มาร่วมฟังมิสซากับพวกคาทอลิก
โดย วันชัย จุลสุคนธ์ เลขาธิการมูลนิธิฟื้นฟูชนบท
วันนี้อยากจะพูดเรื่องที่หลายคนต้องไปร่วมงานทั้งงานศพ งานแต่งของชาวคาทอลิก ที่บ่อยครั้งไปร่วมมิสซาแล้วไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร ประเดี๋ยวก็มีเสียงประกาศจากพิธีกรให้ยืนขึ้น ให้คุกเข่า หรือให้นั่งลง เดี๋ยวก็ให้เปิดหนังสือสวดภาวนา เดี๋ยวก็ร้องเพลง คนที่เพิ่งมาร่วมพิธีเป็นครั้งแรกๆก็งงไปหมด กลัวจะทำไม่ถูกต้อง จะหันไปถามคนนั่งข้างๆก็ไม่กล้า ก้อเลยนั่งไม่เป็นสุขเสียที
ผมเป็นคาทอลิกมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่ปู่ย่าตายายก็เป็นคาทอลิก พอโตขึ้นหน่อยก็เข้าเรียนโรงเรียนคาทอลิกอีก และเมื่อต้องไปเป็นเด็กช่วยมิสซา ผมและเพื่อนๆก็ต้องไปเป็นผู้ช่วยพระสงฆ์เวลาท่านประกอบพิธีมิสซา ซึ่งมีหลายแบบ หลายอย่าง สมัยก่อนก็ต้องโต้ตอบกับพระสงฆ์เป็นภาษาลาตินซะด้วย ผมไม่ได้เรียนหรือพูดภาษาลาตินเป็นหรอกครับ ได้แต่มั่วๆเอา แต่บาทหลวงท่านต้องเรียนภาษาลาตินคนละหลายๆปี จึงอ่านได้คล่อง ผมเองในภายหลังก็ได้ไปศึกษาต่อเพื่อเตรียมตัวเป็นพระสงฆ์เหมือนกันครับ หลังเรียนจบชั้นมัธยม ก็ไปเรียนต่อที่ อ.สามพราน และได้ไปต่อที่รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย รวมทั้งหมดก็เจ็ดปีเต็มๆทีเดียว แต่ก็ไม่ได้บวชเป็นบาทหลวงหรอกครับ ต้องศึกษาต่ออีกสี่ปีถึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาให้บวชได้ เรียกว่าเรียนจนรอบรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับทางธรรม เรียนรู้เกี่ยวกับพระเจ้า
พิธีมิสซาเป็นพิธีกรรมที่ชาวคริสต์ทุกคนที่ได้รับศีลล้างบาปกำเนิดทุกคนต้องไปร่วมเป็นประจำทุกๆสัปดาห์ ปกติก็มีการประกอบพิธีในวันสำคัญๆและนอกจากมิสซาแล้วยังมีพิธีกรรมอื่นๆอีก พิธีมิสซาประกอบโดยบาทหลวงจะเป็นองค์เดียวหรือหลายองค์ก็ได้ครับ แต่มีการอ่านบทความต่างๆจากพระคัมภีร์ มีการเป็นทุกข์ถึงบาป ความผิด บกพร่องต่างๆ ที่คริสตชนจะต้องขอโทษต่อพระเจ้าเสียก่อน และผู้ประกอบพิธีจะเทศน์เตือนจิตใจ แต่ตอนสำคัญเป็นการรื้อฟื้นการเลี้ยงอาหารค่ำครั้งสุดท้ายที่พระเยซูคริสต์ร่วมรับประทานกับบรรดาศิษย์จำนวนสิบสองคน และสั่งไว้ว่า “จงทำเช่นนี้ต่อไป เพื่อระลึกถึงเรา”
หลังจากนั้น พระบาทหลวงที่ประกอบพิธี ก็นำแผ่นขนมปังชิ้นเล็กๆ มาแจกจ่ายให้กับคาทอลิกที่ได้เตรียมตัวเป็นอย่างดีโดยการเป็นทุกข์ถึงบาป ความผิด บกพร่อง และความตั้งใจจริงที่จะไม่ทำบาปและความผิดนั้นๆอีก เมื่อเดินออกไปรับศีลซึ่งคาทอลิกเชื่อกันว่าแผ่นขนมปังเล็กๆนั้นเป็นกายพระคริสต์และน้ำองุ่นที่ประกอบในพิธีมิสซาเป็นพระโลหิตของพระองค์ เราเชื่อว่า การรับศีลมหาสนิทเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้พวกเรากลายเป็นเลือดเนื้อเดียวกันกับพระเยซูคริสต์
ตามปกติเมื่อมีคนอื่นที่นับถือต่างศาสนามาร่วมในพิธีด้วย จะมีการประกาศว่าพิธีต่อจากนี้ จะสงวนไว้สำหรับคาทอลิกที่เตรียมตัวอย่างดีแล้วเท่านั้น ผมเคยเห็นและพบกับตัวเอง มีคนนับถือต่างศาสนาที่มาร่วมในพิธีแต่งงานรายหนึ่ง คิดอย่างไรก็ไม่ทราบ เดินออกไปรับศีลมหาสนิทด้วย บาทหลวงผู้ประกอบพิธีก็ได้แจกแผ่นศีลมหาสนิทให้ พอได้รับแจกมาก็เอามาให้เพื่อนดูเล่น ดังนั้นก็มีชาวคาทอลิกคนหนึ่งไปขอคืนกลับมา สมัยก่อน ชาวคาทอลิกถือว่าเป็นบาปหนักทีเดียว ต้องเชิญพระสงฆ์มาทำพิธีกรรมเช็ดล้างอย่างดี แต่ก็ไม่มีการทำโทษอะไรหรอกครับ เพราะรู้ดีว่าคนที่นับถือต่างศาสนานั้นทำไปเพราะความไม่รู้ ไม่ตั้งใจ ก็ไม่มีความผิดใดๆ หลังพิธีแล้วทุกคนก็ออกจากโบสถ์
บรรดาคริสตชนทั่วโลกต่างก็ไปร่วมพิธีมิสซา ซึ่งประกอบพิธีกรรมเหมือนกันเพียงแต่คนละภาษาเท่านั้น และก็มีพระบัญญัติสั่งให้คาทอลิกทุกคนต้องไปร่วมฟังมิสซาเป็นประจำ เพื่อจะได้สนิทชิดเชื้อกับพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน