http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,007,158
Page Views16,316,195
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

อุ้มผาง6.เปิดถ้ำเสือเผ่น ในมรดกโลก โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

อุ้มผาง6.เปิดถ้ำเสือเผ่น ในมรดกโลก โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

อุ้มผาง

6.เปิดถ้ำเสือเผ่น ในมรดกโลก

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

             กว่าจะได้ไปเที่ยวอุ้มผาง จังหวัดตาก แก่เลย แต่ก็โชคดีที่สุดที่ได้ไปเสียหลายแห่งแหล่งท่องเที่ยวของอุ้มผาง เมืองลึกลับและไปยากเย็นแสนเข็ญ แต่เมื่อได้ไปครั้งเดียวก็ได้เรื่องราวและภาพมาเล่าสู่กันผ่านหน้าเว็บไซต์ทองไทยแลนด์ จุใจ  ที่เยี่ยมสุดๆก็คือได้รับข้อมูลตรงจากแหล่ง เช่นตอนนี้ ได้หัวหน้าสมปอง ทองสีเข้ม นักอนุรักษ์ป่าไม้ผู้คร่ำหวอดพาไปเปิดถ้ำเสือเผ่นซึ่งยังไม่เคยเปิดเผยมาก่อนเลย

             หัวหน้าสมปองเล่าว่า เหตุที่เรียกว่าถ้ำเสือผ่นก็เพราะว่า ทันทีที่เข้าไปถึงปากถ้ำ เสือโคร่งก็เผ่นพรวดออกมาทันใด เลยเรียกกันว่าถ้ำเสือเผ่นมันซะเลย จะได้สมกับเหตุการณ์ระทึกขวัญในวันนั้น โอ้.เป็นผมก็ได้วิ่งกันป่าราบเชียว

             หลังจากฟังบรรยายสรุปในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ได้ชมสัตว์ป่าน่ารักอย่างเก้ง และได้ไปช่วยเยาวชนโปรยเกลือให้กับโป่งที่สัตว์ป่าชอบลง เรื่องนี้อยากให้ทุกคนได้ข่าวสารจะได้อยากร่วมกิจกรรมดีๆ

              ส่วนเรื่องถ้ำเสือเผ่น จะเปิดเผยเฉพาะกลุ่มสื่อมวลชน กลุ่มนี้กลุ่มแรก และได้พาไปอวดความงดงามอลังการหลายๆแง่มุมของถ้ำเสือเผ่น หัวหน้าพาพวกเราแยกตัวจากกลุ่มเยาวชนและคนอื่นๆอีกไม่น้อย ปลีกตัวไปเพียงกลุ่มสื่อ แล้วก็ตะลุยไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก จุดไหนก็จำไม่ได้แล้ว ฮา งงไปหมด

 

ป่าไผ่แคนระหว่างทางเข้าถ้ำ           

             รถยนต์เทียบท่ากลางป่า มีร่มไม้ใหญ่ที่เหลืออยู่บ้าง ป่าไม้ไผ่ชนิดหนึ่งลำตรงเปลา ขนาดเล็กๆ เรียกกันว่า "ไผ่แคน" ก็ไม่ทราบว่าไผ่ชนิดนี้ใช้ทำแคน เครื่องดนตรีของชาวม้งและชาวอีสานบ้านเฮาหรือไม่ แต่ก็น่าสนใจมาก  มีทางเดินลุยเข้าไปได้ไม่ยาก พอถึงปากทางเข้าถ้ำ โอย คนอ้วนห้ามเข้า เพราะว่าต้อง"มุด"เข้าไปใต้เพิงหินเตี้ยๆ หรือคลานเข้าไป เป็นการเปิดบริสุทธิ์ถ้ำอย่างแท้จริง เพราะว่าตั้งแต่พบแล้วกระโดดหนีเสือก็เพิ่งจะมาครั้งนี้แหละมั้ง โดยต้องใช้ไฟฉายติดหน้าผากและไฟฉายส่วนตัว เดินกันไปก็ต้องตะโกนบอกต่อๆกันว่าระวังหัวจะชนเหลี่ยมหิน หนทางเลียบบ้างดอนบ้าง ก้าวข้ามหินบ้าง ได้อรรถรสของการมุดถ้ำ โชคดีไม่เหม็นขี้ค้างคาว ไม่พบงูร้ายๆดุๆ ปลอดภัยดีมากๆ

ผอ.ททท.ตาก ท่านสุรินทร์ ติเพียรและคณะ นำเที่ยวมุดถ้ำ

              พอถึงจุดที่มีหินงอกหินย้อยก็ได้ชมความงดงามกันสมใจ หินงอกหินย้อยไม่เหมือนแหล่งอื่นๆ แต่ละภาพชมความงดงามได้จากภาพที่ถ่ายมานี้ บรรยายไม่ถูกเลย บางจุดเป็นการผสมผสานกันของหินปูนเก่ากับใหม่ สีขาวอย่างกับหิมะละลาย หรือเป็นน้ำตาลละลาย แต่ลวดลายหลากหลายมากเหลือกำลัง ยังไม่มีการตั้งชื่อแต่ละจุดว่เป็นภาพอะไร สำหรับผมแล้วอยากเรียกบางจุดว่า "ฉัตรหิมะ" ซึ่งเหมือนโครงฉัตรแต่มีหินปูนสีขาวหยาดหยอดทั่วจนมองดูเหมือนหิมะกำลังตกหรือละลาย

               บางภาพเป็นหินย้อยที่หยาดเยิ้ม รูปเกลียวเบี้ยวๆบูดๆ เหมือนว่าไหลย้อยลงมาแล้วหยุดกึก กลายเป็นรูปทรงบิดเบี้ยว สวยงามแปลกตาไปจากหินย้อยจุดอื่นๆ เหมือนกลีบขนุน สีขาวอย่างกับงาช้าง เรื่องของธรรมชาติเสกสรรค์ไม่สามารถกำหนดรูปแบบได้เลย ต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ  ถ้ำกับหินงอกหินย้อยเกิดจากภเขาลูกนี้เป็นภูเขาหินปูน ลูกโดดๆอยู่กลางผืนป่าที่ราบในวงล้อมของต้นไม้และไผ่แคน เมื่อเกิดน้ำซึมละลายหินปูนจึงไหลย้อยลงไปในโพรงถ้ำทีละนิดๆ จนกล่ายเป็นความวิจิตรตระการตาหาใดเหมือน

อยากตั้งชื่อว่า ฉัตรหิมะ

               ช่างภาพแต่ละคนพยายามถ่ายรูปภายใต้แสงมืดสนิท แก้ปัญหาด้วยเทคนิคการถ่ายภาพระดับมือโปร ใช้แสงไฟฉายสาดไปสาดมา ไม่น่าเชื่อว่าแสงเดินทางมีเวลาอ้อยอิ่งจนภาพจับความสวยงามที่ส่องผ่านได้ ผมเองเข้าไปถ่ายรูปในถ้ำคราใด หากแสงไม่พอก็จะเปิดใช้แฟลชช่วย ภาพที่ได้ก็จะไม่มีมิตินัก แต่ถ้าเป็นตากล้องมือโปรอย่างคุณจำลอง บุญสอง บก.ท่องเที่ยว นสพ.โพสท์ทูเดย์ แล้วละก้อ ได้ภาพวิจิตรสมใจ ดังนี้แล ภาพที่ให้ชมจึงสวยงามระดับมือรองๆโปร แฮะๆๆ 

เหมือนกลีบขนุน

                กว่าจะถ่ายภาพด้วยความปราณีตของช่างภาพแต่ละสำนักแล้วเสร็จกินเวลาไปราวๆ 2 ชั่วโมง แต่น่าแปลกครับที่ตลอดเวลาที่เราทำงานกันนั้น อากาศในถ้ำเย็นสบายหายใจปลอดโปร่ง อากาศถ่ายเทได้อย่างไรเราไม่รู้เลย เมื่อถ่ายรูปหินงอกหินย้อยเสร็จไปแล้วจุดหนึ่งก็เคลื่อนขบวนไปถ่ายอีกจุดหนึ่ง ซึ่งมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป หากปล่อยให้ธรรมชาติค่อยๆเสกสรรค์ปั้นแต่งต่อ ก็จะได้ภาพความสวยงามแตกต่างไปอีก สองสามปีเข้าไปถ่ายรูปใหม่ก็อาจจะได้ภาพหินงอกหินย้อยแตกต่างอีกมิติ 

นี่คือหินงอกหินย้อยอีกด้านหนึ่ง

                สิ่งที่กลัวมากเรื่องถ้ำก็คือ นักท่องเที่ยวที่ชอบสลัก ขีดเขียน และน่ากลัวมากคือทุกครั้งที่เข้าไปเที่ยว ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังหรือตักเตือน ปล่อยปละละเลยก็จะเกิดความเสียหายจากความมือบอนของนักท่องเที่ยวได้ ผมเคยไปถ่ายรูปภาพเขียนสีที่ผาแต้ม แล้วพบว่ามีคนมือบอนเอามือตัวเองไปทาบแล้วถ่ายรูป ภาพเขียนสีเหล่านั้นเมื่อถูกเหงื่อไคลเค็มๆจากฝ่ามือก็อาจเกิดปฏิกริยาทางเคมี เปลี่ยนสีหรือเสียหายไปเลย เห็นแล้วก็เจ็บปวดกระดองใจที่สิ่งสวยงามมากมายเสียหายเพราะว่าคนสองคนเช่นนี้ (คนมือบอนกับเจ้าหน้าที่ไม่อยู่เตือน)

อลังการหินย้อยย้วยสวยดี

                ผมลืมเล่าไปว่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันออก แห่งนี้ ใครที่ไปเที่ยวเมืองอุ้มผาง ตอนเช้ามืดจะนิยมไปถ่ายรูปทะเลหมอก(ยามหนาว) และพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น ผมก็ได้ไปกับเขาด้วยโดยไปกันตั้งแต่ตีห้าเศษๆ ระยะทางแค่ 9-10 กม.ก็ถึงจุดที่เข้าถึงได้ง่ายสุด มีลานจอดรถยนต์แล้วก็เดินขึ้นไปบนดอยหัวหมด ตั้งขากล้องรอพระอาทิตย์โผล่พ้นจากเหลี่ยมเขา น่าเสียดายว่าช่วงเวลาที่เราไปนั้นเป็นช่วงต้นเดือนมีนาคม มีพียงแสงสวยๆยามตะวันขึ้นเท่านี้เอง 

ฉัตรหิมะ งดงามเหนือคำพรรณนา

                แต่ก็ได้ขึ้นไปเห็นแล้วว่าดอยหัวหมดนั้นมีลักษณะเป็นเช่นไร ไม่มีใครไปถากถางอย่างดอยหัวโล้นที่ถูกแผ้วถางป่าลงเพื่อทำไร่เลื่อนลอย  แต่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาเอง เป็นยอดดอยที่แทบไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเลย ต้นไม้เล็กๆก็เตี้ยแกร็นไปหมด หงิกๆงอๆ ส่วนใหญ่เป็นหญ้าเตี้ยๆ เหมือนคนหัวล้านที่มีเพียงผมกระหรอมกระแหรม รูปภาพดอยหัวหมดนั้น ถ้าท่านนั่งอยู่บนรถยนต์ตามถนนที่พาดผ่านจะเห็นว่า มีเกิดขึ้นเป็นทิวแถว อาจเพราะว่าดิน หรือ หิน หรือ ส่วนผสมที่แตกต่าง ต้นไม้ใบหญ้าก็เลยไม่อยากจะขึ้น(เจริญเติบโต)                       

ชมพระอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ อากาศสดชื่น

                ไปเที่ยวอุ้มผาง ไปเฝ้าถ่ายทะเลหมอกที่ดอยหัวหมดตอนเช้ามืด แล้วเลยไปเที่ยวถ้ำเสือเผ่น ก็คุ้มแล้วหนึ่งวัน แต่ถ้าเลยเข้าไปส่องสัตว์ นก สัตว์เล็กสัตว์น้อยในเขตฯ ยิ่งคุ้มใหญ่ ช่างภาพที่ชอบถ่ายรูปนก และนักดูนก รับรองไม่ผิดหวัง ก็ยิ่งคุ้มใหญ่

                ไปเที่ยวอุ้มผาง เหมารถจากจังหวัดตากไปก็ได้ สนใจก็ติดต่อ 086-4493020 (แขก-ประจัน/แต่หน้าตี๋) เชี่ยวชาญทางและแหล่งท่องเที่ยว 

พันธุ์ไม้คดงอ

ดอยหัวหมด หนึ่งในหลายสิบลูก

ป่าไม้ปากทางเข้าถ้ำเสือเผ่น

ป่าเต็งรังผลิใบใหม่ริมทางขึ้นดอยหัวหมดยามเช้า

ถนนในป่าขึ้นดอยหัวหมด

 

 

Tags : อุ้มผาง5.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view