http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,002,572
Page Views16,311,398
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ท่องแดนแผ่นดินธรรมตอน 64.ลงแขกเกี่ยวข้าวที่วัดบ้านเชิงผา อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย หนึ่งเดียวในประเทสไทย โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ท่องแดนแผ่นดินธรรมตอน 64.ลงแขกเกี่ยวข้าวที่วัดบ้านเชิงผา อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย หนึ่งเดียวในประเทสไทย โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ท่องแดนแผ่นดินธรรมตอน64.

ลงแขกเกี่ยวข้าวที่วัดบ้านเชิงผา อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย

หนึ่งเดียวในประเทศไทย

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ภาพที่เห็นเมื่อแรกลงจากรถยนต์คืนนั้น

                 วัดบ้านเชิงผามีเจ้าอาวาสชื่อ พระครูปภัทศฉันทานุกุล ตั้งอยู่ในหมู่บ้านเชิงผา ต.กลางดง อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย ซึ่งมีพื้นที่ค่อนข้างคับแคบ แต่พระสงฆ์ก็แอยู่ปฏิบัติธรรมกันได้ตามปกติ เฉกเช่นวัดบ้านป่าเมืองดอยทั่วไป มีการเปิดโรงเรียนพระปริยัติธรรมอยู่ภายในวัดด้วย ต่อมาวัดได้ซื้อหาที่ดินเพิ่มเติมเพื่อตั้งเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมภาคสนาม วัดเดิมอยู่ด้านหน้าดอยแม่ถัน ที่ดินเพื่อศูนย์ปฏิบัติธรรมอยู่ด้านหลังดอยแม่ถัน บรรยากาศเยี่ยมยอดด้วยว่ามีภูเขาโอบล้อมไว้ทุกด้าน แถมด้วยมีแม่น้ำสายสำคัญของอำเภอทุ่งเสลี่ยมไหลผ่าน 

กำลังนั่งสมาธิยามค่ำ

                 พระปลัดปราโมช อธิปัญโญ เดิมนามสกุลแจะรัมย์  อายุ 36 ปี บวชเรียนมา 13 พรรษา วุฒิการศึกษา นักธรรมเอก และปริญญาโท(MA.) เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ ปัจจุบันนี้จำพรรษาอยู่วัดบ้านเชิงผา ตำบลกลางดง อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย ท่านเป็นพระธรรมฑูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ 3 ปฏิบัติหน้าที่ ผู้จัดการโรงเรียนปริยัติธรรม แผนกสามัญ มัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1-3 โดยมีอาคารเรียนตั้งอยู่ในวัดบ้านเชิงผา ส่วนสำนักปฏิบัติธรรมภาคสนามอยูในหุบเขาหลังดอยแม่ถัน เนื้อที่ 70 ไร่ บรรยากาศเยี่ยมสุดๆ

 

กุฏกลางดงไผ่

                พระปลัดปราโมชได้รับอนุญาติให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมภาคสนาม มีสิ่งก่อสร้างตามพุทธคติทั่วไป เช่นกุฎิสำหรับพระและเณร  ศาลาปฏิบัติตามกิจของสงฆ์ อาคารให้ผู้ปฏิบัติธรรมเข้าพักแรม โรงทานอาหารสำหรับพระเณรและผู้ปฏิบัติธรรม ลานธรรมกลางแจ้ง  สุขาและสิ่งอำนวยความสะดวก มีทั้งอาคารถาวรสวยงามและมีทั้งอาคารกึ่งถาวร แต่ดูเรียบง่าย ปลอดโปร่งโล่งสบาย หลังคามุงด้วยกระเบื้องและหญ้าคาตามสมควรแก่เหตุและผล บรรยากาศโดยรวมคล้ายๆรีสอร์ทธรรมชาติทีเดียว

พุทธรูปกลางดงไผ่

                พันธะกิจของสงฆ์ตามพุทธบัญญัติ ปฏิบัติได้อย่างครบถ้วน ภาคเช้า พระเณรและผู้ปฏิบัติธรรมจะตื่นก่อน 05.00 น.เพื่อเตรียมชำระล้างร่างกายให้สะอาดแล้วห่มคลุมด้วยความสำรวม แม่ขาวก็ห่มขาว มาปฏิบัติธรรมตามพุทธคติที่โรงธรรมโล่งๆ มีการสวดมนต์เช้า และนั่งวิปัสนากัมมัฏฐาน ปัดกวาดจิตใจให้สะอาด สงบ และงดงาม ส่วนตอนเย็นก็มีการทำวัตรเย็นและปฏิบัติธรรมเช่นกัน จนเวลาลุล่วงดวงตะวันลับขอบฟ้า เวลาวิกาลมาเยี่ยมเยือนเพิ่มความวิเวกให้กับผู้มีจิตใจสงบเงียบ ไม่มีเสียงระเม็งละครตบตีแย่ง..กันให้รกโสตประสาท 

กุฏิที่นอนคืนนั้น

                 ต่อมาพระปลัดปราโมชเกิดแนวคิดในการปลูกผักสวนครัว และทำนาหาข้าวไว้เลี้ยงพระ เณรและผู้ปฏิบัติธรรม     โดยเริ่มต้นเมื่อ    ปีพ.ศ.2546 ถึงวันนี้ก็ 9 ปี

                 เริ่มแรกก็ปลูกผักเพื่อใช้ประกอบอาหาร เลี้ยงทั้งพระ เณร ผู้ปฏิบัติธรรม และผู้ช่วยงานวัด ต่อมาก็ปลูกข้าวหลังจากเก็บเกี่ยวผักสวนครัวหมดแล้ว 

     

กุฏิที่พักสงฆ์และเณร        

                 ในการปลูกผักและปลูกข้าว ใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์เช่นขี้วัว ขี้ควาย ขี้ค้างคาว ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและยากำจัดแมลงและโรคราที่เป็นสารเคมี ส่วนตอซังข้าว ใบพืชผักที่เน่าเปื่อยกลายเป็นปุ๋ยพืชสดทดแทนให้กับพื้นดินตามธรรมชาติ

                 พื้นที่ที่ปลูก 10 ไร่ ปัจจุบันนี้เหลือราวๆ 6 ไร่ ที่ดินบางส่วนถูกดัดแปลงใช้เป็นแปลงปลูกพืชอายุยืนที่ให้ผลิตผลระยะยาว และจำเป็นต้องใช้พื้นที่ถาวร เช่นไผ่หน่อหวานชื่อ ไผ่กิมชุง มะขามหวาน มะม่วง มะตาด(อีกไม่นานจะมีผลให้แกงส้มกินได้)ฯลฯ

ลานพุทธสถานหน้าประตูทางเข้าสำนักปฏิบัติธรรม

                  ต้นไม้ประดับตามความเหมาะสมเช่นเป็นไม้ให้ร่มเงาและเก็บความร่มรื่นให้กับพื้นที่ที่ควร ถ้าจะปลูกต้นไม้เพื่อการใช้สอยเช่นต้นสัก ต้นยูคาลิปตัส ต้นมะค่าโมง ต้นประดู่ ต้นกระถินณรงค์ ฯลฯ เอาเนื้อไม้ไว้ซ่อมสร้างเอนกประสงค์ก็คงจะไม่เสียหายใดๆ

เรือนนอนโยมอุปัฐฏาก

                  น้ำที่ใช้ปลูกผักและทำนาอุดมสมบูรณ์ แต่บางปีก็อุดมสมบูรณ์เกินจนเกิดน้ำท่วมถึง 3 ครั้งก็ยังเคย มีการขุดร่องปล่องเดินน้ำให้อย่างถาวร กรณีที่เกิดน้ำท่วมอาจจะต้องแก้ไขเพื่อเบี่ยงเบนทางน้ำหรือทำแก้มลิงเก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งไปในคราวเดียวกัน

เณรน้อยคอยอ่านเขียน

                  เมื่อเดือนสิงหาคม 2554 คุณไตรเทพ ไกรงู นักข่าวหน้าพระของ นสพ.คมชัดลึกเชิญชวนให้ร่วมเดินทางมาชมการดำนาของพระและเณร เดือนวันแม่ แต่ด้วยภาระกิจยุ่งเหยิง จึงเสียโอกาสไป คราวนี้ ได้รับการเชิญชวนให้มาชมการเกี่ยวข้าวเดือนวันพ่อ ธันวาคม  ก็เลยมากับเขาด้วย โชคดีจริงๆ 

หลังดอยแม่ถัน มีนาสามัคคี

                  นั่งรถยนต์จากกรุงเทพ-วัดบ้านเชิงผา อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย กว่าจะถึงก็ค่ำมืดลงไปแล้ว จึงเห็นแต่เงาดำทะมึนไปทั่ว ไม่เห็น ไม่รู้ ว่ารถยนต์พาไปทางไหน เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ไม่รู้เหนือรู้ใต้จริงๆ จนเมื่อรถยนต์จอดสนิทที่หน้าศาลาหลังคามุงจากหลังหนึ่ง จึงลงไป ด้วยอาการระวังระแวงว่าจะเกิดเสียงดังไปรบกวนผู้ปฏิบัติธรรมที่กำลังนั่งสมาธิกันอยู่เงียบๆ พระสงฆ์องค์หนึ่งอำนวยการอยู่

                  หัวหน้าคณะพาไปกราบพระปลัดปราโมชที่เต็นท์นอนกลางป่าไผ่ ได้ความว่า พระปลัดสละกุฏิเพื่อให้พวกเรานอนสบาย ส่วนท่านปลีกวิเวกมายังดงไผ่ใกล้เขตธรณีสงฆ์ นั่งฟังการสรุปความจากพระปลัดแล้วก็นัดหมายว่าวันรุ่งพรุ่งนี้จะเริ่มต้นเกี่ยวข้าวกันตอนไหน

หลากสีสัน

                  เช้าตรู่ ตื่นนอนแล้วก็ไปตลาดสดอำเภอทุ่งเสลี่ยม หาอาหารการกินจัดการเสียก่อนเพื่อจะได้ไม่ต้องหิ้วท้องรอ สามารถทำงานได้เลย กลับจากตลาดก็เดินถ่ายรูปพุทธสถานไว้ในไฟล์กล้อง แล้วก็เดินไปสมทบกับชาวบ้าน พระ เณร แม่ขาว(แม่ชี) นักเรียนชายหญิง และคนแก่คนเฒ่าที่เดินมาร่วมวงการ "ลงแขกเกี่ยวข้าวเดือนพ่อ"

พระปลัดปราโมช อธิปัญโญ เป็นโฆษกด้วยตนเอง

                 กลางนาข้าวที่กำลังออกรวงเหลืองอร่ามงามตา กลางหุบเขานั้นคราคร่ำไปด้วย "คนเกี่ยวข้าว" ทันใดรถยนต์คันหนึ่งจอดลง นายอำเภอหนุ่มชื่อ นคร คงนวล เดินลงมาพร้อมคณะ ท่านทำหน้าที่กล่าวขอบคุณพี่น้องที่มาร่วมกันลงแขกครั้งนี้ แล้วท่านเอง    ก็ลงไปในทุ่งนา ชุดชาวนาวันนี้จึงดูแปลกตา ด้วยว่ามีทั้งชาวบ้านหญิงชายในชุดชาวนา ข้าราชการและผู้เฒ่าผู้แก่ลงไปช่วยเกี่ยวข้าว ในชุดหลากสี

ท่านนายอำเภอกับท่านพระปลัด

                 พระและเณรห่มเหลืองละออตาก็ลงไปเกี่ยวข้าวเช่นกัน บางองค์เก็บยกมัดข้าวไปกองไว้เป็นจุดๆ  สลับไปกับชาวบ้านและนักเรียนระดับประถมน้อยๆ มองภาพรวมแล้วจะเห็นว่าในหุบเขาหลังดอยแม่ถันช่างมีภาพที่งดงามเหลือให้เห็น

หุบเขาแสนงาม

                 งดงามด้วยเชิงชั้นบรรยากาศของนาข้าวเหลืองละออตากลางหุบเขา  งดงามด้วยบรรยากาศของการแสดงความจงรักภักดีที่มาเกี่ยวข้าวเดือนพ่อถวายเป็นราชสักการะ แด่องค์ราชันย์ 5 ธค.54 ที่จะถึง

ท่านเจ้าอาวาส พระคณุปภัทศฉันทานุกุล นำเกี่ยว

                 งดงามด้วยชุดพระเณรห่มเหลืองสลับกับนักเรียนน้อยๆหลากสีสัน แทรกซ้อนด้วยพี่ป้าน้าอาชุดชาวนาถือเคียวเกี่ยวข้าว ก้มๆเงยๆ กันไปตามกิจวัตร และงดงามสุดๆด้วยรอยยิ้มปะปนกับเสียงหัวเราะระรื่นของแม่ขาว ชาวนาและเยาวชนที่ล้อเล่นกันตามประสา

เณรน้อยค่อยๆเกี่ยว สึกไปก็เกี่ยวข้าวเป็น

                 เสียงท่านนายอำเภอและพระปลัดพลัดกันปราศรัยให้กับพี่น้องผองชาวทุ่งเสลี่ยมได้รับรู้และได้รับการกล่าวคำขอบคุณ ที่วันนี้เหล่าท่านบรรดามีทั้งหลายได้ช่วยกันทำให้ อำเภอทุ่งเสลี่ยมโด่งดังอย่างขจรขจาย

          

เกี่ยวจนเกลี้ยง

                 เสียงโมทนาสาธุให้ได้ส่วนกุศลผลบุญที่มาลงแขกเกี่ยวข้าวให้กับวัด เพื่อช่วยให้เกิดการแบ่งเบาภาระปวงประชาพุทธศาสนิกชนลงไปได้ด้วยกำลังของพระเณรและตัวช่วย

                  ผมเคยถามพี่ชายคนหนึ่งว่า "ทำนาปีนี้รวยไหม?" ได้รับคำตอบแบบคนเจ้าสำบัดสำนวนว่า "ถ้าหนูไม่มาพระไม่ขอ ก็รวย" อันหมายถึงว่า ถ้าหนูลงนาก็ได้แต่ต้นหญ้า หาเมล็ดข้าวยาก หนูกินหมด

แม่ขาวลูกชาวนา ทะมัดทะแมงไม่น้อย

                  ส่วนคำว่า พระไม่ขอ ก็หมายความตามท้องเรื่องเคืองใจว่า พระขอบิณฑบาตรไปทุกอย่างจนไม่มีเวลาไปทำนา ก็เห็นทีจะจน เอากับพ่อซี แต่คงไม่ใช่วัดบ้านเชิงผา แห่งอำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย เจ้าตำรับ พระเณรแบ่งเบาภาระปวงประชาด้วยการทำกินกันเอง

คุณครูกับนักเรียนก็มาเกี่ยว

                   ผมเคยชมภาพยนต์ ทั้งโรงใหญ่ และ ทีวี ได้เห็นพระจีน พระญี่ปุ่น ปลูกผัก ปลูกข้าว เก็บเอาไว้ทำกินกันในวัด แต่คติพุทธแบบไทยอันเป็นวิสัยที่พระสงฆ์จักออกโปรดสัตว์ด้วยการบิณฑบาตรทุกเช้า เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้ทำบุญตักบาตร อุทิศส่วนอาหารให้พระสงฆ์และอุทิศผลบุญให้กับญาติโยมผีเปรตที่ไร้ญาติได้รับอานิสงฆ์

                  สติทำให้รู้จักยั้งคิด ปัญญาทำให้รู้จักวิวัฒนาการ คำสอนมิได้หมายความว่าต้องปฏิบัติตามอย่างนักโทษ หากแต่สอนให้เกิดนิมิตคิดดีแล้วหาทางปฏิบัติดีปฏิบัติงาม ไม่เบียดเบียนใคร ไม่ใจร้ายหมายขวัญ สละในสิ่งที่ควรสละ ละเลิกในสิ่งที่ควรลดละ สาธุ สาธุ

ท่านพระครูปภัทสฉันทานุกุล นายอำเภอและพระปลัด ฟาด

                  ตะวันโด่งฟ้า อากาศเริ่มเปลี่ยน แสงแดดเริ่มร้อนแรง แต่เดือนธันวาคม แดดแรงเพียงใดในหุบเขาหลังดอยแม่ถันก็ยังอุ่นๆ ท่านเจ้าอาวาส ท่านนายอำเภอ พระปลัดปราโมช เณรน้อย เยาวชนวัยกำลังงาม ช่วยกันตีข้าวแทนการนวดข้าว เมล็ดข้าวเปลือกกระเด็นกระดอนไปจากไม้รองฟาด ผ้ามุ้งบางๆรองรับไว้อีกชั้น ตากข้าวแดดเดียวก็เก็บไปใส่ยุ้งฉาง รอการตำด้วยครกกระเดื่อตามงแบบอย่างภูมิปัญญาพื้นบ้านไทยๆ

รวมพลังเณรกับนักเรียน

                  หลังเกี่ยวข้าวเดือนพ่อ ที่นาจะว่างเปล่า เมล็ดข้าวตกจะแตกหน่อแตกกอใหม่ หากใส่น้ำเข้าไปแล้วหว่านเพิ่มอีกหน่อย จะได้ข้าวนาปรังหลังข้าวนาปี หรือจะเปิดหน้าดินปลูกผักในยามหนาว หนอนแมลงรบกวนน้อยจะช่วยให้ผลผลิตสูงขึ้น ไม่ต้องใช้ยากำจัดแมลงและโรคราเลย แต่จะทำให้ที่ดินว่างเปล่าเกิดประโยชน์ทั้งปีก็คงขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ผู้จัดการสำนักปฏิบัติธรรมวัดบ้านเชิงผา

ตากข้าวเพียงแดดเดียว

                  พระปลัดปราโมช อธิปัญโญ ผู้ทรงภูมิความรู้และวัตรปฏิบัติแตกฉาน  

สาธิตการตำข้าวด้วยครกกระเดือ่ง

เกี่ยวเถอะนะพ่อเกี่ยว อย่ามัวชะแง้แลเหลียว เดี๋ยวเคียวจะเกี่ยวก้อยเอย

ความงดงามหนึ่งในนาธรรม

คุณไตรเทพ ไกรงู ถกกับพระปลัด

พระปลัดปราโมช อธิปัญโญ เล่าความ

 

 

               

 

          

                 

 

                              

Tags : ท่องแดนแผ่นดินธรรมตอน63.วัดทุ่งศรีเมือง

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view