http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,001,267
Page Views16,309,989
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ย่ำเท้าขึ้นเขาเฝ้ารอดูภูชี้ฟ้าหน้าหนาว โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ย่ำเท้าขึ้นเขาเฝ้ารอดูภูชี้ฟ้าหน้าหนาว โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ย่ำเท้าขึ้นเขาเฝ้ารอดูภูชี้ฟ้าหน้าหนาว

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

            ผมได้ยินกิตติศัพท์ความสวยงามของภูชี้ฟ้ามานาน ได้เคยเห็นรูปภาพในนิตยสารและทีวีช่องท่องเที่ยวมาหลายครั้งหลายครา ยอมรับว่าภูชี้ฟ้าสวยสมกับคำร่ำลือ และถ้าจะเดินทางไปเยือนสักครั้งน่าจะคุ้มค่าที่เฝ้ารอคอย  ปีนี้โชคดี ได้อาศัยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ส่วนกลาง)นำคณะสื่อมวลชนคนข่าวท่องเที่ยวไปขยายผลการประชาสัมพันธ์เพื่อยืนยันว่า หนาวปีนี้ที่ภูชี้ฟ้ายังมีทะเลหมอกและอากาศที่หนาวเย็นจับใจ นักท่องเที่ยวแห่แหนกันตรึม

             ตามกำหนดการของการท่องเที่ยวกำหนดให้เดินทางจากดอยแม่สลอง อำเภอแม่จัน ไปยังอำเภอเชียงแสน เชียงของ แล้วไต่ระดับเขาขึ้นไปยังภูผาตั้ง เพื่อชมภาพพระอาทิตย์อัสดง ว่ากันว่างดงามมากๆ แต่เกิดอุบัติเหตุบางประการทำให้การเดินทางของผมผิดเส้นทางไป ดังนั้นช่วงเวลาที่พีอาทิคย์กำลังจะตกดิน เพื่อนๆสื่อกลุ่มใหญ่กำลังเล็งกันวาดภาพบนโปรไฟล์ดิจิตอลอยู่นั้น ผมกับเพื่อนที่พลาดจังหวะ และคะเนแล้วว่าไปไม่ทัน ดังนั้นเราจึงปักหลัก ณ เชิงดอยหมู่บ้านร่มโพธิ์ทอง

             ที่นั่นตะวันรอนๆเหมือนกับบนภูผาตั้งอย่างแน่นอน ก็พระอาทิตย์ดวงเดียวกัน เพียงแตกต่างที่สถานที่ ต่ำหรือสูง หลืบเหลี่ยมเขาที่แตกต่าง แต่ในที่สุดเราก็ได้ภาพพระอาทิตย์อัสดงในแสงสีทองอร่ามเรือง บางภาพเราใช้ต้นไม้ใบโกร๋นเป็นโฟร์กราวด์ ความรู้สึกขณะนั้นเกิดความกังขา ถ้าเราไปถึงภูผาตั้งตามกำหนดการ รูปที่ได้จะเป็นเช่นไรหนอ อาจมีริ้วทิวเขาสลับซับซ้อนถี่ยิบ หรืออาจได้แสงสีทองออกแดงอมส้มที่หนากว่าเพราะว่าถ่ายจากมุมสูง

              ค่ำลงจนมองไม่เห็นเส้นลายมือ กลุ่มของเราเดินทางไปสมทบบนรีสอร์ทแห่งหนึ่ง เป็นบังกาโลหลังย่อมขนาดนอนได้ 2 เตียง 2 คน ห้องน้ำมีน้ำอุ่นให้อาบ ทุกอย่างโอเค แม้ไม่หรูเริด อากาศโรยตัวเย็นลงจนเรียกว่าหนาว ผมสวมเสื้อแจ๊กเก็ตทับอีกชั้น แล้วก็ลงไปทำภารกิจรับประทานอาหารค่ำกับคณะ 

              "พรุ่งนี้ ต้องตื่นตีสี่ครึ่ง เตรียมตัวไปสมทบกับคณะ ตีห้าตรง เคลื่อนขบวนไปยังตีนภูชี้ฟ้า นอนเถอะครับ" 

              ได้เวลาตามกำหนดการ รถยนต์พาเราจากรีสอร์ทถึงเชิงภูชี้ฟ้า เมื่อไปถึงท้องฟ้ายังดำมืด เสียงเรียกให้ซื้อไฟฉายเพื่อส่องทางเดินขึ้นภู ระยะทางที่ต้องเดินขึ้น 760 เมตร ทางเดินขรุขระ มีหินไปทั่ว ร่องรอยเหมือนว่าถูกเหยียบย่ำมานานปี ไม่ได้คะเนว่าทางที่เดินขึ้นราดชันเพียงใด แต่สำหรับผม ชายชราอายุ 63 ปี เดินไปช่วงหนึ่งก็ต้องหยุด กว่าจะเดินขึ้นไปถึงเชิงภูชี้ฟ้า ผมหยุดอยู่ 5 ครั้ง ก็พอทน

               นักท่องเที่ยวและสื่อมวลชนปะปรกันไปทั่ว บนทางลาดเทขึ้นไปสู่ยอดภูชี้ฟ้าแคบ มีลวดหนามกั้นริมขอบเขา มองในความมืดสลัวเห็นเพียงเหลี่ยมเขาภูชี้ฟ้าแหลมโด่ง สื่อมวลชนทุกคนปักหลักหาที่ตั้งขากล้อง ผมเป็นตากล้องประเภทขาตั้งดิน หรือวางกับก้อนหิน หรือต้นไม้ใกล้ตัว ต้องเดินเลาะเลียบไปจนได้พบก้อนหินขนาดใหญ่ ผมทิ้งร่างอวบอ้วนทาบทับแล้วใช้กล้องตั้งบนหินนั้น ได้ภาพที่ถ่ายแล้วพอจะเหลือดีอยู่บ้าง 

               ในจำนวนนักท่องเที่ยวนับพันคนที่อยู่บนเทือกเขาภูชี้ฟ้า มีตั้งแต่เด็กๆที่เดินไต่เขาขึ้นมากับพ่อแม่ เยาวชนกำลังแข็งแรงเป็นกลุ่ม มากสุดก็หนุ่มสาวกำลังมีฝัน วัยสูงกว่า 40 ปีมีไม่น้อย มีทั้งนักท่องเที่ยวชาย หญิง กระเทย เก ตุ๊ด และพระสงฆ์ ระหว่างที่เฝ้าระวังการเคลื่อนขึ้นของพระอาทิตย์ช่างดูตั้งอกคั้งใจกันเหลือประมาณ เมฆหมอกริ้วๆเริ่มไล้ขอบเขาและรื้นขึ้นยอดไม้ 

               แสงสีแดงอมส้มเริ่มแผ่ขึ้นเหนือขอบฟ้า รัศมีสีทองหนาขึ้นทีละนิด แล้วพระอาทิตย์ดวงนั้นก็โผล่ขึ้นจากขอบฟ้า อันเป็นขอบฟ้าฝั่งประเทศลาว จุดสุดท้ายปลายดอยภูชี้ฟ้าคือสุดแดนแผ่นดินสยามประเทศ จะงอยแหลมเหมือนพุ่งขึ้นบนฟ้า เขาจึงเรียกว่า ภูชี้ฟ้า ผู้คนที่แห่แหนกันมาชมทะเลหมอกซึ่งอยู่ในประเทศลาว

               ครั้นแสงสว่างจากดวงอาทิตย์กระจ่างไปทั่ว นักท่องเที่ยวก็เริ่มทะยอยกันกลับลงไป เด็กๆชาวม้งแต่งตัวเต็มยศ สีสันสวยสดใส วัยกำลังน่ารักน่าชัง เดินลงจากปลายภูชี้ฟ้า แม่วัยยี่สิบปีเศษๆใบหน้าเครียดๆ แต่เด็กน้อยสองอนงค์ยังคงร่าเริงและไร้เดียงสา ผมสะกิดให้หยุดแล้วขอให้ร้องเพลงให้ฟัง ด้วยหวังว่าจะได้ภาพที่เล่าเรื่องราวได้มากขึ้น

                ผมฟังเพลงของเขาไม่ออกเลย แต่ดนตรีก็คือดนตรี ล้วนมีความไพเราะในท่วงทำนองเสมอ เด็กหญิงเล็กๆสองคนนี้ ทำการแสดงด้วยความบริสุทธิ์ ผมยื่นแบงค์สีแดง 100 บาทให้ เธอไม่ยิ้มแต่มองตานิดหนึ่ง แล้วเราก็ลาจากกันไป ผมยกมือบ๊ายบายเธอก็ยกมือบ๊ายบายตอบ ผมเดินตามเธอลงมาแต่พอหันไปถ่ายรูปมุมที่แตกต่าง เธอก็หายวับไปในดงหญ้าใกล้ๆทาง แม่ของเธอคงดักรออยู่

                กำลังว่าจะกลับ พลันสายตาเหลือบไปเห็นหนุ่มเหน้าสามคน กำลังออกอาการสนุกมากๆ เขาถอดเสื้อออกจนเหลือแต่ชุดหนังกำพร้า เขาทำท่าทางเหมือนว่าไม่หนาวโว๊ย บนยอดดอยเตี้ยๆลูกหนึ่ง เป็นความสนุกสนานตามประสาคนหนุ่ม หลังจากถ่ายรูปรูปสามเกลอแล้วก็ไม่รอรีอีกแล้ว ผมเร่งฝีเท้าลงจากยอดภูชี้ฟ้าอย่างขมีขมัน

                ระหว่างทางที่รถยนต์แล่นผ่าน ผมได้เห็นต้นไม้สองสามชนิดออกดอกแดงสะพรั่ง มองไปตามไหล่เขาดอยผาหม่นก็ได้เห็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าต่างๆ เห็นทุ่งโล่งที่เขาทำไร่เลื่อนลอย และได้เห็นว่าปลูกลิ้นจี่ก็พอมีอยู่บ้าง ส่วนใหญ่เห็นปลูกบ้านเป็นบังกาโลให้พักแรมเสียส่วนใหญ่ ส่วนจะมีจำนวนมากน้อยเพียงใดก็ไม่มีฐานข้อมูลเลย

                รู้แต่เพียงว่า แผ่นดินสูงเสียดฟ้าแห่งนี้เป็นเทือกเขาดอยผาหม่น อยู่ใกล้ชายแดนประเทศลาว เดิมเคยเป็นป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่น้ำอิงฝั่งขวาและป่าแม่งาว ประกาศเป็น "วนอุทยานภูชี้ฟ้า" พื้นที่ 2,500 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเทิงและอำเภอเวียงแก่น ยอดเขาสูงสุด 1,628 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เดิมเป็นป่าดงดิบเขา ป่าดงดิบแล้ง นกหลายสิบชนิดบินผ่านไปมาอยู่หลัดๆ ต้นไม้ดอกสีขาวพราวไปทั้งต้นเรียกว่าเสี้ยวดอกขาว จะเป็นดอกไม้ป่าอีกชนิดหนึ่งที่นิยมขึ้นมาถ่ายรูปกันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ทุกปี 

                ผมได้ไปท่องเที่ยวภูชี้ฟ้าสมปรารถนา ได้เห็นความคลั่งไคล้ไหลลงในภูมิประเทศและภูมิอากาศ ได้รู้ว่าแม้ไกลนับพันกิโลเมตร ถ้าหากมีเวลาและเงินพอเพียงก็คงจะยังไปอยู่ด้วย ไปให้ได้รู้ได้เห็น ไปให้ได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นจัดๆ 

                ระยะเวลาที่นิยมไปท่องเที่ยวภูชี้ฟ้า จะอยู่ในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น แม้ว่าในฤดูอื่นๆจะเย็นน้อยลง แต่ก็ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวขึ้นมา สนนราคาที่พักแรมจึงค่อนข้างแพง เพราะว่าทำมาหากินได้เพียงปละครั้งสองครั้งก็เกินพอดี  

 

               

 

           

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view