หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
กรุงเทพมหานคร
โทร. 081-9130027
21 พฤศจิกายน 2554
เรื่อง ขอเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยว
กราบเรียน ฯพณฯ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะ
ประธานกรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยว (นายชุมพล ศิลปอาชา)
ด้วยกระผมมีภารกิจต่างจังหวัดไม่สามารถเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยว ครั้งที่ 1/2554 ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2554 ได้ จึงขอกราบเรียนอนุญาต ฯพณฯ ให้ข้อคิดเห็นไว้เป็นเบื้องต้นบางส่วนไว้ก่อนดังต่อไปนี้
- 1. มาตรการสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นการท่องเที่ยว ณ ที่นี้ขอเสนอควบคู่ไปกับ
มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการท่องเที่ยวส่วนหนึ่งดังนี้
กระผมเห็นว่าเหตุการณ์อุทกภัยครั้งนี้ได้มีผลกระทบไม่เฉพาะด้านการท่องเที่ยว แต่
กระทบทั้งในด้านเศรษฐกิจ และสังคม เป็นภาพรวมใหญ่ทั้งประเทศ ฉะนั้น การสร้างความเชื่อมั่นในภาพลักษณ์ของประเทศเพื่อการท่องเที่ยวและการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการที่จะรักษาสมดุลทางสังคม จำเป็นต้องใช้ “อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว” เป็นตัวนำเพื่อแก้ไขภาพรวมทั้งหมดในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเยียวยาที่ยั่งยืนคือกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดรายได้หมุนเวียนครอบคลุมในทุกอุตสาหกรรม รวมทั้งลดผลกระทบทางสังคมไปด้วย โครงการหนึ่งที่ควรจะนำมาพิจารณาคือการนำงบประมาณรัฐ สมทบกับเงินบริจาค (ถ้ามี) นำผู้อพยพที่กำลังรอกลับคืนสู่บ้านอยู่อาศัยหลังน้ำลดที่อยู่ภายในศูนย์กีฬาราชมังคลา ฯ เป็นกลุ่มนำร่องไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดต่าง ๆ โดยทำรายการทัวร์มาตรฐานมีราคากำหนดแน่นอน 999 บาท (2 วัน 1 คืน) 1,999 บาท (3 วัน 2 คืน) และ 2,999 บาท (4 วัน 3 คืน) เป็นต้น ตามรายการทัวร์ที่จะจัดทำขึ้น (รัฐเป็นผู้รับผิดชอบ) โดยคิดเฉพาะค่าธรรมเนียมคนละขั้นต่ำ 500 บาท ไม่เกิน 1,500 บาท (แล้วแต่รายการทัวร์) โดยกำหนดเรื่องที่พักเป็นการพักในโฮมสเตย์ตามมาตรฐานกรมการท่องเที่ยว (แต่กรณีเลือกรายการพักในโรงแรมให้เริ่มระดับโรงแรม 3 ดาว โดยคิดเพิ่มจากผู้อพยพคนละ 250 บาทต่อคืนต่อวัน)
หลักการและเหตุผลของมาตรการนี้ คือ การเยียวยาทั้งผู้ที่ประสบภัยพิบัติและผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทุกสาขาอาชีพที่ยั่งยืนให้เกิด “รายได้” ไม่ใช่เกิดแต่ “เงินกู้”อย่างเดียว และผู้ประสบภัยก็จะได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวเพื่อนำไปสู่การเริ่มต้นชีวิตวิถีใหม่ที่จะมีความหวังและความมั่นใจมากขึ้น เพราะรายการทัวร์ทุกรายการต้องมีรายการชม “โครงการพระราชดำริ ปิดหรือเปิดทองหลังพระ ด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” รวมทั้งการเกษตรตามทฤษฎีใหม่ รวมทั้งการเลือกพักโฮมสเตย์จะได้เรียนรู้วิถีชีวิตและการใช้ชีวิตในการประกอบอาชีพตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตที่เหมาะสมต่อไป
โดยโครงการนี้ “ต้องให้ผู้ประกอบการทัวร์เป็นผู้ดำเนินการ และใช้มัคคุเทศก์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย” เพื่อช่วยให้เกิดธุรกิจและรายได้กับผู้ประกอบอาชีพทุกสาขา ส่วนโรงแรมต้องขอความร่วมมือในด้านราคาพิเศษ แม้กระทั่งระดับ 4 ดาว หากจะเข้าร่วมโครงการในระดับ 3 ดาวก็จะช่วยกระจายรายได้และร่วมกระตุ้นการท่องเที่ยวไปด้วยกัน รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยว การขนส่ง ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกต่าง ๆ เป็นต้น ก็จะเริ่มมีนักท่องเที่ยวไม่หยุดนิ่งเพราะจะหานักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศโดยตรงขณะนี้คงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร จึงต้องเร่งสร้างตลาดนักท่องเที่ยวภายในให้เกิดขึ้นโดยเร็วก่อน ส่วนผู้ประสบภัยก็จะได้รับการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่เครียดและกระทบต่อสุขภาพ โดยได้มีโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อผ่อนคลายทั้งในด้านสถานที่พัก อาหาร เครื่องดื่ม และการได้รับความรู้ และนันทนาการต่าง ๆ รวมทั้งอาจจะสนใจที่จะพักโฮมสเตย์ต่อเป็นการส่วนตัวตามอัธยาศัยก็ได้ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะเห็นได้ว่าจะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจตั้งแต่ระดับชุมชนในท้องถิ่นต่าง ๆ และดูแลสังคมไปในตัวได้เป็นอย่างดีในทุก ๆ ด้าน ทั้งนี้เพราะผู้สบภัยน้ำท่วมไม่ใช่กลุ่มคนรายได้ต่ำเท่านั้น แต่มีผู้ที่มีฐานะ และผู้มีรายได้ปานกลางไปถึงมากก็มี และมีศักยภาพมากมาย เพียงแต่ยังไม่มีโครงการใดที่จะดึงเขาเหล่านี้ให้ได้รับแสงสว่างทางความคิดในสถานการณ์ขณะนี้เพื่อนำไปสู่ความหวังใหม่ และยังลดปริมาณผู้อพยพที่จะเกิดประกายความคิดในการที่จะดำเนินการเพื่อให้สามารถช่วยเหลือตนเองได้ต่อไป รวมทั้งปัญหาทางการดูแลรักษาพยาบาลทั้งทางร่างกายและจิตใจก็จะมีน้อยลงไม่เป็นไปตามที่กำลังมีการคาดการณ์กันอยู่ว่าจะเกิดปัญหาสุขภาพอย่างมากมายตามมา
ส่วนหลังจากกลับจากทัวร์แล้ว ก็ยังได้รับสิทธิพักอยู่ในศูนย์ได้เหมือนเดิม หากไม่ประสงค์จะพักในโฮมสเตย์ที่ได้ไปชมและพักอาศัยต่อ ซึ่งหากโครงการดำเนินไปได้ด้วยดี ก็จะนำไปสู่ผู้อพยพในศูนย์อื่น ๆ ต่อไป รวมทั้งผู้ประสบภัยที่ยังตกค้างในบ้านพักอาศัยที่ไม่ยอมอพยพและยังคงอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมหรือน้ำขังอยู่แม้ในขณะนี้ สิ่งสำคัญคือโครงการนี้จะช่วยให้คนไทยเกิดความจงรักภักดีต่อการท่องเที่ยวในประเทศในระยะยาวอย่างยั่งยืนอีกด้วย
- 2. มาตรการเยียวยาในส่วนของมัคคุเทศก์
เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเมื่อเกิดวิกฤตใด ๆ ก็ตาม การช่วยเหลือเยียวยามักจะเป็น
การพิจารณาให้เฉพาะกับผู้ประกอบการต่าง ๆ ให้ได้รับความช่วยเหลือในด้านเงินกู้เพราะมีสถานะเป็นนิติบุคคลหรือผู้ประกอบอาชีพที่มีลักษณะถาวรหรือมีหลักแหล่งแน่นอน แต่มัคคุเทศก์ที่ประกอบอาชีพอิสระจะไม่ได้รับโอกาสที่จะได้รับความช่วยเหลือในการให้เงินกู้ดังกล่าว ทำให้ไม่สามารถหารายได้หรือเงินทุนมาบรรเทาความเดือดร้อนยามวิกฤตได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยขณะนี้ได้มีการจัดตั้ง “สหกรณ์ออมทรัพย์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย” แล้ว ดังนั้น จึงถือได้ว่าเป็นสถานประกอบการที่เป็นผู้แทนผู้ประกอบอาชีพมัคคุเทศก์ในการเข้ารับการช่วยเหลือในลักษณะดังกล่าวได้ จึงขอเสนอให้สถาบันการเงินหรือกองทุนส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐที่มี ที่จะเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือกับภาครัฐได้พิจารณาให้เงินกู้กับสหกรณ์ออมทรัพย์มัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย จำนวน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำตามที่ตกลง โดยไม่มีเงื่อนไขในการพิจารณาหลักทรัพย์หรือหลักประกัน (Clean Loan) และปลอดการชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยในระยะเวลา 3 ปี
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และขอกราบขอบพระคุณ ฯพณฯ เป็นอย่างยิ่ง
ขอแสดงความนับถืออย่างสูง
(นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์)
กรรมการในคณะกรรมการติดตามเร่งรัดพัฒนาการท่องเที่ยว
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา