http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,000,321
Page Views16,309,002
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

น้ำตกพลิ้วในสายฝน โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

น้ำตกพลิ้วในสายฝน โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

น้ำตกพลิ้วในสายฝน

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

               ว่ากันว่าถ้าไปเที่ยวน้ำตกต้องไปในหน้าฝนหรือหลังฝนชนหนาว เพราะว่าน้ำจะเยอะ สวยกว่ายามหน้าแล้ง แค่นั้นหรือ คำตอบคือถูกต้องแล้วคร๊าบ แต่สำหรับผมแล้ว ชอบไปในหน้าฝนด้วยว่ามีความงดงามแฝงเร้นอยู่ทุกอนูแห่งขุนเขา

บ้านพักรับรอง

               ผมตัดสินใจส่งคำขอผ่านไปทางเฟสบุ๊กถึงเจ้าหน้าที่ของน้ำตกพลิ้วชื่อคุณ สิริกร พงษ์ศรี  แต่ในเฟสใช้ชื่อว่านิมนต์ ยิ้ม แฮะๆ หลายสมญานาม เธอจองบ้านพักไว้ให้ถึง 2 คืน ขอขอบคุณที่เปิดโอกาสให้ได้ภาพแล้วนำมาเล่าสู่กันอ่าน

               อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ไฮไลท์อยู่ที่น้ำตกพลิ้วและปลาพลวง นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศประเภทไปเที่ยววันเดียวกลับ ชื่นชอบเหมือนๆกัน เมื่อเข้าไปในเขตอุทยานฯสิ่งที่ทำคือซื้อถั่วฝักยาวเพื่อเลี้ยงปลาในลำธาร

 

ปลาพลวงกับเด็กๆ

ปลาชนิดนี้พบตามน้ำตกทั่วไป

               ฝูงปลาพลวงดูเหมือนว่าจะมีปริมาณมากขึ้น ขนาดตัวก็ใหญ่ขึ้น ว่ายกันไปในทางเดียวกันคือว่ายทวนกระแสน้ำไหล ส่ายเอวยักไหล่ไปทั่วทุกตัวตน ในท้องน้ำยังเป็นเด็กๆและเยาวชนให้ถั่วกับปลา เสียงหัวเราะด้วยความชอบใจ  รอยยิ้มยังเปื้อนหน้าไปทุกผู้

คราบไคลเขียวขจี

               แต่สำหรับผมและคณะมาพักค้างแรมคืน ชอบมากที่อากาศเย็นสบายจนไม่ต้องเปิดพัดลมช่วย ค่ำคืนที่เย็นระรื่นได้ยินเสียงหรื่งหรีดเรไรขับขาน ชงน้ำขิงที่พกพามาด้วยแล้วก็นั่งเสวนากันไปตามประสา อ่านหนังสือบ้าง นั่งสมาธิบ้าง

 

                ผีเสื้อราตรี(กลางคืน)โบยบินไปเกาะตามผนังห้อง ผนังห้องและเพดานที่กรุด้วยไม้ไผ่สาน ลวดลายของปีกผีเสื้อก็เลยมองดูคล้ายๆกัน อันอาจเป็นการอำพรางกายให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม

           

รอยยิ้มจากนักท่องเที่ยวบ่งบอก

                การพักผ่อนคือ การทัศนศึกษาหาธรรมชาติสวยงามชม ซื้อหาของกินถูกปากถูกหลักอนามัย แล้วก็มาหลับนอนในที่สงบ อากาศดีๆ ซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติ คืนนั้นที่น้ำตกพลิ้ว ผมมองจากสีหน้าของแต่ละคน "บ่งบอกความพึงพอใจ" ชดโช้

ต้นไม้ในป่าดงดิบ

               โดยไม่ได้นัดหมายเวลาตื่นอย่างที่ทัวร์ทำ ผมตื่นก่อนก็เดินไปตามทางเล็กๆในผืนป่าที่ไต่ไปตามสันเขา เจอต้นไม้ใหญ่ๆสูงตระหง่านแหงนมองจนคอตั้งบ่า บนต้นไม้ประดับด้วยไม้ป่าอิงอาศัยจำพวกเฟิร์นเขากวางบ้าง เฟิร์นชนิดอื่นๆบ้าง ต่ำลงมามีไม้ป่าอิงอาศัยอีกหลายชนิดไต่ตาม

 

เฟิร์นสวยบนยอดไม้แต่ไม่รู้จักชื่อ

ไม้เลื้อยที่ไต่ตามนี่ก็ไม่รู้ชื่อจ้ะ

                นี่คือป่าดงดิบที่มีความชุ่มชื้นหรอกครับจึงมีภาพเช่นนี้ให้ได้เห็น ผมเดินเลยขึ้นไปจนถึงลานกางเต็นท์ของอุทยานฯ   ที่นั่นมีพื้นที่โล่งๆ มีศาลาแปดเหลี่ยมไว้หลบฝน ทิวทัศน์ที่กว้างไกลสุดสายตา ป่าที่เขียวขจี ผมได้ยินเสียงนกร้องแต่กลับมองหาไม่เห็นตัว

ค่ายเยาวชนและลานกางเต็นท์

             

               

แปลกไหม สวยไหม แต่ไม่รู้จักชื่อจ้ะ

                  แต่ต่ำลงมา มีไม้อิงอาศัยอีกชนิดแปลกตา ธรรมชาติบันดาลให้มากมายหลายสิ่ง ถ้ามีการศึกษาวิจัยและจดจารคงทำให้การท่องเที่ยวในป่าได้ทั้งความสวยงาม ความเพลิดเพลิน ความแข็งแรงทางกาย และความรู้เกี่ยวกับชนิดพันธุ์พืชและสัตว์ ใหญ่น้อย  

                 ผมเดินสูดอากาศเหนือผืนป่าจนฉ่ำปอดจึงมีคณะมาร่วมด้วย เราเดินกันไปตามทางเพื่อไปที่เส้นทางน้ำตก ได้พบว่าสองข้างทางมีความสวยงามด้วยพันธุ์ไม้ประดับจากธรรมชาติ มอสเฟิร์นเขียวใสไปทั่ว แทรกซ้อนด้วยเฟิร์นใบย่อยๆหลายชนิด พืชเลื้อยไต่ไปตามผนังดินแปลกตา       ต้นกล้าไม้ป่างอกด้วยความชื้นพอเพียง สองข้างทางไม่แห้งแล้งอย่างหน้าแล้งขาดสายฝนโปรย

ผนังดินก็ยังมีพันธุ์พืชให้เห็น ดูดิ

                 ก่อนเลี้ยวขึ้นไปตามเนินสูงมีต้นพลิ้วปลูกไว้ใกล้ป้ายสื่อความหมาย บอกว่าเป็นต้นพลิ้ว ได้เห็นเพียงเครือขนาดใหญ่และใบเขียวๆ ส่วนดอกพลิ้วหอมๆนั้นต้องรอจนถึงฤดูแล้งร้อน

ธรรมชาติบันดาลให้

                 ภายใต้ร่มเงาแมกไม้ มีความชุ่มชื้นค่อนข้างสูง เมล็ดลิ้นมังกรดอกสีส้มอมแดงโผล่ขึ้นแล้วก็แตกดอกออกมาอวด ตรงไหนชื้นแฉะตรงนั้นเขาก็ออก ตามหินตามผาตามซอกแซกแง่หินคละเคล้าไปกับมอสเขียวๆ

บิโกเนีย แม้ดอกไม่สวยแต่น่ารักอะ

                 ที่อัศจรรย์ก็เจ้าต้นลิ้นมังกรขึ้นอยู่กลางต้นเฟิร์น เหมือนประดับประดาให้แปลกตา แต่แต่งแต้มไม่ได้อย่างต้องการ เขาพอใจจะขึ้นตรงไหนก็ขึ้นตรงนั้น ดอกลิ้นมังกรยามฝนโปรยปรายจึงเป็นพระเอกที่อวดโฉม เจ้าหน้าที่เล่าว่า หลังดอกจะเป็นฝักเล็กๆ แก่แล้วก็ร่วงหล่นไปตามพื้น อีกปีหนึ่งก็จะงอกขึ้นมาอีกเมื่อฝนมา แล้วก็ออกดอกให้ได้ชมทุกปีไป

      

                 ส่วนตัวผมกลับคิด ถ้าเก็บเมล็ดลิ้นมังกรแล้วหว่านไปทั่วๆให้หนาแน่น จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อถึงฝนหน้า ดอกไม้ป่าชนิดนี้จะงอกและอวดดอกสวยสีส้มหนาตา ขึ้นเป็นผืนกว้างๆ มองเห็นได้เหมือนปลูกประดับ และเมื่อพ้นอีกฤดู เขาก็จะผลิตเมล็ดโปรยปรายลงไปอีกครั้ง นับจากนั้นจะมีแปลงดอกลิ้นมังกรตลอดไป  อาจกระจายไปกว้างมากขึ้นจากลมหรือมนุษย์ช่วย โดยไม่ต้องเพาะกล้าดอกไม้แต่อย่างใด

ต้นลิ้นมังกร

 

                  ผมเห็นเจ้าต้นลิ้นมังกรขึ้นได้ดอกสวยแม้บนหลังคาห้องสุขาริมทางที่มีความชุ่มชื้นพอเพียง อัศจรรย์

ขึ้นบนหลังคาห้องสุขาเก่า

                  สิ่งที่ไม่ได้เห็นอย่างแน่นอนคือเจ้ากิ้งก่ายักษ์ เพราะว่าฝนโปรย อากาศชื้น แต่ถ้าแดดจ้าฟ้าโปร่งอุณหภูมิร้อนระอุ เมื่อนั้นแหละเขาถึงจะออกมาอวดโฉม "อาบแดด"

ลอองน้ำที่ฟุ้งกระจายออกมาจากหุบเขา

 

                  ที่น้ำตก ผมไต่บันไดหินที่ทางอุทยานฯทำไว้ดีมาก ปลอดภัยไม่ลื่น และมีราวหินแข็งแรงให้เกาะเดิน ข้ามห้วยบนสะพานหินกลับได้เห็นหมอกไอจากน้ำตกฟุ้งกระจายไปทั่ว ชุ่มชื้นจนห่วงว่ากล้องอิเลคตรอนิค(ดิจิตอล)จะเกิดปัญหา แต่ก็โอเค ถ่ายรูปได้

                 เหนือโขดหินกลางน้ำตกมีสายน้ำที่ไหลลงมาแรง แรงกระแทกของน้ำดังสาดซ่า ละอองน้ำฟุ้งไปทั่วหุบเขา แสงแดดส่องผ่านลงมา ทำให้เห็นภาพละอองน้ำไหลวนขึ้นๆลงๆ แอ่งใต้น้ำตกลึกมากมีทุ่นกั้นไม่ให้ล

งไปเล่นน้ำตก ก็อย่าฝืน

                 ใต้แอ่งน้ำตก ปลาพลวงยังหนาตา ฝรั่งจ้องมองด้วยความตื่นเต้น เอะ หรือว่าอยากกิน ฮา ผมก็ไม่แน่ใจเพราะว่าไม่ได้ไปถามเขาว่ารู้สึกกับปลาพลวงอย่างไร

                 ผมเสียดายมากก็ตรงที่โขดหินบดบังสายน้ำตก ได้ภาพมาเพียงเท่าที่เห็น ครั้นจะลุยน้ำไปหามุมก็ไม่แน่ใจว่าจะอันตรายไหม จึงได้แต่นึกว่า ถ้ามีการจัดการด้วยการสร้างบอร์ดวอล์ค(Broadwalk)โอบหินไปอีกเพียงนิดเดียว ก็จะถ่ายรูปได้น้ำตกสุดสวยทันที

                 การจัดการอุทยานแห่งชาติสากลอนุญาติให้สร้างเสริมด้วยสิ่งก่อสร้างได้เพื่อปกป้องทรัพยากรท่องเที่ยวมิให้เสียหาย หรือเสริมให้ได้ความสมบูรณ์ของการท่องเที่ยวและนันทนาการ อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ

                 ผมเดินกลับจากถ่ายรูปเหลียวไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียวสดใสไปทั้งนั้น มีพันธุ์พืชในถิ่นกำเนิดมากมายหลายร้อยพันธุ์ชนิดเกิดเอง สวยอยู่แล้ว ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ประเภทอุทยานแห่งชาตินั้น เจตนารมณ์หนึ่งคือ การอนุรักษ์พันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์ป่าเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมไว้

ไม่รู้ว่าไม้เลือยต้นนี้เป็นพันธุ์ไทยหรือพันธุ์เทศ

                 นั่นหมายความว่าป่าผืนนี้เคยมีและเกิดพันธุ์ไม้ชนิดใดก็ปล่อยให้มันคงอยู่อย่างนั้น เพื่อสำแดงว่า ป่าดงดิบพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วมีพืชพันธุ์(ไม้ยืนต้น พืชชั้นล่าง)และสัตว์ป่า(สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม,สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ,นก,สัตว์น้ำต่างๆ) อยู่อย่างใดก็รักษาให้มีอยู่อย่างนั้น เพื่อผลในทางวิชาการป่าไม้และการอุทยานแห่งชาติ

               ถ้านำพืชพันธุ์และสัตว์ป่าใดๆเข้ามาปลูกและปล่อยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ผืนนี้ วันหนึ่งอาจจะขยายเผ่าพันธุ์ออกไปจนเกิดความสับสนว่า เป็นพันธุ์์พืชและพันธุ์สัตว์ป่า เช่นเดียวกับพันธุ์ไม้ดั้งเดิมหรือไม่

ไม้ต่างถิ่น อกาเว,โกสน,ขิงแดง,ฯลฯ เข้ามาผิดที่ไหม 

               เพราะว่าพืชพันธุ์บางชนิดขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและเหง้าได้กว้างขวาง อันตรายๆ หรือเช่นเอาไก่แจ้เลี้ยงปล่อยไปผสมกับไก่ป่า วันหนึ่งเผ่าพันธุ์ไก่ป่าก็อาจจะแปรเปลี่ยนไป ในทางวิชาการถือว่าไม่ดี

               ท่านล่ะคิดอย่างไร

คล้าพันธุ์ไม้ในป่าไทย ปลูกประดับได้เลย

               

 

 

 

              

               

              

Tags : กระบี่แสนงาม

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view