กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯแนะประชาชนดื่มน้ำสมุนไพร “ตำรับตรีผลา”ปรับธาตุหน้าร้อน
กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก แนะนำประชาชนดื่มน้ำสมุนไพร “ตำรับตรีผลา” เพื่อปรับธาตุในร่างกายและบำรุงสุขภาพและล้างพิษออกจากร่างกายในช่วงหน้าร้อนนี้
นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในฤดูร้อนนี้ประชาชนทั่วไปมักจะหาวิธีคลายร้อนต่างกันไป สำหรับวิธีช่วยดับร้อนแบบไทยนั้นมีหลายวิธีเช่นกัน ในที่นี้จะแนะนำการใช้ตำรับยามาประยุกต์เป็นเครื่องดื่มสมุนไพร ได้แก่ ตำรับตรีผลาหรือตรีผล เป็นยาตำรับสมัยพุทธกาล คือการนำผลไม้ไทย 3 ชนิด ได้แก่ สมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม มาปรุงเป็นยาปรับธาตุในหน้าร้อน มีสรรพคุณช่วยรักษาความสมดุลธาตุทั้ง 4 ของร่างกาย และเป็นยาที่ปลอดภัยไร้พิษข้างเคียงใดๆ ช่วยล้างพิษออกจากระบบต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะระบบทางเดินอาหาร ระบบเลือด ระบบน้ำเหลือง และใช้ได้กับคนทุกธาตุ ทุกเพศทุกวัย
สำหรับ สมอไทย มีรสเปรี้ยวฝาด ขม แทรกด้วยรสเค็ม สรรพคุณช่วยกัดเสมหะ แก้ไอ กระหายน้ำ แก้ท้องผูก แก้ไข้ บำรุงน้ำดี ช่วยทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งรสฝาดช่วยสมานแผล แก้โรคกระเพาะอาหาร คนโบราณมักกล่าวว่า กินสมอไทยอย่างเดียวเท่ากับกินสมุนไพรหลายชนิด สมอพิเภก มีรสเปรี้ยวฝาด อมหวาน มีสรรพคุณตามตำรายาไทยแก้เสมหะ แก้ไข้และ แก้โรคริดสีดวงทวาร ส่วนที่ใช้คือผลแก่เต็มที่ ส่วนมะขามป้อมมีรสเปรี้ยว ฝาดขม สรรพคุณแก้ไอ แก้เสมหะ ทำให้ชุ่มคอ และมีวิตามินซีสูง
นายแพทย์สุพรรณ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับวิธีการต้มยาตำรับตรีผลา ในฤดูร้อน จะผสมอัตราส่วนของสมุนไพร สมอพิเภก 12 ส่วน สมอไทย 8 ส่วน มะขามป้อม 4 ส่วน ผสมน้ำ 3 ลิตร ต้มให้เดือด เคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน เทกรองกากออก ดื่ม 30 ซีซี ก่อนอาหารเช้า – เย็น
กรณีปรุงเป็นเครื่องดื่มสมุนไพร สูตรของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ใช้อัตราส่วน สมอพิเภก 100 กรัม สมอไทย 200 กรัม มะขามป้อม 400 กรัม (ล้างให้สะอาด) ใส่น้ำ 6 ลิตร ตั้งไฟต้มเดือด 30 นาที ใช้รับประทานก่อนอาหารเช้า – เย็น ครั้งละ 1 แก้ว แต่ถ้าอยากได้แบบเจือจางก็ให้ใส่น้ำมากหน่อย เติมเกลือ น้ำตาล ปรุงรสตามชอบ ชงดื่มในน้ำแข็ง ช่วยให้สดชื่นคลายร้อน
ขณะนี้มีอาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล และธรรมศาสตร์ กำลังศึกษาตำรับตรีผลาต้านมะเร็ง จะเห็นว่านอกจาก เป็นยาแล้วยังเป็นน้ำสมุนไพรที่ช่วยปรับสมดุลที่ดีเยี่ยมอีกตำรับหนึ่งอีกด้วย
.................................................... 21 เมษายน 2555