นวดรักษาเก่งที่โพธาราม โดย ลุงดำ คำโต เรื่อง-ภาพ

นวดรักษาเก่งที่โพธาราม

โดย ลุงดำ คำโต เรื่อง-ภาพ

            แก่แล้ว ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็ปวดเมื่อยเป็นธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาก็ตรงที่ปวดเมื่อยแล้วไม่หายดังเดิม มันชักจะปวดเรื้อรังและเริ่มเคล็ดขัดยอกไปทั่ว ทำไปทำมาปวดเมื่อยน่องสองข้างก็ลามขึ้นมาชาที่เหนือเข่าข้างขวา ส่วนแขนขวาก็หมดเรี่ยวหมดแรงจนหยิบจับอะไรไม่ค่อยไหว ยาแก้ปวดธรรมดาๆเคยกินสองเม็ดแล้วหาย ก็กลายเป็นต้องกินถึงยาคลายกล้ามเนื้อที่แรงกว่า แต่ก็ไม่หาย ครั้นจะไปนวดฟรีตามสิทธิ์ที่โรงพยาบาลหรือก็เป็นหมอนวดแบบขะยำๆเสียอีก ตัดใจเดินตะแคงๆแรงไม่ค่อยมีอยู่ถึง 3 สัปดาห์

บ้านหลังนี้แหละ

            ญาติมาเห็นก็เลยยกโทรศัพท์ไปนัดหมอนวดเจ้าเก่าที่เขาใช้บริการอยู่ แล้วก็เคี่ยวเข็ญให้ไปตามนัด ไกลด้วยซีครับ หมอนวดคนนี้เขาอยู่บ้านวิหารสูง ตำบลคลองข่อย อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี  โทร.080-1119385 ชื่อเกศนีย์ (หมอตุ๊ก) สายกระสินย์ เขาเปิดบริการนวดรักษาอยู่กับบ้าน ไม่มีสังกัดค่ายไหนทั้งนั้น ดังนั้นเมื่อได้ฤกษ์งามยามดี ลุงดำก็ถูกจับใส่รถยนต์เพื่อพาไปยังบ้านหมอ ใช้เวลาเดินทางพอสมควร ไปตรงตามเวลานัด เรื่องตรงเวลานี่สำคัญมากเพราะว่าแต่ละวันแต่ละชั่วโมง หมอนวดรักษาคนนี้มีคิวยาวจนค่ำ ทุกวัน

กำลังนวดแก้เส้นให้เพื่อนบ้าน

             ลุงดำนั่งหลับๆตื่นๆก็ถึงโรงพยาบาลโพธาราม รถยนต์เลี้ยวไปตามถนนคลองข่อย-โรงพยาบาล ถนนดี ราดยางแอสฟัลก์ ผ่านวัดจอมปราสาท วัดกลาง สวนผลหมากรากไม้สองข้างทาง บ้านผู้คน แล้วก็ผ่าน ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลคลองข่อย ยัง ยังไม่ถึงดอก ต้องแล่นรถต่อไปอีกจนผ่านวัดวิหารสูง ม.3 ซอย11 บ้านวิหารสูง อันเป็นซอยอยู่ข้างกำแพงวัดพอดี เข้าไปอีก 150 เมตรก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยคอนกรีตเล็กๆ พอมองเห็นบ้านทรงไทยสองชั้นหลังใหญ่ก็ให้สังเกตุบ้านหมอตุ๊กฝั่งซ้ายมือ มีต้นมะกรูดและมะยมอย่างละต้นอยู่หน้าบ้าน เป็นบ้านชั้นเดียวเก่าๆ

กระท่อมหลังเดิมของหมอตุ๊ก

             บ้านชั้นเดียวติดดินหลังนี้มีห้องโล่งๆ ลุงดำเห็นหมอตุ๊กกำลังนวดแขนให้กับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ นั่งรอคิวเสร็จก็จะเข้าไปนอนให้นวดต่อ แต่สามีหมอตุุ๊กขอเวลาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนขนาด 3 ฟุต บนฟูกแบบบ้านๆ แล้วก็เปลี่ยนปอกหมอนใหม่ เสร็จเรียบร้อยเขาถึงเชิญให้ลุงดำไปนอนแอ้งแม้งได้ตามปรารถนา ที่บ้านนี้ไม่มีชุดให้เปลี่ยนเหมือนสถานบริการนวดทั่วไป ดังนั้น ถ้านำติดตัวไปเองได้จะดีมาก ดีว่าลุงดำนุ่งกางเกงชั้นในแบบสบายๆไปด้วยก็เลยถอดกางเกงตึงๆออก

สามีหมอเปลี่ยนผ้าปูและปลอกหมอน

             หมอตุ๊กสอบถามถึงอาการปวดเมื่อย ลุงดำก็จารนัยให้ฟังว่า แขนขวาไม่มีเรี่ยวแรงเลยทั้งๆที่เป็นคนถนัดขวา หยิบยกอะไรหนักหน่อยก็ไม่ไหว มันเจ็บแปลบๆไปทั่ว อาการต่อมาคือ เมื่อยน่องสองข้างมาก เหมือนว่ามันตึงจนเกร็ง และอาหารที่สามคือ ชาที่ขาข้างขวาเหนือเข่า หมอตู๊กฟังแล้วก็พนมมือไหว้แล้วก็ไล่ให้ผมนอนลงไป หมอตุ๊กเข้ามานวดแขนขวาผมก่อน นวดได้เจ็บปวดมาก แต่ก็ต้องทนจนกว่าจะหมดแรงหรือ ไม่เลย เธอกดเจอเส้นที่แข็งตัวเป็นมัดๆ ก็แก้ไขด้วยการคลายปมร้อนๆ บอกตามตรงหมอตุ๊กคนนี้ มือแข็งแรงมาก

ยิ้มแบบคนใจดี

             เสร็จจากแขนขวาก็ให้ผมนอนตะแคงข้างซ้าย แล้วเธอก็เหยียบขาเต็มแรงบ้างครึ่งแรงบ้าง พักหนึ่งก็นั่งลงคลึงฝ่าเท้าด้วยข้อศอก แล้วก็ลงศอก ลงเข่าไปตามน่อง ตามหลังไหล่ ขบวนการนวดจะมีกี่ท่าไม่ได้นับ รับรู้เพียงว่าแต่ละท่าเจ็บๆ  และก็เจ็บ บางช่วงหมอตุ๊กก็ถามว่า เลือดเดินดีไหม หลังจากยกเท้าออกจากโคนขาลุงดำ การนวดของหมอตุ๊กใช้ทุกส่วนที่มี นิ้ว ฝ่ามือ ลำแขน ข้อศอก เท้า เข่า เรียกว่าทั้งลงศอกและลงเข่าเต็มที่ทุกท่า อันเป็นวิชานวดที่เธอเล่าว่า ปู่กับย่า เป็นหมอนวดจับเส้น แก้เส้น ก็เลยได้มรดกมา

แก้กษัยด้วยการควักท้อง ไม่ใช่ไปล้วงไข่ 555

             หมอตุ๊กเล่าว่า อาศัยช่างสังเกตุและช่วยปู่ย่านวดด้วยก็เลยซึมซับเอาวิชาติดตัวมาเอง แพทย์แผนไทย ของกระทรวงสาธารณสุข และแพทย์แผนไทยของวัดโพธิ์ ก็ไม่เคยผ่ายสักสำนัก จึงไม่มีประกาศนียบัตรของวัดโพธิ์หรือสาธารณะสุขแต่อย่างใด ผมถามว่าจับกษัยเส้นเป็นไหท หมอตุ๊กหัวเราะ แล้วก็ให้ผมนอนหงาย ลงมือใช้นิ้วทั้งสิบกดลงไปที่ท้อง วนไปรอบๆทีละจุดๆ

             "เมื่อวานนี้ก็มีลุงคนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า หมอนวดแผนโบราณสำนักหนึ่งจับกษัยเส้นด้วยการสอดมือเข้าไปล้วงควักไข่ให้" แล้วก็หัวเราะ กดฝ่ามือวนไปรอบๆท้องจนสามารถกดได้ถึงแผ่นหลัง

              "ลมในท้องตึงไปหมด ต้องกดไล่ทิ้งที่ละด้าน"

              หลังจากนวดจนครบถ้วนกระบวนความ ผมก็จ่ายสตางค์ไปสองชั่วโมงคือ 200 บาท

              หมอตุ๊กเล่าว่า ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จะมีผู้ป่วยมาให้นวด 4-5 รายๆละ 1-2 ชม. มีรายได้มั่นคงด้วยว่ามีลูกค้ามานวดกันเป็นประจำ จนสร้างบ้านได้ใหม่ แค่นี้ก็พออยู่กันได้ กระท่อมข้างหลังนั้นก็เก็บไว้เป็นอนุสรณ์  

              ลุงดำนั่งรถกลับบ้าน รู้สึกได้เลยว่าแขนขวา มีแรงพอประมาณ ส่วนน่องหรืออาการชาที่เหนือเข่า ก็ล้วนแต่หายไป ไปเจอหมอนวดดีจึงอยากนำมาเล่าให้อ่านกัน ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดอาการปวดเมื่อย ข้อเคล็ด ขัดยอก หรือเส้นเลือดตีบ นิ้วมือล็อค ไหล่ติด เข่า ขา ขยับไม่ค่อยสะดวก ฯลฯ ขอเชิญไปทดลองได้ด้วยตนเอง สำหรับลุงดำแล้วละก้อ ปวดเมื่อยเมื่อไรก็ขอเพียงมีรถไปส่งครับ ไปนวดแน่ๆเลย