โครงการพรรคเพื่อแผ่นดินสัญจรครั้งที่ 3 (ภาคกลาง)
ระหว่าง วันที่19-21 ธันวาคม.2554
พรรคเพื่อแผ่นดินได้จัดโครงการเพื่อแผ่นดินสัญจร ครั้งที่ 3 (ภาคกลาง) ระหว่างวันที่ 19 -21 ธันวาคม พ.ศ.2554 โดยได้งบประมาณจากกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง ครั้งนี้ เป็นการจัดขึ้นที่ภาคกลาง ณ โรงแรมบางกอกรีสอร์ท กรุงเทพมหานคร มีผู้เข้ารับการฝึกอบรม 300 คน ซึ่งเป็นเยาวชนที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี รวมทั้งครูอาจารย์และเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย
พรรคเพื่อแผ่นดินสัญจร ครั้งที่ 3 (ภาคกลาง)
ในการฝึกอบรมโครงการเพื่อแผ่นดินสัญจร ครั้งที่ 3 (ภาคกลาง) ได้เรียนเชิญวิทยากรมาให้ความรู้เรื่อง การเลือกตั้งโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม จากคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสิงห์บุรี นายช่วงชัย เปาอินทร์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งได้เน้นย้ำถึงบทบาทและหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่ต้องเที่ยงธรรม แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นผู้เลือกตั้งก็ต้องกล้าหาญพอที่จะลุกขึ้นแจ้งเบาะแสการซื้อสิทธิ์ขายเสียง โดยไม่เกรงกลัวต่อความไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ดี ส่วนใหญ่เมื่อร้องเรียนแล้ว กลับไม่กล้ามาเป็นโจทย์ต่อหน้าผู้ถูกกล่าวหา
การร่วมมือเพื่อปกป้องความบริสุทธิ์ยุติธรรมจึงล้มเหลวไปในที่สุด
"จะเอาเงินไปเที่ยว หรือจะเอาลูกตะกั่ว ผู้ร้องเรียนส่วนใหญ่จึงร้องเพื่อรับเงินไปเที่ยว แล้วละทิ้งสิ่งที่ถูกต้อง คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงไม่สามารถเอาผิดผู้ถูกร้องเรียนได้" นายช่วงชัยกล่าว
"ประเด็นสายลับของ กกต.ก็เช่นกัน ตั้งไปแล้วแต่ก็เกรงกลัวผู้สมัครรับเลือกตั้งกันไปหมด บางคนก็ลาออกจากคณะกรรมการที่แต่งตั้งไป หากกรณีเช่นนี้จะกล่าวโทษคณะกรรมการการเลือกตั้งก็คงไม่ได้" นายช่วงชัยสรุป
นายช่วงชัย เปาอินทร์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสิงห์บุรี เป็นวิทยากร
หลังจากนั้นมีวิทยากรจากหลากหลายสาขามาให้ความรู้ ความเข้าใจ และเพิ่มพลังใจให้กับผู้เข้ารับการฝึกอบรม เช่นวิทยากรจากสำนักงานการเลือกตั้ง มูลนิธิเกษตรกรรมธรรมชาติภูมิแผ่นดิน ฯลฯ
ในการฝึกอบรม 3 วันนี้ มีงบประมาณสนับสนุนให้พรรคการเมืองครบถ้วน ทั้งเรื่องการจัดหาที่ฝึกอบรม อาหารการกิน และเบรคกาแฟและเครื่องดื่ม แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น หากผู้เข้ารับการฝึกอบรมมิได้นำความรู้ไปใช้อย่างจริงจัง ก็จะทำให้เกิดผลบวกน้อยมาก ซึ่งปัจจัยต่างๆที่ก่อให้เกิดผลกระทบเกิดจากเนื้อในตน สิ่งแวดล้อม และอิทธิพลภายนอก ฯลฯ ไม่รวมพลังก็ไม่เกิดพลัง