สงขลา ฝั่งนที
ตอน2.ถนนนางงาม เรือนเก่าเก๋ๆเสน่ห์แรง
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ท่องทะเลด้วยเรือของเทศบาลนครสงขลาไปแล้ว คราวนี้ได้นั่งรถลากเที่ยวรอบๆเมืองสงขลาพร้อมผู้นำเที่ยวที่เรียกกันว่าไกด์ หรือมัคคุเทศก์ หนึ่งหญิงหนึ่งชาย เป็นการแนะนำว่าเมืองนี้มีสถานที่ใดบ้างที่มีความสำคัญๆ มีชื่อเสียงด้านใดๆ ช่วยให้คนที่ไม่เคยเข้ามาเมืองสงขลาได้รู้จักพอสังเขป แต่น่าเสียดายมากคือไม่มีโอกาสลงไปสัมผัสจริงอย่างมากับทัวร์ ก็เลยทำให้เกิดความอยากจนได้เรื่อง ต้องไปกันอีกครั้งอย่างที่ได้รู้ข้อมูลมาคร่าวๆ เช่น ต้องไปเดินแถวถนนนางงามยังไง่เล่า 555
รถลากของเทศบาลนครสงขลาพร้อมมัคคุเทศก์
ตอนที่แล้วได้เล่าถึงเรื่องอดีตแต่เก่าก่อนของเมืองสงขลา คราวนี้จึงขอต่อยอดออกไปอีกว่า พื้นที่รอบๆทะเลสาบสงขลานั้นมีถนนเก่าแก่ที่เป็นย่านการค้าในอดีต และเป็นท่าเรือเทียบสินค้าทั้งขาขึ้นและขาล่อง ได้แก่ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนเก้าห้อง ตึกรามบ้านช่องสร้างกันด้วยฝีมือช่างมีระดับ เช่นถนนสายนครนอกและถนนสายนครในจะเป็นตึกสไตล์ชิโนโปรตุกีส เน้นความสวยงามของตัวตึกตามรูปแบบของช่าง ลวดลายปูนปั้นจึงวิจิตรพิศดารไม่น้อยหน้าไปกว่าที่จังหวัดภูเก็ต ถ่ายรูปไม่ทันรถวิ่งเร็วไป
จุดเด่นถนนที่มีบ้านเรือนเก่าๆจึงขอเสนอเพียงถนนนางงามครับ เดิมถนนนี้ชื่อถนนเก้าห้อง ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อถนนนางงาม ซึ่งจะเล่าในเบื้องหน้า
บนถนนนางงามนี้ผมเดินชมไปทีละร้านบ้านทีละหลัง แต่มีบ้านเรือนเก่าๆสวยๆอีกหลายหลังปิด ชำรุดมาก น่าเสียดายจัง อย่างไรก็ดี แม้มีเพียงบางส่วนก็มีเรืองราวมาเล่าสู่กันอ่านได้อยู่แหละ
ผมเดินไปช้ากว่าคนอื่นๆก็เพราะว่าผมถ่ายรูปและซักถามชาวบ้านร้านค้าไปด้วย
ร้านแรกที่ผมสนใจเป็นร้านขายขนมแปลกๆ เก่าๆ ที่เคยกินเมื่อตอนเด็กๆ แต่ทุกวันนี้ยัง "หลง" เหลือให้ได้เห็น นั่นคือ ขนมขี้มอด ขนมมอหลาว ขนมสัมปันนี ฯลฯ
แม่ค้านั่งเล่นกับแมวอยู่ เธอแต่งหน้าแต่งตัวอย่างสตรี เสียงที่เธอตอบเรื่องราคาบอกว่าเธอเป็นชายหรือหญิงประเภทสอง ในร้านของเธอเรียบๆไม่มีอะไรหวือหวา เป็นเหมือนบ้านที่เปิดขายของแก้เหงาหรือทำอะไรสักอย่างเพื่อยังชีพ แต่น่าจะไม่พอกิน มีของขายน้อยไปนิด
ผมเดินไปเรื่อยๆ ร้านไหนที่เห็นว่ามีลูกค้าแน่นก็ได้แต่ชะโงกไปดูว่าขายอะไรกันหรือถึงมีลูกค้ามากนัก เป็นร้านดังที่มีของขายมากมายหลายอย่าง หาซื้อเป็นของฝากได้ อย่างนี้ขายแล้วเหลือกิน
แต่ที่ผมติดใจมากก็คือร้านกาแฟโบราณ แต่งแต้มร้านตามแบบร้านเดิม โต๊ะกลมหินอ่อนและไม้ ชายสูงวัยคนหนึ่งนั่งดื่มกาแฟด้วยรอยยิ้ม สบายๆ ถูกใจผมมากก็ด้วยว่าน่าจะอาวุโสกว่าผม แต่เขาคนท้องถิ่นนั่งกินได้นานๆ ผมเองเห็นแล้วยังอยากจะนั่งดื่มกาแฟร้อนสักแก้ว แม่บ้านเจ้าของร้านขายซาละเปาลูกใหญ่ๆ ตั้งอยู่ในซึ้งนึ่งควันฉุยๆ หอมน่ากิน กาแฟกับซาละเปา ท่าจะเข้ากันได้ดี ผมเดินถ่ายรูปไปรอบร้าน ตู้วางของขายแบบเก่า มีของที่ตั้งไว้โชว์ประดับร้านไปแล้ว ไม่ได้ขาย แต่รักษาภาพเดิมที่เคยเป็น
ตั้งฮั่วกิม
หน้าร้านเป็นตู้กระจกทรงสูง ตั้งและแขวนด้วยตะเกียงเก่า กล้องถ่ายรูป ขวด โถ เป็นของเก่าที่นักสะสมทั่วไปนิยมกัน ผมก็เลยถามเจ้าของร้านว่า ถ้ามีคนมาขอซื้อจะขายไหม ได้รับคำตอบว่า
"ไม่ขายหรอก หากขายไปแล้วผมต้องไปหาซื้อมาใหม่ ก็จะต้องซื้อแพงกว่าเดิมขึ้นไปอีก ยังไงก็ไม่ขายเหมือนกับสินค้าตัวอื่นๆที่อยู่ในตู้นั่นก็หาไม่ได้อีกแล้ว เพราะว่าเลิกผลิต"
ด้านอื่นของร้านตั้งตู้ขายของแบบเดิม มีรูปเก่าๆ น่าจะเป็นพ่อเจ้าของร้านแขวนไว้ ทุกสิ่งที่เห็นมีอายุ แต่ละมุมที่วางอวด เขาทำได้สวยงามและน่าเข้าไปนั่งชม เป็นมิติหนึ่งของถนนนางงามสายเก่าแก่
ผมซื้อโอยั๊วแก้วหนึ่ง เพื่อระลึกถึงร้านกาแฟโบราณขนานแท้ เจ้าของร้านพยักหน้าแล้วก็ไปชงมาให้ แต่ผมต้องรีบจรจึงต้องใส่แก้วกระดาษ หมดรสชาติไปเยอะเลย เพราะว่าจะสั่งโอวยั๊วแก้วหนึ่งต้องมีช้อนหนึ่งคัน การคนด้วยช้อนคันนี้จะได้ยินเสียงช้อนกระทบข้างแก้วดังกริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ได้อารมณ์กาแฟชื่อโอวยั๊วจริงๆ ผมหันไปขอซื้อซาละเปาลูกใหญ่อีกหนึ่งลูก ได้ของแล้วก็รีบเผ่นไปเข้ากลุ่ม ช้าจะตกรถ แต่อย่างไรก็ดี ระหว่างที่เดินไปแบบรีบๆผมก็ยังได้รูปมาฝากอีกหลายรูป
ภาพเถ้าแก่คนพ่อ นาฬิการุ่นติดฝาผนัง
เรื่องราวบนถนนนางงามคงจะสิ้นสุดเพียงนี้ แต่ไม่ใช่เลย เมื่อขึ้นนั่งรถลาก ไกด์เล่าต่อว่า ที่ได้ชื่อว่าถนนนางงามก็เพราะว่า เมื่อปีพ.ศ.2475 รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม ให้มีการประกวดนางสาวไทยขึ้นที่กรุงเทพ ต่อมาปีพ.ษ.2478 จังหวัดสงขลาอนุวัติตามด้วยการประกวดนางงามสงขลา คุณนงเยาว์ บุญยศิวะ บุตรสาวนายฮ่อง นางหั้ว บุญยศิวะ เข้าประกวด แล้วได้รับเลือกเป็นนางงามคนแรกของจังหวัดสงขลา ต่อมาสมรสกับครูสหัส(ถ่อง) โพธิสาร ผู้คนในถนนเก้าห้องจึงให้เกียรติแก่คุณนงเยาว์แล้วเรียกชื่อถนนี้ว่า "ถนนนางงาม" ตราบทุกวันนี้
ต่อมาคุณกมลทิพย์ สุดลาภา ภรรยาคุณเชาวนวัศ สุดลาภา อดีตผู้ว่าราชการหลายจังหวัด เกิดและเติบโตที่ถนนนางงามนี้ก็ได้ประกวดนางงามสงขลาเช่นกัน แล้วก็ได้เป็ฌนนางงามคนถัดมา เป็นอันว่าถนนนี้มีนางงามถึงสองคนเลยทีเดียว
ฝนโปรยไล่หลังมาเบาๆ รถลากวิ่งเลื้อยไปตามถนนต่างๆรอบเมืองสงขลา แล้วก็สิ้นสุดการแนะนำเมืองสงขลาแต่เพียงนี้ ในรายละเอียดผมต้องไปเดินหาที่ทำงานต่อเพื่อให้ได้เรื่องราวสวยๆงามๆมาฝากเพื่อนๆ เป็นหน้าที่ไปเสียแล้ว
ผมพยายามค้นหารูปคุณนงเยาว์ โพธิสาร จากอินเตอร์เน็ต แต่ก็ไม่มีเลย แม้แต่คุณกมลทิพย์ สุดลาภา ผมก็หาไม่ได้ อยากใส่ลงไปในเรื่องนี้ หากใครมีอยู่ ผมอยากลงไว้เพื่อเป็นเกียรติยศแด่คุณพี่ทั้งสอง ส่งรูปมาให้ผมได้ที่ thongchai_paoin@hotmail.com กี่รูปก็ได้