อัศจรรย์ หมอคนไปช่วยหมอสัตว์ เพื่อผ่าตัดนิ่วในช้าง
ที่ม.เกษตร อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ผมติดตามนพ.สุวิทย์ เกียรติเสวี นักเขียน มองสุขภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม ในนสพ.เดลินิวส์มานาน กระทั่งท่านชวนผมเข้าป่าสลักพระไปชมผลงานศึกษาและวิจัยสัตว์ป่าของ ผศ.น.สพ.ดร.นิกร ทองทิพย์ วิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลายปีมาแล้ว ยังประทับใจอยู่
คราวนี้ นพ.สุวิทย์ ส่งอีเมลมาให้อ่าน บอกว่าจะไปวิทยาเขตกำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อไปติดตามผลการผ่าตัด "นิ่วช้าง" ของน.สพ.ดร.นิกร ทองทิพย์ ผมติดตามหมอคนและหมอสัตว์ศาสตร์สองคนนี้มาแล้วจึงสนใจ
เดินฝ่าเปลวแดดไปจนถึงโรงพยาบาลช้างในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร้อนแดดนั้นไม่เท่าร้อนใจที่หาโรงช้างไม่เจอ กลัวไม่ได้เห็นความอัศจรรย์ นี่ซิ
งวงคือมือช้าง
แต่ไปคราวนี้ไม่ไปเปล่าซิครับ คุณหมอนักเขียนได้ชวนคณะแพทย์จากโรงพยาบาลราชวิถี อันประกอบด้วย นพ.สุกิจ พันธ์พิมานมาศ นพ.ทวี รัตนชูเอก และนพ.จีรศักดิ์ วรรณประเสริฐ ท่านเป็นแพทย์เชี่ยวชาญทางส่องกล้อง ที่มีบทบาทสำคัญครั้งนี้
พังคำมูลกินหยวกกล้วย เขากินเฉพาะส่วนอ่อนๆ
และยังได้ประสานงานกับบริษัทสุวรรณภูมิโมชั่นพิคเจอร์จำกัด อันมีคุณ สรธนพ ดวงจันทร์ เป็นเจ้าของ โดยให้โจทย์ไปว่า เครื่องมือผ่าตัดนิ่วในคนนั้นใช้งานได้ผลสำเร็จด้วยดี แต่เครื่องมันเล็ก จะสามารถดัดแปลงให้ใหญ่ขนาดไปใช้กับช้างได้ไหม รักษาโรคนิ่วเหมือนกัน ซึ่งก็สามารถทำได้ มูลค่าอุปกรณ์ดังกล่าวนี้ราวๆ 5 ล้านบาท
สับปะรดอาหารช้าง
ความเดิม ช้างพังคำมูล อายุ 48 ปี เป็นช้างของดร.ศุภลักษณ์ โกมารกุล โดยมีคุณ อลงกต ชูแก้ว เป็นผู้จัดการใช้ช้างรักษาคนไข้ออทิสติกอยู่ที่อำเภอปากช่อง ช่วงตีนเขาใหญ่ติดกับปาลิโอ
เกิดป่วยด้วยอาการฉี่ไม่ออก หงุดหงิด อารมณ์เสีย อยู่ไม่สุข ท่าจะไม่มีความสุขนัก จึงได้ส่งมาให้ ผศ.น.สพ.ดร.นิกร ทองทิพย์ ที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ตรวจรักษา
ผศ.นสพ.ดร.นิกร ทองทิพย์และคณะ
ตรวจแล้ว วันที่ 15 กันยายน 2555 ผศ.น.สพ.ดร.นิกร ทองทิพย์ จึงได้ทำการวางยาสลบแบบเฉพาะที่ให้กับพังคำมูล แล้วผ่าตัดสดทางก้นใกล้ๆช่วงหาง ใช้มือควักเอานิ่วในไตออกมาได้ทั้งหมด 162 ก้อน น้ำหนัก 8 กิโลกรัม มีตั้งแต่ก้อนเล็กๆไปจนถึงก้อนเท่ากำปั้นทีเดียว
พังคำมูลต้องAdmit เข้าที่โรงพยาบาลช้างเพื่อสังเกตุอาการต่อไป เป็น"ช้างไข้ใน"
คนขวาท่านคือ นพ.สุวิทย์ เกียรติเสวี ผู้ประสานความคิดจนเกิดผล
ตัดตอนไปที่ฉากสำคัญเมื่อคณะแพทย์คนได้เดินทางมาพร้อมเครื่องมือผ่าตัดรักษานิ่วในไต คณะแพทย์สัตว์ เอ้ย นายสัตวแพทย์ประจำ รพ.ช้างรอรับอยู่ บัดดลนั้นได้ยินเสียงขันที ไม่ใช่ซิ "ควาญช้าง"พังคำมูลร้องตะโกนมาแต่ไกลว่า
"ช้างไข้ใน มาแล้ว" พร้อมกับเดินนำหน้าผู้ป่วยซึ่งตัวใหญ่โตมโหฬารขนาดนับพันๆกิโลกรัม อลังการงานนี้เลย เมื่อเดินเข้าที่พะเนียด เธอถุกควาญช้างมัดด้วยเชือกที่เท้าสองเท้า เพื่อตรึงให้เธอนิ่งหากต้องเจ็บจากแผล
ช้างไข้ในมาแล้ว
เครื่องมือแพทย์ชนิดส่องกล้องติดตั้งพร้อมจอโปรเจคเตอร์ น.สพ.นิกรใช้แอลกอฮออล์เช็ดแผลซึ่งยังไม่ได้ปิดและเย็บ พังคำมูลคงจะเจ็บแสบแผลที่ถูกเช็ด เธอบิดตัวยกขาเบี่ยงเหมือนอยากจะหลีก แต่เท้าที่มัดติดพะเนียดไว้ทำให้เธอต้องส่ายงวงไปมา เด็กน่ารักที่มาจากปากช่องสองคนก็ให้อาหารช้างอันได้แก่ ข้าวโพดไม่ปอกเปลือก สับปะรดทั้งลูก ป้อนให้กินจนเพลินลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะหนึ่ง
ผศ.น.สพ.ดร.นิกร ทองทิพย์ เช็ดแผลให้พังคำมูล
คณะแพทย์รักษา"คน"จากทีมโรงพยาบาลราชวิถีได้ใช้ กล้องส่องและควักนิ่ว สอดเข้าไปในรอยแผลเก่า จนถึงปากหมวกไต ได้เห็นว่าปราศจากเม็ดนิ่วในไตแล้ว การผ่าตัดคราวที่แล้วได้แก้โรคนิ่วให้สมบูรณ์แล้ว
สอดใส่เครื่องมือเข้าไปยังไตช้าง จนเห็นว่าไม่มีนิ่วเหลือแล้ว
แต่ภาพที่ผมได้เห็นคือ ความพยายามของทั้งแพทย์คนและแพทย์สัตว์ ช่วยกันจนทำให้นักวิทยาศาสตร์เยี่ยงบริษัทสุวรรณภูมิ ด้วยไหวพริบและปฏิพานเกิดอาการฉุกคิดตามแบบของนักวิทยาศาสตร์ ทำให้เกิดการสรรค์สร้างเครื่องมือแพทย์เพื่อช้างได้สำเร็จ เป็นนวัตกรรมที่สมควรได้รับการยกย่องและสรรเสริญยิ่ง
นักศึกษาจากประเทศมาเลเซียสนใจ
หลังจากนั้น ได้มีการแสดงให้เห็นเครื่องมือที่ดัดแปลงมาจากเครื่องมือผ่าตัดนิ่วในไตของมนุษย์ เพื่อใช้ใน "ช้าง" ทดลองกวาดเก็บก้อนนิ่วให้ชมนอกท้องช้าง
อีกไม่นานเมื่อแผลปิดสนิท พังคำมูลจะได้กลับไปปากช่องเพื่อเป็น "ครูใหญ่"ให้กับเด็กๆที่พิการด้วยโรคออทิสติกอีกครั้ง
คณะแพทย์คนและแพทย์ช้าง
เรื่องดีๆจบลงด้วยดีมีความสุขที่ได้ช่วยช้าง ได้พัฒนาเครื่องมือแพทย์จากของคนมาเป็นของช้าง ได้รู้ว่าทั้งคนและช้างก็เป็นโรคนิ่วในไตจนฉี่ไม่ออกได้เหมือนกัน
นพ.สุกิจพันธ์พิมานมาศ จากรพ.ราชวิถี กทม.และคุณอลงกต ชูแก้ว
ให้กำลังใจพังคำมูลจนเผลอลืมเจ็บแสบ
ได้ความรู้มาป้อนเพิ่มใน www.thongthailand.com ที่แปลกแตกต่างไปจากหน้าต่างสัตว์โลกน่ารัก,นก มาเป็นเรื่องของช้าง ช้าง ช้าง น้องเคยเห็นช้างหรือเปล่า 5555
ขอขอบพระคุณ นพ.สุวิทย์ เกียรติเสวี นายแพทย์นักเขียน นักคิดและนักประสานความคิดที่แสดงให้เห็นว่าท่านมิใช่เพียงเป็นเพียงนั้น แต่ท่านเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ก่อกำเนิดนวัตกรรมทางการรักษาช้างได้อีกมิติหนึ่ง ซึ่งควรปรบมือให้อย่างยิ่งยวด ท่านเป็นผู้ให้ที่ควรรู้ว่าสิ่งที่ท่านให้นั้นเกิดประโยชน์ต่อสาธารณประโยชน์ ด้วยบุญบารมีครั้งนี้ ท่านจะมีอายุยืนนานกว่า 90 ปีแน่ๆ สาธุ สาธุ
ก้อนนิ่ว 162 ก้อน 8 กก.จากพังคำมูล