวท่ามกลางดงดอกไม้ป่าแสนงาม ได้อารมณ์ชิวๆ
รูปหมู่ผู้ว่าและคณะแถลงข่าว
แต่ว่างานช้างระดับนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายสุรพล สายพันธุ์ ให้เกียรติเป็นประธานการแถลงข่าว ต่อเติมด้วยนางพัฒน์มาศ วงศ์พัฒนศิริ ผอ.ภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ผอ.ยุพา ปานรอด ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุบลราชธานี นายกวี ประสมพล หน.อุทยานแห่งชาติผาแต้ม
และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารสายการบินแอร์เอเซียจำกัด สถานที่แถลงข่าวเป็นกลางทุ่งดอกไม้ป่าแสนงามที่อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เหนือน้ำตกสร้อยสวรรค์ ยอดเยี่ยมจริงๆ
ผอ.พัฒน์มาศ วงศ์พัฒนศิริ กำลังให้สัมภาษณ์สื่อ
ประมวลเรื่องราวที่แถลงได้ว่าปลายฝนต้นหนาวนี้ อยากให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ข้อมูลว่า อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี นั้นพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวด้วยบรรยากาศของภูมิอากาศที่เย็นสบาย เดินเที่ยวได้ไม่เหนื่อย มีบ้านพักอุทยานแห่งชาติ ลานกางเต็นท์ โรงแรมและรีสอร์ทมากมายรองรับได้เต็มพิกัด
ในช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาวปีนี้ มีดงดอกไม้ป่าแสนงามที่ขึ้นตามธรรมชาติละลานตาไปทั้งราวไพร เช่นดอกดุสิตาสีม่วงคราม ดอกเหลืองพิสมร ดอกกระดุมเงิน กระดุมทอง ฯลฯ
ผอ.พัฒน์มาศ วงศ์พัฒนศิริ
นอกจากดงดอกไม้ในป่านาทามแล้วยังมีน้ำตกสร้อยสวรรค์ น้ำตกแสงจันทร์อันแปลกประหลาดยิ่ง และใบไม้ป่าที่กำลังเริ่มเปลี่ยนสีเพื่อการเปลี่ยนถ่าย ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ทรัพยากรท่องเที่ยวมากมายหลายอย่างในพื้นที่ไม่ห่างไกลกันนัก ในแต่ละฤดูกาลยังเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติบันดาล สิ่งที่คงอยู่อย่างถาวรและแปลกตาน่ายลนักหนานั้นก็เช่น เสาเฉลียง เต่าหินชมจันทร์ ฯลฯ ตำนานเรื่องเล่าขานกันอย่างพิลึกพิลั่น การได้กางเต็นท์นอนบนผลาญหินท่ามกลางป่าเขาและความเวิ้งว้าง ชวนสัมผัส
เช้าตรู่เดินย่ำไปบนหญ้าที่เปียกด้วยเกล็ดน้ำค้าง
ผอ.ยุพา ปานรอด
ประการสำคัญต้นหนาวที่จะถึงนี้มีเทศกาลที่ได้รับการกล่าวขานถึงอย่างเกรียวกราวมาทุกปีก็คือ ที่ผาชะนะได จุดตะวันออกสุดในสยาม ตามแนวเส้นลองกิจูด 105 องศา 37 ลิปดา 17 ฟิลิบดา คือผาที่จะได้รับแสงตะวันเมื่อวันขึ้นปีใหม่ก่อนใครในสยาม ส่วนจะเวลานาทีเท่าไรนั้นไม่สำคัญเท่าว่า ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม ทุกปีนั้น ท่านได้จับจองที่พักแรมทางไว้ ณ จุดดังกล่าวหรือยัง
เพระว่าในค่ำคืนนั้นจะมีงานพิธีการส่งแสงตะวันด้วยดนตรีพื้นบ้านอีสาณบ้านเฮา รำกระบองไฟ การไหลโคมรูปกระต่ายเพื่อส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ด้วยการตักบาตรทำบุญเช้าตรู่วันที่ 1 มกราคม 2555 ของอำเภอโขงเจียมด้วย
สองชนิดกรีดผสมกลมกลืน
ผืนป่าส่วนใหญ่ของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม เป็นป่าเต็งรัง ต้นไม้ส่วนใหญ่เป็นต้นเต็ง และต้นรัง ซึ่งมีเปลือกและการเปลี่ยนสีของใบแตกต่าง นอกจากนั้นก็ยังมีพันธุ์พืชและพันธุ์ไม้ป่านานาพันธุ์ แตกต่างกันตั้งแต่ลักษณะลำต้น เปลือก ผิวสี และ ดอกผล
บางต้นสวยแต่อันตรายเช่นต้นรักใหญ่เมื่อออกช่อดอกที่ปลายกิ่ง จะมีดอกสีขาวเล็กๆพราวไปทั้งช่อ แต่เมื่อเปลี่ยนเป็นผลหรือฝัก จะมีสีแดงกำมะหยี่ทั้งช่อ ดูสดสวยและงดงามมาก อันว่าต้นรักใหญ่นี้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเขาใช้น้ำยางรักสีดำๆทาก่อนการปิดทอง เรียกกันว่า ลงรักปิดทอง แต่ไม่ควรต้องผิวเปลือกหรือใบ คันเขยอเชียว
ความงดงามของป่าดงนาทามที่มีดอกไม้บานไสว
หลังการแถลงข่าว ท่านผู้อำนวยการทั้งสองได้นำทางเพื่อไปลงเรือล่องท่องแม่น้ำโขง เพื่อชมพื้นที่กลางน้ำโขงที่ถูกธรรมชาติสลักเสลาจนกลายเป็นประติมากรรมงดงามและแปลกตา เรียกกันว่า สามพันโบก อันหมายถึงว่ามีโบก(บ่อหรือหลุม)จำนวนมากมายอาจจะเกินกว่าสามพันก็ได้ แต่ทั้งหมดเกิดขึ้นอยู่ในผลาญหินกลางแม่น้ำโขง ซึ่งถูกกระแสน้ำไหลผ่านชั่วนาตาปี จนเกิดการกัดเซาะและเจาะลึกจนเป็นโบกๆ โดยเริ่มจากรูเล็กๆ แล้วก็ขยายใหญ่ขึ้นๆ จนในที่สุดเกิดเป็นสระน้ำกลางหมู่หินผา เรียกว่าบ่อมรกต
ล่องเรือในแม่น้ำโขงควรใส่ชูชีพ
ส่วนพื้นผิวที่กระทบกับแดดและลมนานเข้าก็สึกกร่อน เห็นเป็นริ้วๆ และบางจุดก็เห็นการสึกกร่อนจนคล้ายกับการเกิดการแคร๊ก การเกิดและเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มิได้มีมนุษย์บันดาลแต่อย่างใด มันเป็นไปตามธรรมชาติของน้ำและลมผสมด้วยแดดและความหนาวเย็นระหว่างกลางวันและกลางคืน รูปร่างหรือรูปทรงของแต่ละโบกแตกต่าง แม้แต่หินผาที่ถูกกัดกร่อนกลืนกินไปกับกาลเวลาก็แตกต่าง
ผมยืนอยู่กลางสามพันโบกด้วยการเกร็งกำลังขาให้มั่นคง ด้วยว่ากระแสลมที่พดผ่านั้นแรงเอาเรื่อง ดีว่าน้ำหนัก 78 กก. จึงไม่ปลิวไปตามลม
สื่อจากส่วนกลางเพียบ
ระหว่างการล่องเรือทวนน้ำไปตามแม่น้ำโขงนั้น ผมได้เห็นการทำมาหากินของเหล่าพี่น้องแตกต่างกันมาก เช่นได้เห็นวิถีชีวิตการเป็นเกษตรกรของแต่ละหมู่บ้าน ปลูกถั่ว ปลูกมะเขือเทศริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่เห็นหนาตากว่าคือ การช้อนปลา หรือการลงข่ายดักปลา หรือการธงเบ็ด(ปักเบ็ด) ผิดกันก็แต่ ในภาคกลางปักเบ็ดด้วยเรียวใผ่เล็กๆ แต่ที่นี่ ธงเบ็ดกันด้วยต้นไม้ไผ่ลำโตๆ
ทั้งสองฝั่งประเทศ(ลาว-ไทย)มีวิถีชีวิตเดียวกัน ในท้องน้ำผมได้เห็นรือยาวๆลำไม่โตนัก น่าจะเพื่อให้แล่นได้ไม่ต้านน้ำตอนวิ่งไปมา
สระมรกตที่สามพันโบก
บางจุดที่เรือผ่าน เป็นหาดทรายกระจายไปทั่วทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาว ทรายเม็ดละเอียด ขาวละออ ณ จุดนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมื่อถึงเทศกาลวันสงกรานต์ เรือแล่นต่อไปจนถึงจุดที่แคบที่สุดของแม่น้ำโขง แล้วก็วกกลับไปขึ้นฝั่งที่หาดสองสลึง ซึ่งทรายกำลังก่อตัวตามธรรมชาติของทุกปี ณ จุดนี้ก็กลายเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านลงเล่นสงกรานต์กัน เหนือหาดทรายแห่งนี้มีรีสอร์ทให้พักแรมได้เช่น ปลายฟ้ารีสอร์ท บริการทั้งบ้านพักเป้นหลังและเป็นห้องแถว โล่งโปร่งสบายๆ ราคามิตรภาพ โทร.0819672149 อยากไปพักผ่อนก็เชิญโทรได้เลย
แฮปปี้..เหลือจะกล่าว
ดุสิตาหนาตากว่า
หลากหลายพันธุ์ผสม
หินผาที่แซมแทรกประปรายในดอกบุปผา
ปอผีสีเหลืองกระจายไปทั่ว
ดอกขี้อ้อนแดงแซมผสม
น่ารักอีหลีเด้
ซน..แต่ก็น่ารักนะ
น้ำตกสร้อยสวรรค์
โขดเขินชายสามพันโบก
ตะวันดวงโตโผล่พ้นแมกไม้