นกกระเต็นหัวดำ
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
เกิดมารู้จักนกกระเต็นตัวเล็กๆ สีน้ำเงินอมฟ้า บินโฉบจับปลาในสระหน้าบ้าน ริมคลอง โดยมาเกาะตามกิ่งไผ่ชายน้ำหรือสายไฟฟ้า แต่เมื่อมาเดินถ่ายรูปนกใน ม.เกษตร กำแพงแสน อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม ผมได้รูปนกสีน้ำเงินอมฟ้าหลายชนิด เช่นนกกระเต็นอกขาว นกกระเต็นน้อยธรรมดา นกตะขาบทุ่ง ส่วนใหญ่พบใกล้แหล่งน้ำของมหาวิทยาลัยนี้
นกกระเต็นหัวดำ
วันหนึ่ง ผมเดินไปแถวบ่อปลาของคณะประมง ซึ่งมีบ่อปลาเพื่อการเพาะเลี้ยงและศึกษาวิจัย ช่วงเวลาที่พบค่อนข้างเย็นแล้ว นกที่ผมถ่ายรูปได้เป็นนกในจำพวกนกกระเต็นแน่นอน แต่ไม่รู้จักชื่อ วิสัยของตากล้องจ้องถ่ายไว้ก่อน แล้วมาศึกษาหาความรู้ทีหลังจากเอกสาร จากเว็บไซต์ ได้ความว่าเจ้านกตัวที่ผมถ่ายรูปมาได้นี้ชื่อว่า นกกระเต็นหัวดำ
มีชื่อสามัญว่า Black-capped Kingfisher ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Halcyon pileata Boddaert,1783 อยู่ในวงศ์ ALCEDINIDAE ลักษณะทั่วไป เด่นชัดเลยก็มีหัวสีดำ ปากสีแดงยาว แข็งแรง ตาดำ รอบคอขาว คอและอกส่วนบนมีสีขาว ท้องไล่ไปจนถึงใต้หางสีน้ำตาลแดง ลำตัวด้านบนมีสีน้ำเงินเข้ม บริเวณไหล่มีแถบสีดำใหญ่ ขาและเท้าแข็งแรงสีแดง หางยาว สีน้ำเงินอมฟ้า
นกกระเต็นหัวดำ
สถานะภาพเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือนกอพยพผ่าน ในประเทศไทยพบทุกภาค ในช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์สามารถพบเห็นได้ในภาคกลางและภาคใต้ ซึ่งในช่วงผสมพันธุ์จะไม่พบ ชอบอาศัยอยู่ตามป่าชายเลน ลำธาร ห้วยหนอง บึงบ่อ สระน้ำ พบได้สูงถึง 900 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง (ในช่วงอพยพผ่าน)
นกกระเต็นหัวดำออกไข่ครั้งละ 5-8 ฟอง โดยขุดรูตามริมชายน้ำลึก 1-3 เมตร ไข่จะฟักอยู่ราวๆ 18-24 วัน เมื่อลูกนกออกมาจะอยู่ในความดูแลของพ่อแม่นกจนแข็งแรงพอ นกกระเต็นหัวดำบินเร็ว และร่อนเป็นช่วงสั้นๆ ขณะบินชอบส่งเสียงร้อง แต่เสียงไม่เพราะ โฉบปลาในน้ำแล้วบินไปกลืนกินบนกิ่งไม้ ว่าก็ว่าเถอะครับ ผมพบนกกระเต็นหัวดำเพียง 2 ครั้ง จึงถ่ายรูปมาได้ค่อนข้างน้อยมาก มีแค่เนี้ย
ระยะหลังๆมานี้ ผมไม่อยากไปเดินถ่ายรูปในม.เกษตร กำแพงแสน นักเพราะว่า นโยบายใหม่ของผู้บริหารสั่งตัดต้นไม้ที่เป็นทั้งที่อยู่อาศัย หลบภัย แหล่งอาหาร จนล้มตายไปสิ้นเช่นต้นตะโกนา มะขามเทศ ไทร ไกร สะเดา ยูคาลิปตัส เดินก็ร้อนไร้ร่มไม้ใบบัง หลังจากตัดแล้วนำไม้ไปขายเป็นรายได้เข้ามหาวิทยาลัยมั้ง แล้วปลูกยูคาลิปตัสต้นเล็กๆริมถนนเส้นเดิมนั้นใหม่ เศร้าว่ะ