http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,956,373
Page Views16,262,660
« March 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ล่องแพแม่กลองเมื่อปลายฝนต้นหนาว

ล่องแพแม่กลองเมื่อปลายฝนต้นหนาว

ล่องแพแม่กลองเมื่อปลายฝนต้นหนาว

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

         คนอุ้มผางช่างโชคดี มีทรัพยากรป่าไม้สร้างสรรค์ให้ธรรมชาติสวยงาม ทำให้เกิดน้ำตกใหญ่ที่สุดในประเทศไทยชื่อ ทีลอซู  มีทะเลหมอกให้ชมได้ที่ดอยหัวหมดใกล้ๆเพียง 10 กม. มีแม่น้ำแม่กลองใช้ล่องแพยางได้ตลอดปี มีท่าลงแพยางห่างเพียง 1.5 กม. นอกจากนั้นยังมีผู้คนที่เป็นชนเผ่ากะเหรี่ยงซึ่งรักความสงบ ซื่อสัตย์  มีภาษาพูด ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิตและความเชื่อที่งดงาม

 

บรรยากาศปลายฝนต้นหนาวหมอกเริ่มโรยตัวตอนเช้าๆ

             ด้วยทรัพยากรท่องเที่ยวอันล้ำค่าดังกล่าว จึงทำให้เกิดการท่องเที่ยวขึ้นในพื้นที่ที่เคยมีแต่ป่ากับป่า มีผู้คนเดินทางเข้าออกอุ้มผางไม่เว้นแต่ละวัน เกิดธุรกิจที่พักแรมทาง แรกก็สร้างกันง่ายๆด้วยวัสดุที่หามาได้ตามชนบท เมื่อความต้องการมีมากขึ้นก็ต้องพัฒนาการกันเพิ่มขึ้น แม้การเดินทางมาถึงอุ้มผางได้ต้องฟันฝ่าหนทางที่คดเคี้ยวเลี้ยวลดถึง 1,219 โค้ง

 

หาดทรายใช้เป็นท่าปล่อยแพยาง

             ในที่สุดคำว่าอุ้มผางกลายเป็นความรู้สึกท้าทาย บ้านป่าเมืองดอยแสนไกล ถนนหนทางไปยากเดินทางแต่ละเที่ยวเหนื่อย แต่เมื่อไปถึงแล้วได้ไปท่องเที่ยวตามรายการยอดฮิตติดอันดับนั่นคือ เช้ามืดไปเฝ้ารอบนยอดดอยหัวหมดเพื่อชมทะเลหมอกสวยๆ หลังอาหารเช้าไปล่องแพยางที่ต้นแม่น้ำแม่กลองที่ไหลพาดผ่าน ขึ้นจากแพยางก็เดินทางต่อไปชมน้ำตกทีลอซู อลังการสวรรค์สร้างให้กับชาวอุ้มผาง

 

แต่ขวดเหล้าเบียร์เหล่านี้มนุษย์ขี้เหม็นสร้าง

             ในที่นี้จะกล่าวเพียงการล่องแพยางทั้งๆที่เคยล่องมาแล้วเมื่อเดือนมีนาคมฤดูร้อนแล้งที่ผ่านมานี่เอง แต่ครั้งนี้ได้มากับเพื่อนกลุ่มใหม่ ได้มาในช่วงเวลาที่แตกต่างคือปลายฝนต้นหนาว ในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างคือมีปริมาณน้ำในแม่กลองมากกว่า น้ำจึงไหลแรงกว่า สภาพป่าไม้สองข้างทางเขียวครึ้มไปตลอดการท่องล่องแพยาง อากาศเย็นสบายไม่ร้อนอบอ้าวอย่างคราวก่อน

แพยางซ้อนบนรถกระบะนำเที่ยว

               เสียงหัวเราะ ใบหน้าที่แย้มยิ้ม อาการตื่นเต้นเห็นชัดเจน ด้วยว่านักท่องเที่ยวค่อนข้างมีอายุ ส่วนใหญ่วัยเกษียนราชการแล้ว มีนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษามาจากโรงเรียนในท้องถิ่น ครูพามา ดูจะสงบเสงี่ยมกว่ากลุ่มไหนๆ เจ้าของรีสอร์ทที่พักแรมยังจ้างรถยนต์ขนแพยางและนักท่องเที่ยวมาลงท่าเดิม แต่บรรยากาศรายรอบมีหมอกลงจางๆเปลี่ยนไปจากหน้าร้อนจ้า

 คณะครูดอยหลอกเด็กดอยมาล่องแพยางกลางน้ำ 55

               ผมเห็นคณะครูยืนเข้าแถวริมชายหาดก็อดเย้าไม่ได้ว่า นี่เองครูหลอกเด็กบนดอยมาลงน้ำอันหมายถึงมาล่องแพ เพียงประโยคเดียวคณะครูและนักเรียนก็หัวเราะขำกัน น่ารักด้วยบรรยากาศที่สดใสหัวใจเริงร่า อยากท้าทายกับการลงล่องแพยางครั้งแรกของนักเรียนชาวกะเหรี่ยงจากบนดอย 5555 ผมดีใจที่เห็นพัฒนาการของโรงเรียนช่วยให้ประสบการณ์แก่เด็กๆจากของจริง ที่ไม่เคยสัมผัสก็ได้สัมผัส เด็กๆดูตื่นเต้นแต่มีความสุข

 

ดูเอาเถอะรุ่นไหน ฮา บางคนพกลูกมาด้วย

               พอแพยางลำแรกไหลออกจากท่าเสียงโห่ฮาป่าก็ดังขึ้น เรือยางของกลุ่มเพื่อนอำนวยศิลป์ของผมเอง เกษียนราชการกันหมดทั้งแพอายุเฉลี่ย 64 ปี หัวเราะเต็มๆด้วยใบหน้าสุขสม ใช่ว่าแก่แล้วจะสนุกไม่ได้ ทุกคนยังมีอารมณ์รื่นเริง มีความว่องไวเคลื่อนไหวได้กระฉับกระเฉงที่สำคัญทุกคนมีเงินมากพอที่จะไปท่องเที่ยว(กลุ่มนี้ใหญ่มากๆ) ดูรูปเอาเถอะครับ

 

เพื่อนร่วมรุ่น อนศ.ของผมที่มาพบกันที่นี่

               นายท้ายเรือและหัวเรือยางยังเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนอุ้มผางวิทยาที่อยากทำงานหารายได้ในวันว่างวันหยุด เป็นเด็กหนุ่มที่ผมเคยสัมผัสมาแล้วแต่คนละคนกัน อุ้มผางมีประสบการณ์ด้านอาชีพสั่งสอนให้เยาวชนคนขยันได้เรียนรู้ ได้เงินช่วยตนเองและครอบครัว ต่อไปอาจกลายเป็นอาชีพนำเที่ยวก็เป็นไปได้ไม่ยาก

 

                 แพยางไหลล่องไปตามกระแสน้ำที่ไหลแรงกว่าหน้าร้อนแล้ง แพจึงเคลื่อนไปค่อนข้างเร็วโดยนายท้ายและนายหัวเพียงช่วยกันคัดแพ  แล้วก็เล่าให้นักท่องเที่ยวฟังว่าถึงตรงไหนเรียกว่าอะไร “โน่นคือผาตั้งครับ ที่เรียกเช่นนี้ก็เพราะหน้าผาตั้งฉาก 90 องศา” ผมอดหัวเราะไม่ได้ ก็ใช่ซิ หน้าผามันตั้งจริงๆ

 

                 พอถึงหน้าผาที่เรียกว่าทีลอเล นายท้ายก็ชี้ชวนให้ดูตะไคร่น้ำเกาะแผ่นผาเขียวขจีแสดงว่ามีน้ำไหลลงมาจากหน้าผาสม่ำเสมอ เฟิร์นขึ้นดกรกจนงามตา แต่ชั่วพริบตาแพยางก็ไหลเลยไป ไม่ทันจะได้ถ่ายรูปซ้ำอีกสักสองสามรูป ผมพยายามจะหันหลังกลับไปถ่ายแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว นายท้ายเรือชี้ให้ชมเบื้องหน้าต่อไป 5555

 

สายน้ำ ใบไม้ แสงแดด โขดหิน ตะไคร่น้ำ งามเน๊าะ

                เบื้องหน้าเป็นน้ำตกที่มีเพียงสายน้ำเป็นริ้วๆแผ่กระจายไปตามแมกไม้ แสงแดดที่ส่องกระทบทำให้เกิดเงาสลับกับใบไม้เขียวสดใสภายใต้แสงเช่นนี้ ถ่ายรูปออกมาจึงสวยสมใจ มีแพยางลำหนึ่งไหลไปตามน้ำเกือบเข้าไปในรัศมีที่น้ำตกลงมา ผมรีบกดชัตเตอร์ได้ภาพนี้มาอวด แม้จะไม่ได้จังหวะที่”เป๊ะ”

 

               แพยางล่องลอยตามน้ำจนถึงจุดที่เป็นไฮไลท์ที่สวยสุดๆ นั่นคือ”น้ำตกทีลอจ่อ” เป็นหน้าผาที่รกเรื้อไปด้วยเถาวัลย์พันธุ์ไม้ป่านานาชนิด แต่มีน้ำตกไหลพรูลงมาแตกกระจายเป็นพรายน้ำ แสงแดดช่วงสายของวันนั้นตกกระทบจนเกิดเป็น”สายรุ้ง” เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่าน้ำตกสายรุ้งนั่นเอง วันนี้โชคดีแดดดีมีรุ้งสองเส้นให้แปลกตา เสียงคุยดังด้วยความตื่นเต้นและตื่นตา

 

           นายท้ายยางแต่ละลำเทียบกันจอดเอให้นักท่องเที่ยวได้ชมน้ำตกสายรุ้งนานกว่าที่อื่นๆ ใบหน้าแต่ละคนยิ้มร่าด้วยความสาสมใจ

              “สวยจังโว๊ย” เพื่อนรุ่นหนุ่มตะดกนขึ้น

              “สวยจริงๆ”  เป็นเสียงผู้หญิงหวานใสใบหน้าผ่องผุดอุทานขึ้น

             “โอ้โฮ ไม่เคยเห็นที่ไหนเลยในโลกนี้” ท่าทางจะเคยไปเที่ยวมาทั่วโลก

 

             “น้ำตกสายรุ้งจะเกิดช่วงเช้าถึงสายจัดๆครับ แต่ถ้าแดดไม่สวยก็จะไม่เกิด วันนี้โชคดีมากๆเลยครับเกิดรุ้งสองสาย” นายท้ายอธิบายรายงานเสียงเจื่อยแจ้ว เสียงกดชัตเตอร์ดังแช๊ะๆๆ ผมเองก็ไม่สนใจใคร ถ่ายแต่รูปและเหลียวไปดูสภาพแวดล้อมเพื่อเก็บอารมณ์ของนักท่องเที่ยวเก็บบรรยากาศมาเล่าสู่กันอ่าน ไม่เชื่อผมก็ต้องลองไปสักครั้งหนึ่งในชีวิตพิชิต1,219โค้งจ้า

 

            ผ่านนาทีที่แสนสวยไปแล้วก็ใช่ว่าจะหมดไปซะทีเดียว ผ่านหน้าผาที่ชะโงกง้ำเข้ามาในลำน้ำแม่กลอง ผมเห็นสายน้ำตกลอดลงมากระทบแสงแดด แต่ไม่มีรุ้งกินน้ำมีแต่รากไม้ไหลลงมาตามพรายน้ำใสๆ ตัดกับเงาดำทึมๆของเพิงผา ก็ได้รูปมาอวดอีกมิติหนึ่ง บางทีถ้าท่านผ่านจุดนี้แล้วมีแพยางลอดสักลำ องค์ประกอบภาพก็จะสมบูรณ์ขึ้น

 

คุณวี-แจน สองสามีภรรยามาเที่ยวก็สุขสมใจ

                แพยางล่องไปตามสายน้ำ สองฝั่งเป็นป่าเขาต้นยางต้นตะเคียนใหญ่ๆยังมีเหลือให้เห็น ต้นไผ่ขึ้นรกไปทั่ว ไม้เลื้อยระโยงระยางค์ รู้จักเพียงบางชนิดเช่นเถากระไดลิง หรือเถากวาวเครือแดง ใบย่อยสามใบไต่พันไปตามกอไผ่ แมกไม้ที่เห็นในฤดูนี้เขียวขจีไปทุกต้น เพราะว่าเป็นฤดูปลายฝนต้นหนาวนี่เอง

 

ความสุขหลังเกษียนของเพื่อนๆ

                นายท้ายคัดแพเข้าเทียบท่า “ถึงแล้วครับครึ่งทาง ขึ้นไปกินไข่เผา น้ำขิงร้อนๆและถ่ายปัสสาวะครับ อ้อ ไปแช่น้ำอุ่นได้ด้วยครับ”  

 

                เหมือนได้เข้าปั้มไปผ่อนคลายหลายๆอย่าง เสียงหยอกล้อกันว่ามี“เซเว่นป่า”แต่พอขึ้นไปแล้วก็ได้เห็นห้องสุขาที่ใช้ไม้ไผ่สร้าง รอคิวกันตามระเบียบ คนที่เรียบร้อยก็เดินไปที่เซเว่นป่า เลือกชิมเลือกซื้อดื่มกินกันด้วยอารมณ์รื่นเริง เสียงหัวเราะเคล้าด้วยรอยยิ้มดูช่างมีความสุข ของว่างมีทั้งเครื่องดื่มชูกำลัง”ม้ากระทืบโรง” “น้ำขิงร้อนๆ” และไข่ต้มสุก นอกจากนั้นก็มีมันเผือกเผาหอมกรุ่น ทุกอย่างดูเป็นบ้านป่าเมืองดอย ชวนสัมผัสเชียว

 

แดดสวยคนสวยขอถ่าย อิอิ

               ได้เวลานายท้ายมาเชิญไปลงเรือ แล้วก็ลอยไปตามกระแสน้ำ บรรยากาศป่าๆเหมือนเดิม แต่มีนักท่องเที่ยวที่เป็นสาวต่างชาติ ก็รู้สึกว่าน่ารื่นรมย์ขึ้น ได้ทดสอบภาษาอังกฤษกันเล็กน้อย รอยยิ้มของสาวออสเตรียดูมีความสุข แพยางไหลไปเรื่อยๆแต่อารมณ์ของคนนั่งไม่ได้เรื่อยๆตามไปหรอกหยอกล้อต่อกระซิกกันไป ข้ามไปยังเรือลำอื่นเอาด้วย

 

              ถึงหน่วยพิทักษ์ป่าผาเลือด แพยางเทียบท่า นักท่องเที่ยวเดิยขึ้นฝั่งบ้างก็เดินเลยไปยังลาดกางเต็นท์ของหน่วยบ้างก็ยังอ้อยอิ่งถ่ายรูปกันสนุกสนาน มีแต่เด็กนักเรียนที่เงียบอาจจะนึกในใจ “เฮ้อ โล่งอกรอดตกน้ำตายแล้วฮา” อยู่หรือเปล่า หรือว่ากลัวครูจะดุ หรือว่ากะเหรี่ยงเขาไม่มีอารมณ์ขำขัน ผมน่ะอยากเห็นรอยยิ้มและฟังเสียงหัวเราะตามวัย เลยงง!!

 

            ชมภาพและอ่านเรื่องเล่าจากชาวดงคนนี้แล้ว ตัดสินใจกันเสียว่า อยากจะไปล่องแพยางที่แม่น้ำแม่กลอง อำเภออุ้มผาง พิชิต 1,219 โค้งกันไหม หน้าหนาวอากาศเย็นสบายดี มีทะเลหมอกดอยหัวหมดทุกวันรอท่านอยู่และแพยางที่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงสุขสันต์ 

            อ้อ การเดินทางไปครั้งนี้ผมไปกับททท.ตากร่วมกับบริษัทฟูจิทัวร์ เขาพาไปพักแรมที่ อุ้มผางบุรี รีสอร์ท นะจ๊ะ นะจ๊ะ

                      โชคดีได้พบ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอุ้มผาง คุณสมาน หงษ์ยิ้ม เจ้าของอุ้มผางแคมปิ้งท่องเที่ยว ให้สัมภาษณ์สื่อว่า ขอให้มาเที่ยวอุ้มผางหนาวนี้กันเยอะๆ มาล่องแพยางชมน้ำตกสายรุ้ง เช้าๆไปทะเลหมอกดอยหัวหมด และไปดูความอลังการธรรมชาติสร้างของน้ำตกทีลอซู รับรองไม่ผิดหวัง ตามนิสัยและพฤติกรรมของสื่อ เจอแหล่งข่าวละก้อเหมือนเจอเนื้อสมันเชียวแหละคร๊าบ

Tags : ลอยกระทงสายหนึ่งเดียวในโลก

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view