http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,992,741
Page Views16,300,966
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ฤาษีแห่งเลตองคุ1.ตะลุยภูทุรกันดารเหลือ โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ฤาษีแห่งเลตองคุ1.ตะลุยภูทุรกันดารเหลือ โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ฤาษีแห่งเลตองคุ1.ตะลุยภูทุรกันดารเหลือ

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

            ไฮไลท์ของเรื่องนี้อยู่บนพื้นที่ตามตะเข็บแนวชายแดนประเทศไทยกับเมียนมาร์ ดินแดนที่เชื่อมต่อช่วงอุ้มผางอันแสนไกล เรื่องราวตอนนี้จึงต้องใช้คำว่า "ตะลุยภูทุรกันดารเหลือ"  ก็เหลือจะลำบากยากเข็ญ ทั้งๆที่เป็นหน้าแล้งแห้งแก๋แหง รถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อต้องตะลุยภูสู่ดอยสูงแล้วก็ไถลลงที่ลาดต่ำเป็นเหวลึก ระดับองศากว่า 45 หวาดเสียวอะ ฝุ่นแดงไล่หลังมาแทบจะกลบหน้า แต่ก็ฟันฝ่าไปได้อย่างปลอดภัย ทั้งนี้ก็ด้วยความเชี่ยวชาญของโชว์เฟอร์ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจนำเที่ยวและเจ้าของรีสอร์ท "อุ้มผาง " 

บางช่วงราดยาง

             ออกจากอุ้มผางด้วยถนนราดยางบ้าง ถนนราดฝุ่นสีแดงบ้าง แล้วก็สลับด้วยการพุ่งลงหุบห้วย พลันก็พุ่งทะยานขึ้นภูสูง ผมมองหน้าปัทนาฬิกา ซึ่งเป็นชนิดมีเครื่องวัดระดับความสูงจากน้ำทะเล ขณะนั้นถึง 750 เมตรแล้วไต่ขึ้นไป 1400 เมตร แล้วก็ดิ่งลงที่ต่ำจนถึง 280 เมตร อีกพักหนึ่งก็วิ่งตะบึงขึ้นไปที่ระดับกว่า 1,600 เมตร บางภูดูน่าหวาดเสียวที่ถนนราดฝุ่นฟุ้งแล้วก็หักศอกบนพื้นที่แคบๆ ถ้าพลาดก็พุ่งลงเหวไปเลย ผมพยายามจะถ่ายรูปจากที่นั่งหน้ารถ แต่ก็ถ่ายไม่ได้ มันกระดอนไปกระดอนมา ที่เห็นในรูปนั่นเพียงเสี้ยววินาทีที่รถนิ่งกล้องสามารถจับภาพได้ ถนนเส้นนี้คงจำกัดช่วงเวลาให้เข้าถึง "เพียงบางฤดูกาล" 

คนนั่งหลังจะได้สัมผัสจริง

              รถยนต์วิ่งไปกว่า 2 ชั่วโมง ก็ถึงซึ่งหุบเขา "ห้วยใหญ่" มีน้ำไสไหลเย็นผ่านไปไหวๆ ในน้ำมีสาหร่ายเขียวๆเกาะตามหินและสยายพรายเขียวๆดูสวยดี คนพื้นเมืองเรียกว่า "เตา" เป็นพืชน้ำอีกชนิดหนึ่งที่ใช้ปรุงอาหารได้เช่น ยำเตา เตาตากแห้งเคลือบงาทอด เตาผงโรยเกลือ เป็นอาหารพื้นถิ่นที่ชนเผ่าและชาวไทยเหนือกินกันมานานแสนนาน รถจ่อริมฝั่งน้ำ ผมสั่งเบรคเสียงดัง เพื่อขอถ่ายรูปผีเสื้อฝูงใหญ่กำลังดูดกินเกลือแร่อยู่ชายน้ำ หลังจากนั้นก็ตะลุยข้ามไปหาที่จอดรถ เพื่อเบรคครึ่งทางแล้วกินข้าวกล่อง มื้อกลางวันเมื่อเวลาบ่ายแก่ๆ

ผี้เสื้อฝูงหนึ่งริมน้ำ

              ระหว่างนั่งกินข้าวกันไปด้วยความหิวโหย แทบไม่มีเสียงพูดคุยเลย ทุกคนทำหน้าที่กินเต็มพิกัด ผมเหลือบไปเห็นชนเผ่ากะเหรี่ยงนั่งอยู่บนรถอีแต๋น มีหนุ่มคนหนึ่งนอกนั้นเป็นเด็กๆ หนุ่มคนนั้นไว้ผมยาวที่มัดเป็นกระจุกเหนือหน้าผาก

              "นั่นแหละกะเหรี่ยงที่นับถือหรือเป็นฤาษี" คุณติ๋ม จุฑาวัลย์ บัวกลิ่น ผอ.นสพ.เสียงเสรี จังหวัดตาก กระซิบบอก  

              "ไว้ผมยาวมัดไว้ด้านหน้า ไม่ยักเหมือนพระฤาษีในละครละเม็งเลย นั่นเขาไว้ผมยาวสยายปกไหล่ นุ่งห่มด้วยชุดเหลืองลายเสือ"

              "ที่นี่เขาแต่งตัวปกติตามเผ่าเขาแต่ไว้ผมยาวทุกคน โดยเฉพาะผู้ชายนะ" 

เห็นมุ่นผมเขาไหม

              ผมแอบกดชัตเตอร์บันทึกภาพฤาษีคนแรกที่พบกลางป่าเขา ผมคาดเอาเองว่าน่าจะใกล้ถึงแล้ว แต่ก็ไม่รู้ระยะทางที่แน่นอน ไม่รู้ว่าจะใช้เวลานั่งรถไปนานอีกสักเท่าไร ผมเห็นผู้หญิงกะเหรี่ยงกับเด็กๆสองสามคน เธอกำลังแหวกพงวัชพืช แท้ที่จริงเธอกำลังเด็ดผักชนิดหนึ่งชื่อว่า "ขี้หูด" เป็นผักที่มีรูปฝักเรียวยาวเป็นตุ่มๆ สีเขียวอ่อนๆ ทั้งยอดอ่อนและผลลวกแล้วจิ้มน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกตาแดง อร่อย ทุกคนช่วยกันเก็บหาผักน่าจะไปปรุงมื้อค่ำแน่ๆ แดดบ่ายแรงร้อน กะว่าอิ่มแล้วจะลงไปล้างหน้าด้วยน้ำในห้วยเย็นๆ ก็พอดีได้ยินเสียงไฟป่าแตก 

เด็กกะเหรี่ยงอาบน้ำในห้วย ดูมีความสุขสนุกดี

              กะเหรี่ยงกลุ่มนี้กำลังเผาไร่ที่เขาถากถางตากแดดไว้จนแห้ง เป็นเชื้อไฟได้อย่างดี เขาจุดด้วยไม้ขีดก้านเดียวไฟก็ลุกท่วมฉับพลันทันใด เสียงดังโป๊ะเป๊ะจากการแตกของลำไผ่ที่ถูกเผาไหม้ ไฟโหมแรงขึ้นๆตามแรงลมที่กระพือขึ้นไปตามลาดเขาชัน ชั่วเวลาไม่นานไฟก็มอดไหม้ลง เหลือเพียงตอและเศษไม้ที่เผาไม่หมด ชาวไร่เขาทำไร่ปลูกพืชอาหารเช่นข้าวไร่ ข้าวโพด ฝ้าย ละหุ่ง หลังจากที่พวกเราถ่ายรูปไฟไหม้แล้วก็เดินทางต่อเพื่อให้ถึงเป้าหมาย "หมู่บ้านเลตองคุ" หมู่บ้านเดียวในประเทศไทยที่นับถือ"ฤาษี" ปฏิบัติตามอย่างฤาษีด้วยศรัทธาและความเชื่อ 

หนูน้อยนี้ได้ของฝากจากพวกรา

              กว่าจะเข้าถึงหมู่บ้านก็ใกล้ค่ำ ตะวันกำลังโรยตัวลงหลบเหลี่ยมเขา แสงแดดอ่อนๆตอนเย็นสาดไปทั่ว ควันไฟและหมอกควันเริ่มบดบังและไล้โลมยอดไม้ใบหญ้า คณะเดินทางนำพาพวกเราไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวณชายแดน บ้านเลตองคุ ที่นั่นเป็นที่ๆจะได้พักแรม ทำอาหารการกินด้วยเนื้อสัตว์ได้ เพราะถือว่าพ้นเขตหมู่บ้านมาแล้ว แล้วก็มากางเต็นท์นอนที่หน้าสุขศาลาพระเทพ ใช้ห้องสุขาที่สุขศาลานี้

              ตะวันอ่อนแสงลงไปทุกขณะ พวกเราเตรียมตัวด้วยการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปรับประทานอาหารค่ำที่โรงอาหารของโรงเรียน  

ตะลุยภูทุรกันดาร

              แม่บ้านกลุ่มสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอุ้มผางร่วมเดินทางมาเพื่อช่วยบริการเรื่องอาหารการกิน จัดเตรียมให้พร้อมสรรพ ระหว่างนั้นฤาษีหนุ่มๆหลายคนมาร่วมพูดคุย เล่าเรื่องราวสั้นๆให้ฟัง เป็นการต้อนรับแขกแทนผู้ใหญ่บ้านซึ่งติดภาระกิจ ได้เห็นน้ำใสใจจริงของพี่น้องฤาษีแล้ว ทึ่งในความละเมียดละไมน้ำใจงาม เช่นเดียวกับตำรวจตระเวณชายแดนบ้านเลตองคุ กองร้อย.....ในจำนวนนี้ยังทำหน้าที่เป็นครูสอนหนังสือเด็กๆที่โรงเรียนด้วย หลังอาหารแล้วก็ลาจาก ไปพักผ่อนนอนหลับท่ามกลางอากาศที่เริ่มเย็นตัวลงทุกขณะ 

กางเต็นท์นอนหน้าสุขศาลาพระเทพ

               อ้อ ที่นี่ระดับน้ำทะเลปานกลางต่ำ 100 ครับ แต่หนาวเย็นเอาเรื่อง หมดภาระเรื่องการเดินทางที่แสนเหนื่อยอ่อน รู้ไหม ระยะทางเท่าไร เพียง 87+16 กม.113 กม.แค่นั้นเอง แต่เดินทางลำบากหลือแสน  

ฤาษีตัวแทนมาเยี่ยมเยียน

หน้าตามอมแมมอย่างนี้เลย

                   

           

Tags : อุ้มผาง6.เปิดถ้ำเสือเผ่น

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view