http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,006,746
Page Views16,315,772
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

"เขตทหารห้ามเข้า" ตะลุยข้ามรั้วลวดหนาม เข้าไปเที่ยวซะเลย โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

"เขตทหารห้ามเข้า" ตะลุยข้ามรั้วลวดหนาม เข้าไปเที่ยวซะเลย โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

"เขตทหารห้ามเข้า"

ตะลุยข้ามรั้วลวดหนาม เข้าไปเที่ยวซะเลย

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

เพราะคำว่า เขตทหารห้ามเข้า ในนิยามของทหาร เพราะมีอาวุธยุทโธปกรณ์มากมายที่อาจเป็นภัยหากใครก็สามารถสอดรู้สอดเห็นได้ จึงต้องหวง แต่ในความรู้สึกของประชาชนคนตาดำๆ เขาหวงก็อย่าไปเข้า ในรั้วทหารจึงไม่มีใครเข้าไปยุ่มย่ามได้ ก็แค่ยามประกอบอาวุธปืนยืนอยู่ก็กลัวกันแล้วจ้า

พลตรี ปวริศ แจ่มสว่าง


ทหารยุคใหม่วิสัยทัศน์กว้างไกลกว่า เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวซะเลย จะได้ให้ประชาชนคนตาดำๆรู้ว่า ไม่น่ากลัวและมีเรื่องราวน่ารู้ รู้แล้วจะได้เข้าใจได้ว่า หทาหาญที่แท้จริงนั้นเขาทำอะไรกันอยู่หรือ

ปีพ.ศ.2507 ผมนั่งเรือแดงมาขึ้นฝั่งท่าเตียน แล้วนั่งรถเมล์มาพักแรมแถวเทเวศน์ซอย 3 ทะลุซอยนายบัญญัติ เพื่อมาเรียนหนังสือที่อำนวยศิลป์พระนคร จนจบมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ชอบไปเดินเล่นมากก็แถวถนนราชดำเนิน ตอนค่ำๆ เห็นเขตทหารมีทหารยืนระวังตรงพร้อมปืนก็กลัวๆไม่กล้าเข้าใกล้ เช่นโรงเรียนนายร้อย จปร.ถนนราชดำเนิน ค่ายทหารที่สี่เสาเทเวศน์ สโมสรกองทัพบก สนามเสือป่า ฯลฯ ไม่เคยได้กร้ำกราย ทั้งๆที่ญาติพี่น้องเรียนจบและเรียนอยู่ จปร.เพียบ

โตกอาหารของพี่น้องไทยทรงดำ

พอดีปีพ.ศ.2555 บริษัท พรีม่าสยามเทรเวล จำกัด ชวน จึงได้โอกาสว่าจะไปท่องเที่ยวในเขตทหารแค่นั้น ผมรีบเสนอตัวมั่วเข้าไปด้วยเลย โดยมีรายการนำเที่ยวเกี่ยวก้อยไปกับของภาคเอกชนคนทั่วไป อพ้นเขตกรุงเทพก็พาไปยังหมู่บ้านไทยทรงดำ เรียกว่าบ้านสะแกราย ตำบลดอนยายหอม อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เรียงลำดับการนำชมดังนี้

ศูนย์เรียนรู้ภูมิปัญญาไทยปิยะชนก www.Piyachanok.com โทร.081-8583754 ที่นี่ได้รู้ว่าจากภูมิปัญญาของชาวไทยทรงดำหรือลาวโซ่ง เช่นเครื่องหอมไทดำจำพวก แป้งพวง แป้งขมิ้น ขี้ผึ้งกะทิ น้ำปรุง เทียนอบขนม ได้เห็นวิถีชีวิตเรียบง่ายพึ่งพาตนเองได้ในสวนผลไม้ร่มรื่น ได้รับประทานอาหารพื้นบ้านตามวัฒนธรรมการกินอาหารของพี่น้องไทยทรงดำ ได้รู้ว่า โตกไทยทรงดำเป็นอย่างไร อิ่มหนำสำราญกับอาหารและบรรยากาศบ้านกลางสวนแล้วก็เดินทางต่อไป อ้อ 09.00-17.00 น.เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน  หลังอาหารได้เดินออกกำลังไปยังวัดสะแกราย ชมบ้านไทยทรงดำตามรูปแบบและลักษณ์ดั้งเดิม ปัจจุบันบ้านหลังนี้กลายเป็นเวทีเสวนาของกลุ่มผู้ชายไทยทรงดำ หญิงห้ามเข้า ฮา

ขอกุด คล้ายๆกาแล แต่จำลองมาจากเขาควาย

ผ้าฝ้ายทอมือยังทอกันอยู่ตามวัฒนธรรมการแต่งกายไทยทรงดำ

เฉียงบ้านไทยทรงดำเป็นกลุ่มทอผ้าอัตลักษณ์ไทยทรงดำ มีการทอผ้าเพื่อจำหน่ายหลายหูก มีเสื้อผ้าชายหยิงและเด็กแสดงให้ได้ชม เป็นวัฒนธรรมการแต่งกายของพี่น้องไทยทรงดำ อ้อ ที่นี่ผู้หยิงจะมาชุมนุมกัน ชายห้ามเข้า

รถบัสทหารพาเราไปยังกรมการสัตว์ทหารบก ค่ายทองทีฆายุ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม นำขบวนโดย พลตรี ปวริศ แจ่มสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก มีกองเกียรติยศยืนระวังตรงรอรับดังภาพที่เห็น สุนัขทหาร รอบๆร่มรื่นด้วยร่มเงาของต้นจามจุรีใหญ่ ทหารม้ากำลังวนม้าออกกำลังกาย อีกมุมหนึ่งม้ายืนพักอยู่กับทหารรอคำสั่งปฏิบัติการ

เด็กชายหยญิงสี่ห้าคนมากับแม่เพื่อเข้าสาธิตการใช้ม้าเพื่อบำบัดเด็กออทิสติก เพื่อพัฒนาการและให้สามารถอยู่ร่วมในสังคมได้ ช่วยแก้ไขปัญหาสมาธิสั้น ช่วยเสริมความเชื่อมั่นและความกล้าหาญ เด็กๆที่เข้าคอร์สบำบัดได้แสดงให้ชมตามขั้นตอนบนหลังม้า ได้เห็นรอยยิ้มของแม่ที่ลูกๆน่ารักสามารถทำได้ ได้ภาพมาอวดถึงสมรรถนะของกลุ่มเด็กออทิสติกพัฒนาการขึ้นอย่างไร

ทหารกองเกียรติยศรอรับนายพล

น้ำสมุนไพรรับแขก

จบขั้นตอนนี้ ยังได้ชมสุนัขทหารผู้อาภัพ ไร้ซึ่งยศฐาบรรดาศักดิ์ ไม่เหมือนสุนัขตำรวจ สองมาตรฐานใช่ไหมนี่ ฮา อย่างนี้ต้องฟ้องศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองดีเนี่ย

ผู้พันผู้รับผิดชอบการฝึก

เด็กออทิสติกที่เข้ารับการบำบัด

สุนัขทหารแสนรู้ได้อวดความสามารถในการรับฟังคำสั่งและรู้ปฏิบัติ ได้อวดความสามารถในการกระโดดรอดบ่วงไฟ ใช้ในยามเกิดเหตุไฟไหม้ก็กล้าหาญที่จะกระโดดหนีไปขอความช่วยเหลือได้

มีอยู่ตัวหนึ่งสวมหมวกเท่ห์เชียว พอสั่งให้คลานก็ปฏิบัติตามสั่งทุกประการ แต่กระดกก้นไว้สูง ท่านนายพลบรรยายว่า เขาต้องกระดกก้นสูงก็เพราะว่าไม่อยากให้ไข่ลากดิน มันแสบและร้อนไข่ ฮา

บั้งเหียนพลทหาร-จ่านายสิบ

ได้ความรู้ว่า บั้งเหียนม้านั้นมีรูปลักษณ์และชั้นยศคนนั่งด้วย เช่นรูปนี้เป็นชั้นยศพลทหารถึงจ่านายสิบ  หากมียศศักดิ์สูงกว่านี้ก็นั่งไม่ได้ ต้องเปลี่ยนบั้งเหียน

ศาลเจ้าพ่อเขาชนไก่

นกตีทอง

หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังค่ายฝึกนักศึกษาวิชาทหารเขาชนไก่ ได้กราบเจ้าพ่อเขาชนไก่อันเป็นศาลเจ้าอยู่เชิงเขา รอบๆศาลเจ้าพ่อปลูกต้นโพธิ์ประดับไว้ ได้เห็นนกตีทองและนกปรอดขนหัวสีเขม่าบินมาจิกกินลูกโพธิ์ เป็นอาหาร ถ้ามีเวลามากกว่านี้อาจได้ภาพนกชนิดอื่นๆอีกหลายชนิดก็ได้ ข้อสังเกตุ เจ้าพ่อเขาชนไก่ผู้พ่อและผู้ลูกทาปากด้วยฝิ่นจนดำปึ็ด เป็นเครื่องเซ่นไหว้ที่ชอบ

ให้นักท่องเที่ยวลองชิม

พืชผักในป่าที่กินได้

แล้วก็ได้เข้าไปชมทหารสาธิตการยังชีพในป่า การหุงหาอาหารจากกระบอกไม้ไผ่ ได้ชิมเนื้อหมูปิ้งง่ายๆ และได้เรียนรู้เรื่องพืชผักที่สามารถเก็บกินได้ เช่น ยอดอ่อนต้นชะมวงใส่ต้มแกงให้มีรสเปรี้ยว ผักสดจากยอดอ่อนต้นเม็ก ผักสดจากยอดอ่อนมะกอกป่า ผักสดจากยอดอ่อนต้นกระโดน ใช้แกล้มน้ำพริกกินกับข้าวได้อร่อย ไม่งั้นก็จะต้องกินแต่น้ำพริกคลุกข้าวเปล่าๆ

สอนการจับงูพิษ

ระหว่างการเดินป่าเหนื่อยและอ่อนแรงจนล้า ก็สามารถเก็บลูกมะขามป้อมกินแก้่กระหายได้รสชาติเปรี้ยวอมฝาดๆแต่หวานเมื่อผสมกับน้ำลายหรือน้ำดื่ม ลูกสมอไทยกินแกล้มกับผัดเผ็ดๆได้อร่อย ได้ทั้งวิตามินซีและเป็นยาสมุนไพรช่วยระบายท้อง มะละกอสุกและมะละกอดิบ หยวกกล้วยป่า หรือหน่อไม้ในป่าหลายชนิด อะไรที่เห็นว่าสัตว์กินได้คนก็กินได้ โดยเฉพาะเห็ดหลายชนิด

หุงข้าวด้วยกระบอกไม้ไผ่ ปิ้งย่างง่ายๆ

หิวน้ำ แต่น้ำในห้วยไม่มี น้ำในกระติกก็หมดจะทำอย่างไร ทหารหาญได้แสดงให้เห็นว่ามีเถาวัลย์น้ำต้นหนึ่งละที่ช่วยประทังชีวิตได้ เขาสาธิตการตัดเฉียงเป็นปากฉลามท่อนเถาวัลย์น้ำฉับ น้ำใสๆสะอาดๆไหลหยดเป็นทางให้แหงนคอดื่มกินได้ ปลอดภัยไร้โรคาพยาธิ ยังไม่อิ่มก็ตัดที่ปลายท่อนอีกครั้งน้ำก็จะไหลหยดลงมาให้ดื่มได้อีก ต้นเถาวัลย์น้ำมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ventilago denticulata Wild

เถาวัลย์น้ำ ตัดเพื่อแก้กระหายน้ำ

เสียดายที่ไม่ได้ไปกระโดดหอสูง 34 ฟุต ซึ่งเป็นระยะความสูงที่มนุษย์เสียวสุด ผมเคยโดดที่ค่ายพระรามหกมาแล้วเมื่อตอนอายุ 28 ปี ได้ปีกมาแล้ว กะว่าจะทดสอบความกล้าอีกสักครั้งเมื่อตอนอายุ 64 ปีเศษๆ มันจะยังกล้าอยู่ไหม แต่มานึกถึงตอนต้องเดินขึ้นหอไปหลายสิบขั้นก็ท่าจะหอบแหกๆแล้ว เพราะว่าพุงหนาขึ้น หัวใจคงไม่ค่อยแข็งแรงเหมือนเก่า เบาหวานก็รุกราน ความดันโลหิตก็สูง เลยรอดตาย ฮา

พอ.เยี่ยมชัย บุตรดาวงศ์ เลี้ยงมดแดง

ตะวันรอนๆอ่อนแสงลงไปโข แต่รายการแน่นจนเบียดกันดังอึดๆ จำต้องพรากไปบางรายการ แล่นรถไปยังจังหวัดทหารบก พอ.เยี่ยมชัย บุตรดาวงศ์ รองเจ้ากรมรออยู่ เพื่อไปดูฝายในหลวงเพื่อปวงประชา ได้ชมการพัฒนาตามพระราชดำริอย่างเข้มข้น ได้ดื่มนมแพะแล้วยังได้เลี้ยงแพะด้วยนม เดินผ่านถังแก๊สขี้หมูไปทหารกำลังทอดลูกชิ้นหมูอยู่ หอมเชียว หอมลูกชิ้นทอดนะไม่ใช่หอมขี้หมู

ท่านพาไปชมการเลี้ยงมดแดง และพัฒนาการเครื่องแหย่รังมดแดง เพื่อให้การยังชีพแบบพอเพียงง่ายขึ้น เศษเนื้อทิ้งไว้บนกระบอกตอกติดกับต้นไม้ มดแดงไม่เพ่นพ่านไปรบกวน กินแล้วก็ขึ้นไปบนรังยอดต้นไม้ ได้เวลาก็เอาท่อพีวีซีปาดปากฉลามไปแหย่รัง ไข่มดแดงร่วงมาตามท่อลงไปในถุงที่ด้ามปลายท่อ เอากับทหารซิคิดได้ไง ง่าย ไม่ต้องกลัวมดแดงตกใส่หัว และกินหรือขายไข่มดแดงได้ด้วย

ประทับใจในความตั้งใจของเหล่าทหารซึ่งมีกำลังพลกันเพียง 6-7 คน แต่ก็ทำงานกันได้มากมายหลายอย่าง ไอ้ที่กล่าวว่า เป็นเมียทหารนับขวด เป็นเมียตำรวจนับแบ็งค์ อาจไม่จริงแล้ว ทหารมัวแต่ทำงานรับใช้เบื้องยุคลบาทเพื่อปวงประชาอยู่ ไม่มีแรงจะไปกินเหล้าแล้ว เมียทหารก็เลยไม่นับขวด ก่อนจาก ค่ำแทบมองลายมือไม่เห็น ได้แต่เพียงยกมือไหว้ขอบพระคุณลา

รถบัสทหารหาญพาพวกเราไปรบกับท้องที่กำลังร้อง ไปถึงเดือนฉาย รีสอร์ท ได้กุญแจแล้วก็แปลงร่างลงมานั่งเอ้เต้อยู่ในเรือนแพเคลื่อนที่ มีเรือหางยาวลากจูงแพอาหารให้ไปตามต้องการบรรยากาศ เปิดเพลงจากเครื่องเสียงแล้วก็เริ่มดื่มด่ำกับรสชาติอาหารแบบบุปเฟ่ท์ นายพลตรี ปวริศ ถลาไปกำไมค์ได้ก่อน ท่านร้องเพลงกล่อมยามรับประทานให้ด้วยเสียงเพลงที่ไพเราะจับใจ

หลังจากนั้นพี่น้อง สื่อมวลชนคนทำข่าวจำนวนกระหยิบมือคว้าไมค์มาได้ก่อน หล่อนและเขาก็บรรเลงเพลงกันไปซะคนละเพลงสองเพลง ร้องก็ไม่ร้องเปล่าเขย่ากันดึ๋งๆ จนเพื่อนๆทัวร์ทั่วหน้าพากันออกไปกระฉึกกระฉักเอากับเขาด้วย ผมเองเจียมตัวว่าแก่แล้ว ก็นั่งกินเอาๆ แต่ต้องตาลุกดพลงเมื่อพี่ เอ้ย ลุงหนวดเคราแพะผู้อาวุโสมากๆ ออกไปคว้าไมค์ร้องเพลง ผมคาดว่ายังไงเสียพี่แกต้องร้องเพลงของตาเอื้อ สุนทรสนานแน่ๆ ที่ไหนได้ พี่เขาร้องเพลงบัวลอย เจ้าเพื่อนยากด้วยมาดแทบก้มไปติดจอคอม 5555

เช้าสัญญาณนัดหมาย 6-7-8 อิ่มแล้วก็ออกเดินทางไปกองการสัตว์และเกษตรกรรมที่ 9 กาญจนบุรี ชมศูนย์ผสมเทียมม้า (ย้อนกลับไปอ่านเรื่อง ฤาม้าจะเสียภาพแห่งความเป็นชาติอาชาไนย) ลงภาพซ้ำให้อีกรูปก็แล้วกัน ไม่อยากทำร้ายจิตใจม้าไปกว่านี้ ทั้งใหญ่ทั้งยาว และรูปหล่อขนาดนั้น ฮึ ฮึ 555 เสร็จกามกิจของเจ้าม้าหนุ่มแล้วเราก็ออกไปริมแม่น้ำแควใหญ่ชายน้ำ ไปฝึกหัดขี้ม้าเอาเท่ห์ถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ แล้วก็เดินทางต่อ แต่ผมได้ภาพนกขมิ้นท้ายทอยดำมา 2-3 รูปไม่ค่อยชัด เขาอยู่สูงเกิน

นกขมิ้นท้ายทอยดำ บินตามตัวเมีย

ทดสองแสงเช้าบนระเบียง

ไปเข้าเขตสวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์ที่สวนผึ้ง ดินแดนฝั่งตะวันตกที่คราคร่ำไปด้วยแมกไม้และขุนเขา เดินไปนั่งรับประทานอาหารกลางวันกลางป่า ใต้ร่มไม้ชายน้ำ แก่งส้มแมว ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เพื่อฟอกปอด ได้ชมนกยูงเผือกบินไปเดินมา ได้เห็นนกยูงสีเขียวหัวเป็ดสวยๆ และได้เห็นว่า มีประชาชนจำนวนไม่น้อยได้อาศัยป่าผืนนี้เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ ลงเล่นน้ำเย็นๆ ผ่อนคลายให้หายเหนื่อย พร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว

ลุงลุยด้วยเพลง บัวลอย 555

 

"เดิมเป็นป่ารกร้าง 300 ไร่ ก็ช่วยกันปลูกป่าขึ้นใหม่ ต่อมาเพิ่มเป็น 3,000 ไร่ สองฝั่งแกงส้มแมวแห่งนี้ บ้านบนต้นไม้นั่นเป็นที่พระองค์ทรงเสด็จมาทรงงาน" พลตรีปวริศเล่าเป็นกับแกล้มอาหาร

อิ่มแล้วก็ถ่ายรูปกันจนพอใจ เดินทางต่อไปที่ กลุ่มรีสอร์ท ซึ่งว่ากันว่า ทุกวันนี้มีรีสอร์ทที่สวนผึ้งมากกว่าวังน้ำเขียวมากนัก ตกแต่งกันงดงามตระการตา ทุกหย่อมหญ้ามีแต่บ้านพักตากอากาศ แต่ระหว่างสวนผึ้ง (สูง200-250 ม.) กับ วังน้ำเขียว (สูง 400-600 ม.) ไม่รู้เหมือนกันว่าที่ไหน โฮโซนสูงกว่ากันรถบัสทหารพาไปอย่างเร็วรี่ ทำเวลากันใหญ่ เลยไม่ได้รูปรีสอร์ทงามๆมาฝากเลย

บ้านทาร์ซานเสด็จทรงงาน

นั่งบนสนามหญ้าเขียวขจี กินกันอร่อยเหาะดิ

เป้าหมายที่ทัวร์จัดให้คือ กรีนเนอรี่ รีสอร์ท เขาเก็บค่าเข้าไปชมแกะด้วยการแถมฟางข้าวฟ่อนเท่ากำมือ 40 บาท เพื่อให้ลูกทัวร์ไปเลี้ยงแกะจำนวนร้อย ได้บัตรซื้อแล้วกันก็เดินจะเข้าไปให้อาหารแกะ

แต่ต้องช็อคไปในทันใดเมื่อเจ้าหน้าที่รีสอร์ทไม่ยอมให้พวกเราพกกล้องถ่ายภาพวิดิโอ เข้าไปทั้งสิ้น เป็นเรื่องเชียว ทัวร์พรีม่าสยามพยายามจะบอกว่านี่เท่ากับโปรโมทให้กับกรีนเนอรรี่ฟรีๆ ก็ยังไม่ยอม เสียเงินให้ลูกทัวร์และสื่อมวลชนไป 40 กว่าชีวิต เสียฟรีไม่เท่าเสียใจ เสียความรู้สึกดีๆ

"เขาดังแล้วกลัวว่าจะดังเกินไปมั้งถ้าไปถ่ายทอดให้เขาฟรีๆ" ใครคนหนึ่งพูดขึ้นลอยๆ

สื่อมวลชนคนทำข่าวซึ่งไม่ได้รายได้อะไรจากใครๆก็พลอยเซ็งระเบิด ไม่ถ่ายก็นั่งรอลูกทัวร์ก็แล้วกัน ฉีกบัตรเข้าทิ้ง แล้วก็จับกลุ่มคุยกัน ไม่เข้าใจกันนักว่า เขาห้ามทำไม มีเจ้าหน้าที่อ้วนๆอัปลักษณ์ๆออกมาหาพร้อมทีมงาน มาบอกว่า กฎต้องเป็นกฎ ห้ามคือห้าม พวกเราไม่ได้โต้เถียงสักคำ เงียบยังกับกระทำผิดร้ายแรง โอ้ มายก๊อด

ภูเขาหน้า กรีนเนอรี่รีสอร์ทเจ้าปัญหา  บุกป่าหรือเปล่า

ก็เลยตั้งปุจฉากันว่า

"พื้นที่รีสอร์ทแห่งนี้ ตั้งอยู่บนที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายที่ดินหรือไม่ ถ้ามีเอกสารสิทธิ์ เป็นเอกสารสิทธิ์ได้มาอย่างถูกต้องหรือไม่"

"พื้นที่ป่าตั้งแต่กาญจนบุรีจนถึงราชบุรี ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่ทางราชการทหารขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้ เรียกกันว่า ป่า 2481 จึงไม่น่าจะมีเอกชนคนรวยๆมามีเอกสิทธิ์บนที่ดินแถบชายแดนนี้ได้ ขอให้ทหารตรวจสอบหาความจริงด้วย"

"หรือถ้าเป็นที่ดินในความรับผิดชอบของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม(สปก.) ได้รับมอบจากกรมป่าไม้ เพื่อออกเอกสารสิทธิ์ ที่เรียกว่า สปก.4-01 ให้กับเกษตรกร หรือไม่ หากออกมาจาก สปก.ก็ขอให้ สปก. ช่วยตรวจสอบด้วยว่า การนำที่ดิน สปก.4-01 ออกมาใช้สร้างเป็นรีสอร์ทเยี่ยงนี้ถือว่าผิดวัตถุประสงค์และผิดเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ เทียบเคียงกับกรณีที่ดินวังน้ำเขียวแล้วก็ควรต้องให้ใช้มาตรฐานเดียวกัน"

"ถ้ารอดพ้นจากทั้งสองกรณีดังกล่าว ที่ดินผืนนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติซึ่งกรมป่่าไม้รับผิดชอบ หรือถ้าอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ ก็ขอให้ทั้งสองกรมนี้ร่วมตรวจสอบเพื่อเรียกคืนพื้นที่ให้กับประชาชนคนไทยเพื่อใช้ประโยชน์ร่วมกันด้วย"

"แต่ถ้าไม่มีใครตรวจสอบให้ ผมก็จะไปตรวจสอบจากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศที่กรมแผนที่ทหารว่า พิกัดนี้เดิมก่อนกฎหมายประกาศ มีผู้ใดครอบครองและได้มาด้วยความชอบธรรมหรือไม่ ถ้าตรวจแล้วพบว่าเดิมในแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศเป็นป่าดงพงพี ไม่มีการครอบครองใดๆตามกฎหมาย ก็จะไปแจ้งความข้อหา บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติหรือป่าเตรียมการสงวนหรือป่าไม้ถาวรของชาติ"

แต่ผมสงสัยว่า พื้นที่สวนผึ้งทั้งหมดนี้กลายสภาพเป็นรีสอร์ทไปหมดได้อย่างไร ผมว่าผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ต้องออกมาร่วมตรวจสอบด้วยว่า ได้มาอย่างไร ได้มาจากหน่วยราชการไหน ได้มาตั้งแต่เมื่อไร และถูกต้องตามกฎหมายใดๆหรือไม่ ป่าต้นน้ำลำภาชีมีความสำคัญต่อแม่น้ำแม่กลองมากแค่ไหน ไม่รับผิดรับแต่ชอบกันไปหมด จะพึ่งใครได้

สุดท้าย ถ้าไม่มีใครหน่วยงานดังกล่าวเหล่านี้ออกมาตรวจสอบ ผมก็จะร้องขอให้ตรวจว่า พื้นที่นี้ใครรับผิดชอบ ก็แจ้งความตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จะดีไหม

Tags : ฤาษีแห่งเลตองคุ ตอน7.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view