http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,006,631
Page Views16,315,654
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

กระบี่ ท่องทะเลอันดามันแสนงาม โดยธงชัย เปาอินทร์

กระบี่  ท่องทะเลอันดามันแสนงาม โดยธงชัย เปาอินทร์

กระบี่ ท่องทะเลอันดามันแสนงาม

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

          กระบี่เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีทะเลอันดามันทอดยาวถึง 160 กิโลเมตร มีเกาะมากมายถึง 170 เกาะ เกาะที่มีประชากรอยู่อาศัยใหญ่ๆถึง 13 เกาะ แต่ละเกาะมีทรัพยากรท่องเที่ยวทั้งทางทะเลและทางบกหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะเทือกเขาพนมเบญจาที่มีความสำคัญต่อป่าต้นน้ำของคลองปกาสัย  คลองกระบี่ใหญ่ คลองกระบี่น้อย กระบี่จึงเป็นจังหวัดที่มีมิติแตกต่างจากจังหวัดชายฝั่งทะเลไทยอื่นๆ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมรองลงมาจากภูเก็ตและเกาะสมุยเท่านั้น

สัญลักษณ์เมืองกระบี่

           ผมโชคดีที่ได้ร่วมเดินทางไปกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน) และเพื่อนๆสื่อมวลชนอีก 22 ชีวิต จึงได้มีโอกาสไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวมาเพียงบางส่วนซึ่งล้วนแตกต่างกัน ได้ฟังการแถลงข่าว ได้ฟังการเสวนาเรื่องการท่องเที่ยวเมืองกระบี่ กับ AEC ในปี 2015 ได้ชมนิทรรศการของผู้ประกอบการการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ ร้านอาหาร ที่พักแรมทาง สินค้าของฝากสวยๆ และเอกสารชวนเชิญครบถ้วน ขอขอบคุณที่อำนวยความสะดวกทุกประการเพื่อให้สื่อมวลชนได้รับข้อมูลข่าวสารที่แท้จริง

นั่งเรือหัวโทงไปชมเกาะกลาง

           จุดนัดพบคือโรงแรมเอเซีย ราชเทวี กรุงเทพมหานคร จำนวนเพื่อนร่วมทาง 80 คน ประกอบด้วย สื่อมวลชน 22 คน นอกจากนั้นเป็นคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ของสมาคม รวมทั้งผู้ประกอบการท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ

           เช้าตรู่ก็ถึงแล้ว กระบี่เมืองที่มีเขาขนาบน้ำอยู่ใกล้ตัวเมือง มีเขารูปดาบอันเป็นสัญลักษณ์เฉพาะของจังหวัดกระบี่ มีปากแม่น้ำที่คราคร่ำไปด้วยเรือท่องเที่ยว เรือสัญจรจากฝั่งพื้นดินไปยังเกาะแก่งต่างๆ แม้กระทั่งเรือใบ เรือยอร์ชแพงและหรู 

กระบี่ ทิพา รีสอร์ท

            คณะหนึ่ง 40 คนไปพักแรมที่โรงแรมปกาสัย อีก 40 คนไปพักแรมที่โรงแรมกระบี่ ทิพา รีสอร์ท ในบริเวณอ่าวนางเดียวกัน หลังจากนั้นสมาคมได้ชวนเชิญให้ไปนั่งเรือหัวโทงมุ่งหน้าไปเกาะกลางปากแม่น้ำกระบี่ อันเป็นเกาะที่มีวิถีชุมชนให้ชม ได้เห็นขั้นตอนการทำผ้าปาเต๊ะ ได้เห็นการรวมกลุ่มสหกรณ์ข้าวสังข์หยด โรงเรียนปอเนาะที่มีนักเรียนกว่า 2,000 คน ที่ประทับใจมากคือ ไอแลนดา รีสอร์ท แอนด์ สปา อนุรักษ์แม้กระทั่งหลังคาบ้านพักมุงด้วยใบต้นจั๋ง 

เรือล่องท่องไปเกาะกลาง

ลงเรือที่ไอแลนดา รีสอร์ทแอนด์สปา

             ข้ามฟากกลับมายังท่าเรือเจ้าฟ้าหน้าเมืองกระบี่่ ไปกินอาหารมื้อกลางวันด้วยรสชาติพันธุ์ใต้เช่นน้ำพริกกุ้งสดแกล้มด้วยใบหมุ๋ย และสาหร่ายทะเลชนิดหนึ่ง แกงเหลืองปลากะพงสดจนเนื้อหวานติดลิ้น อิ่มแล้วจึงได้เดินทางไปอำเภออ่าวลึก ทดสอบกำลังด้วยการพายเรือคายัคไปชมภาพเขียนสีโบราณที่ถ้ำผีหัวโต ซากหอยที่กลายเป็นหินและหินงอกหินย้อยแปลกตามากมายหลายรูปลักษณ์ ท่ามกลางป่าชายเลนที่ยังหนาตาและทรงคุณค่าต่อชายฝั่ง ทั้งป้องกันดินพังทะลายและป้องกันลงพายุ

แกงเหลืองอร่อย

บ้านบ่อท่อ อ่าวลึก

ฝรั่งนายนี้ท้าทายแดดและลม

              ผมเห็นฝรั่งพายคายัคมาลำหนึ่ง คนหน้าพายด้วยความตั้งใจ แต่คนหลังซึ่งอ้วนท้วนสมบูรณ์มากนอนกึ่งนั่งเอกเขนกสบายอารมณ์ เหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว เรียกรอยยิ้มได้ไม่น้อยทีเดียว เรือคายัคนี่มีถิ่นกำเนิดจากต่างประเทศ เป็นเรือไฟเบอร์สีสันสดใสสวยงาม รูปแบบการพายต้องช่วยกันสองคนหรือหนึ่งคู่ พายสองใบอย่างเรือบดบ้านเรา แต่เรือใหญ่กว่าเรือบด  ถ้าจ้ำไม่ได้จังหวะก็จะหมุนคว้างกลางน้ำ ไม่แล่นไปข้างหน้า โชคชะตาขึ้นอยู่กับกระแสน้ำที่พัดผ่าน 

ภาพเขียนสีพันปี

             ไปถึงถ้ำลอดก็พายเรือชมความสวยงามของถ้ำไปด้วย แต่มีเพียงนั้นก็ต้องกลับลำพายกลับออกมาตามป่าชายเลน แล้วก็เลี้ยวเข้าคลองหนึ่งซึ่งเป็นเขาหัวกระโหลก มีเจ้าหน้าที่นั่งเฝ้าปากถ้ำอยู่ 2 คน เรือเทียบสนิทก็ค่อยๆไต่ขึ้นไปจนได้ชมภาพเขียนสีพันปี ว่ากันว่า นั่นคือรูปของผีหัวโต มีภาพเขียนสีอยู่หลายจุด แต่ละจุดก็แตกต่างกันไป ไกด์ท้องถิ่นเล่าว่า ตั้งแต่ค้นพบจนถึงวันนี้สีก็ยังไม่เปลี่ยนไป น่าอัศจรรย์ในภูมิปัญญาของมนุษย์โบราณเหล่านี้ไหม เขารู้ได้อย่างไรว่าจะใช้อะไรเขียนไว้ให้ติดทนนาน หรือเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า

แม่น้ำสวย

             เรื่องนี้ ไปถ้ำไหนก็บอกต่อๆกันว่าเป็นสีจากยางไม้บ้าง เลือดสัตว์บ้าง สารพัดที่จะได้รับข้อมูล ผมฟังแล้วก็เชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง ตราบใดที่ยังไม่มีการศึกษาวิจัยว่า สีเหล่านั้นเป็นส่วนประกอบจากส่วนไหนของพืชหรือของสัตว์ ก็หาเชื่อด้วยความสนิทใจไม่ แต่ยอมรับด้วยความสนิทใจว่า มันคือภูมิปัญญาของมนุษย์โบราณแน่นอน คงไม่มีใครบ้าไปทาสีซ้ำหรือทาสีซ่อมให้ ภาพเชียนสีประวัติศาสตร์เหล่านี้มีค่าควรดำรงค์คงไว้ให้อนุชนรุ่นหลังๆได้รับรู้และเรียนรู้ต่อไปในภายภาคหน้า 

นายประสิทธิ์ ภูชัชวนิชกุล นายอำเภออ่าวลึก

             เพลิดเพลินเจริญใจกันทั่วถ้วน แล้วก็ได้เวลาต้องลาจาก นายอำเภออ่าวลึก นายประสิทธิ์ ภูชัชวนิชกุล  ยืนรอส่งแขกจากแดนไกลด้วยความมีน้ำใจและให้ข้อมูลแก่สื่อมวลชน ซึ่งนับวันจะหานายอำเภออย่างนี้ได้ยากขึ้นทุกวัน ขอขอบพระคุณที่กรุณามารอรับคณะสื่อมวลชน

ร้านอาหาร"เรือนไม้"

             ค่ำนี้ โชคดีอีกแล้ว ได้ไปกินอาหารกันที่ เรือนไม้ สวนอาหารกลางเมืองกระบี่ที่แต่งร้านด้วยต้นไม้นานาชนิดราวกับอยู่ในป่าดงพงพี แสงไฟสลัวๆกับอาคารสิ่งก่อสร้างจากไม้ดูมีมนต์ขลังค์ อ้อ อาหารอร่อยมาก กินจนลืมถ่ายรูปไว้ก่อน เลยไม่มีรูปประกอบ 

มนุษย์สีจากถนนคนเดินกระบี่

              คณะเจ้าหน้าที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน) ได้นำพาไปเดินทอดน่องชมความแปลกตาจากถนนคนเดินที่เมืองกระบี่ แม้ว่าจะเพียงถนนเส้นเดียวแต่ก็มีสินค้าและเรื่องราวให้ชมมากมายหลายอย่าง เช่นมีมนุษย์สียืนนิ่งไม่ไหวติงอย่างกับรูปปั้น ใครจะใช้ภู่กันแต้มทาที่จุดไหน พี่แกก็ยืนนิ่งสนิทดุจหินแกะสลัก  เลยไปนิดเป็นเพลงเปิดหมวก เสียงแตกพร่าด้วยออกแรงโหมจนดังคับถนน เขาไม่ใช่ขอทาน เขาไม่ใช่วณิพก แต่เขาเป็นศิลปินข้างถนนที่ทำตามความต้องการของหัวใจ 

แสงเช้าอบอุ่นละมุนละไมอย่างนี้

ชาวบ้านขุดหาหอย แม่ลูกเล่นบนหาดทราย

               คืนนั้นกว่าจะกลับถึงโรงแรมกระบี่ ทิพา รีสอร์ท ก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่าๆ ได้น้ำอุ่นร้อนๆและแอร์เย็นฉ่ำ เดี๋ยวเดียวก็หลับสนิท หลังอาหารเช้ามีเวลาน้อยนิดจึงคิดว่าจะไปเก็บภาพชายหาดอ่าวนาง เดินดิ่งไปนิดเดียวก็ได้เห็นแสงอุ่นๆโลมไล้ไปทั่วท้องทะเลที่ค่อนข้างสงบงาม มีเรือชาวประมงแล่นอยู่บ้าง พ่อแม่ลูกสามชีวิตทำกิจกรรมอยู่ที่ชายหาด ป้าคนหนึ่งกำลังขุดหอยสักชนิดไปเป็นอาหาร อากาศยามเช้าที่ไม่มีคลื่นลมเช่นนี้ ก็มีความสวยงามไปอีกมิติหนึ่งโดยแท้ 

               ผมรีบกลับไปเตรียมตัว(กล้อง-น้ำดื่ม-ลูกอมสำหรับคนเป็นเบาหวาน-ขาตั้งกล้อง) และเตรียมรองท้องด้วยอาหารเช้าในรีสอร์ท พร้อมแล้วก็ออกเดินทางไปท่าเรือหน้าหาดนพรัตน์ธารา เพื่อนั่งเรือสปีดโบ๊ทไปท่องทะเลตามเกาะแก่งต่างๆ

               ผมเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอัดบุหรี่ส่วนหัวของเรือหัวโทง ผ้าสีส้มผูกเป็นเครื่องบูชาที่หัวเรือห้อยลง กลุ่มนักท่องเที่ยวและสื่อมวลชนเดินข้ามไปยังเรือสปี๊ดโบท อนาคต สักวันหนึ่งเรือหัวโทงคงจะหมดความสำคัญลงไป มันคือวิวัฒนาการที่ความเจริญเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ชิชะ

ทะเลแหวก

เกาะไก่

               ภาพที่เห็นนี้สื่อความหมายได้ไม่น้อย แต่ผมอาจผิดก็ได้ หากเกิดปรากฎการณ์ย้อนกลับ หันมานิยมรูปแบบการท่องเที่ยวด้วยเรือแบบเก่าๆ เหมือนที่ทุกวันนี้ เรากลับนิยมที่อยากจะมาท่องเที่ยวในแหล่งอารยะธรรม หรือวัฒนธรรมพื้นบ้านเดิมๆ

               เรือสปีดโบ๊ทสีสันสวยงามรูปเพรียวเรียวลู่ลม เครื่องยนต์กลไกสมัยใหม่จ๋าๆ ความแรงของเครื่องและความเร็วของเรือที่พุ่งทะยานออกไปแหวกว่ายอยู่กลางท้องทะเลดูสงบนิ่ง ปลอดภัย แต่เพื่อให้มั่นใจทุกคนจึงสวมใส่เสื้อชูชีพ อุบัติเหตุเกิดได้ในเสี้ยววินาที

บางวันผมเหงา เหงา

               กัปตันและลูกเรือแต่งตัวเรียบร้อยตามบัญญัติของการท่า บอกกล่าวเล่าความว่าจะแล่นไปอีกกี่นาที กี่ชั่วโมง จะถึงเป้าหมายคือเกาะปอดะ กลุ่มเกาะน้อยใหญ่ที่มีความสดใสอยู่ในกลางทะเล น้ำใสดุจกระจกเงา เขียวพราวพรายดุจกำมะหยี่ ลมจากเรือตีน้ำให้แตกกระจายเป็นฟายฟองขาวโพลน ลมแรงซัดเข้าใบหน้าจนชาไปเป็นครู่ แต่เมื่อเรือชลอความเร็วลงวูบหนึ่งก็ถึงแล้ว เกาะปอดะ เกาะที่มีผู้คนเดินกันไปมาบนผืนทรายขาวสะอาดตา มีน้ำทะเลเขียวใสๆอยู่สองฝั่ง ภูเขาลูกเด่นเป็นเหมือนหัวกระโหลก มีต้นไม้หนาแน่นเขียวขจี

รอยยิ้มผมเท่ห์ไหม

               นี่คือชั่วโมงที่พลาดไปเสี้ยวหนึ่งจึงไม่ได้เห็นทะเลที่กำลังแหวกแยกจากกันบนสันทราย แต่ได้เห็นเพียงผืนทรายทอดยาวเชื่อมเกาะถึงเกาะ แม้ไม่ได้ภาพนั้นก็คล้ายๆกัน ยังไงเสียฉันก็มาถึงแล้ว ทะเลแหวก ก๊ากๆๆๆ

               เกาะกระโหลกกลมมนที่มีต้นไม้หนาตา มีลิงแสมผู้ตัวเขื่องเดินออกมาพบปะผู้คนด้วยกริยานุ่มนวล ท่าทีเหมือนเจ้าเกาะผู้ครองนครา ดูมีสง่าและงดงาม ไม่โวยวาย ไม่ว้อกแว้ก เหมือนว่าท่าจะเป็นลิงผู้ดีมีระดับ "เจ้าเกาะ"

ดำน้ำตื้นดูปะการังที่เกาะยูง

               น้ำทะเลเริ่มไหลเอ่อ ท่วมท้นบนคันสันทรายระหว่างเกาะ นักท่องเที่ยวต้องรีบลงเรือเพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะยูง อันเป็นอีกเกาะหนึ่งซึ่งมีปะการังให้ดำน้ำตื้นชมดูได้ พรายน้ำใสแจ๋ว เห็นเงาดำๆใต้ท้องทะเลที่เป็นปะการังกะโหลก ปะการังอ่อนสีสันสวยๆ และปะการังเขากวางแหลมคม แต่พื้นทรายใต้ทะเลมีหอยเม่นอยู่ด้วย เห็นแล้วก็เสียวฝ่าเท้า ด้วยว่าเคยโดนจิ้มมาแล้ว ปวดจี๊ด

               ทั้งนักท่องเที่ยวและสื่อมวลชนกระโดดลงไปแหวกว่ายดำดูกันด้วยสน็อคเคิ้ลน้ำตื้น ส่วนคนที่ไม่ได้ลงไปสัมผัสก็ชอบที่จะถ่ายรูปๆ

ผจก.K&K Tour&Trade  เคนนี่ วรเชษฐ์ เล่นกับปลา

               ที่ตื่นเต้นกันมากก็เมื่อกัปตันและลูกเรือโยนขนมปังลงไปในทะเล ฝูงปลาสีเหลืองลายว่ายกันลิ่วๆมากันเป็นฝูงๆ เพื่อลิ้มชิมรสชาติขนมปังอันแสนจะนุ่มและโอชะนัก บางคนดูท่าจะชำนาญการเล่นกับปลา เขาใช้ขนมปังล่อด้วยมือหนึ่งเพื่อให้ฝูงปลาขึ้นมากินต่อหน้า ใกล้ชิดสนิทแนบแทบว่าจะจับต้องได้ ผมเห็นแล้วก็อดใจไม่ไหว กดชัดเตอร์บันทึกไว้ในไฟล์ ไม่งั้นเสียดายตายเลย

                ภาพนี้แหละจะสื่อไปถึงท่านผู้อ่านผ่านเว็บไซต์ว่า ปลากับคนนั้นอยู่ร่วมกันได้ ไม่ได้หมายว่าจะจับกินเป็นภักษาหารเสมอไป เล่นเป็นเพื่อนกันก็ได้

น้ำทะเลใสๆ ที่เกาะยูง

               เกาะยูงมีเรื่องเล่า เป็นเกาะที่มีหินปูนเป็นแท่งใหญ่โต หน้าผาสูงชัน ต้นไม้ใบหญ้าแซมแทรกขึ้นไปทั่วคล้ายๆว่าใครมาปลูกประดับไว้ ที่น่าสนใจก็ริ้วหญ้าเขียวๆเหมือนเป็นเส้นๆ ขึ้นตามหน้าผาพรางตาเหมือนม่าน แต่ขอบอก ไม่รู้จักชื่อจริงๆ 

               ระหว่างยืนชะโงกเงื้อมเอื้อมไปถ่ายรูป เจ้าหน้าที่สมาคมใจดีเดินมาแจกข้าวเหนียวปิ้งหอมกรุ่นชวนกิน จึงต้องหยุดถ่ายรูปแต่หันมาปอกเปลือกใบตองออกแล้วก็กิน "รองท้อง" กินไปได้ไม่กี่คำ ก็บ้วนทิ้งลงไปในน้ำ "ล่อให้ปลามาเป็นฝูงเพื่อถ่ายรูป" ได้ผลครับ

ปลาอะไรหนอใครรู้ช่วยต่อเติมให้ด้วย

               กัปตันมองหน้าพนักงานเรือ ๆ จึงร้องตะโกนให้บรรดานักดำน้ำขึ้นเรือเพื่อเดินทางต่อไปยังเกาะไม้ไผ่ "ต้องใช้เวลาอีก กว่า 30 นาที จะกินข้าวกลางวันบนเกาะ" พร้อมสรรพก็ออกเดินทางต่อไป นั่งมองไปทางซ้ายทีทางขวาทีเห็นเกาะไก่ลิบๆ แล้วก็ได้เห็นต้นไม้เขียวขจีอยู่ไกลๆ ชายหาดทรายขาวลอออยู่เบื้องหน้า เรือเทียบก็เดินลงไปบนผืนทรายที่เม็ดละเอียดเหมือนผงแป้ง สื่อมวลชนทุกคนใช้กล้องกันคุ้มมูลค่า ต่างคนต่างเดินไปเลือกมุมถนัด มุมสวยๆ มุมที่สื่อได้เห็นนักท่องเที่ยวหลายเชื้อชาติ กำลัง "อ้อล้อ" กันอยู่ก็มี 

มุมแรกที่เห็น หาดทรายขาว น้ำทะเลสีเขียวใสๆ นักท่องเที่ยวเพียบ

อ้ล้อกันกลางวันแสกๆ อืย เสียว

               บนเกาะไผ่ใหญ่กว่าเกาะยูง มีพื้นที่ภูเขาสูงอยู่กลางเกาะ หนาแน่นไปด้วยไม้ไผ่ จึงได้ชื่อว่าเกาะไผ่ ริมชายหาดเป็นสนทะเลใบริ้วพริ้วลม ให้ร่มเงาได้ดีแต่ผลกลมๆของลูกสนทะเล ถ้าไปเหยียบเข้า เจ็บได้ใจ ลูกเรือจึงร้องตะโกนให้ทุกคนสวมร้องเท้าลงไปด้วยก็เหตุนี้

               พื้นที่เกาะนี้มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวร้าง กระจกแตกชำรุดไม่มีมนุษย์คนใดเข้าไปใช้บริการหรืออาศัยอยู่ ห้องสุขามีฐานรองล้างเท้าในน้ำได้ ทำให้สะอาดกว่าที่คิด นอกจากนั้นยังมีการทำชิงช้าไม้แขวนไว้บริการ ศาลาโล่งๆอีก 2 หลัง ม้านั่งชายหาด และเขตดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น

นักท่องเที่ยวชื่นชอบ

               เรือทัวร์จอดชายหาดหลายสิบลำ นักท่องมีกี่ร้อยกี่พันคนไม่ทราบได้ ทุกคนเตรียมอาหารหวานคาวมาพร้อม ด้วยว่าไม่มีเอกชนคนใดบนเกาะรับสัมปทานค้าขายเลย เจ้าหน้าที่อุทยานหาดนพรัตน์ธาราปลูกเพิงเล็กๆขายอาหารตามสั่งและเครื่องดื่ม ของกินเล่น และข้างๆมีวงส้วมซ้อนกันไว้เผาขยะ เห็นควันฉุยๆ

               ได้เวลาอาหาร เจ้าหน้าที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศนำมาแจกเป็นชุดๆ มีทั้งข้าวกล่องและขนมหวาน ผลไม้หั่นมาเรียบร้อยพร้อมกิน ผมเลือกที่นั่งใกล้กลุ่มสื่อที่รู้ใจ หิวพอดี โคตรอร่อยเลย

นกกินเปรี้ยว สวย

               ระหว่างรอเวลาเพื่อเดินทางกลับ ผมได้ยินเสียงนกร้องจึงเหลียวไปตามเสียง ได้ถ่ายภาพเจ้านกกินเปรี้ยวมาอวดด้วย เจ้านกตัวนี้ชอบกินปูเปรี้ยวจึงได้ชื่อว่านกกินเปรี้ยว เป็นนกวงศ์เดียวกับพวกนกกระเต็นอกขาว นกตะขาบทุ่ง นกกระเต็นปักหลัก ฯลฯ แต่แมลงตัวเล็กๆก็กิน แม้แต่หนอนหรือตัวบุ้ง

               ผมเดินมุดไปตามใต้ร่มไม้ได้เห็นต้นไม้อีกต้นหนึ่งซึ่งล่อแหลมต่อการสูญพันธุ์ ต้นหมันทะเล ดอกสีส้ม กลีบยับย่น เป็นต้นไม้วงศ์เดียวกับต้นคอร์เดียร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ดอกเหมือนๆกัน เพียงแต่ทั่วชายหาดทะเลไทยหายไปเกลี้ยงแล้ว 

               กลับถึงฝั่ง กลับไปโรงแรมบียอน รีสอร์ทแอนด์สปา โรงแรมในเครือกะตะกรุ๊ปภูเก็ต บ่าย 15.30 น.ไปรวมตัวกันเพื่อเดินทางไปร่วมงานแถลงข่าวของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่โรงแรมมาริไทม์ โดยนายกสมาคม นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช และเลขาธิการสมาคมนายธนวัฒน์ ทองเพิ่ม  นำแถลง นอกจากนั้นยังมีสายการบินใหม่และเรือสำราญใหม่มาเปิดตัวในงานนี้อีกด้วย 

บียอน รีสอร์ทแอนด์สปา

นายกสมาคมและเลขาธิการ ร่วมแถลงข่าว

               ได้นั่งฟังการบรรยายพิเศษ "การท่องเที่ยวเมืองกระบี่กับ AEC 2015"จากวิทยากรคนดังๆหลายคนจนได้เวลาตามสมควรจึงเลิกลา   แล้วก็เดินไปชมแสงสีเสียงสวยๆ ถ่ายรูปได้งามพอสมควรจึงขอโพสท์ลงไว้ให้ได้ชมกัน

Mr.Jason Lee เรือสำราญ

กาแฟกระบี่ กาแฟดีกระบี่ทำเอง

ไข่มุกอันดามัน

 

 

โปรโมทสินค้าของเธอ

นี่ก็ขายทัวร์

ควงกระบองไฟ

                เช้าวันที่ 3 กันยายน 2555 หลังอาหารก็เป็นรายการอินสเปคโรงแรมต่างๆดังนี้คือ โรงแรมบียอน รีสอร์ทแอนด์สปา กระบี่ ทิพา รีสอร์ท  โรงแรมเชอราตัน  โรงแรมปกาสัย

                แวะรับประทานอาหารกลางวันที่ ร้านวังทราย ซีฟู๊ด ริมชายหาดนพรัตน์ธารา-อ่าวนาง อร่อย แล้วก็ไปแวะ ศรีกระบี่เพื่อซื้อหาของฝากหลากหลาย ชดโช้

ร้านศรีกระบี่

 

กุ้งมะขาม วังทรายซีฟู๊ด

                 ดึกสงัด โชว์เฟอร์ปลุกให้ตื่นไปกินข้าวต้มเครื่องที่โรงแรมเพชรชะอำ ก่อนที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร โรงแรมใหม่ริมถนนสายกรุงเทพ-ชะอำ ใหม่ สะอาด ราคาย่อมเยาว์

โรงแรมเพชรชะอำ

                ปล.ขอขอบพระคุณอาจารย์ สุระพรรณ์ แสงทอง ที่กรุณาประสานงานให้ผมได้ไปร่วมขบวนในครั้งนี้

 

 

  

 

               

 

 

 

                  

 

            

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view