http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,003,636
Page Views16,312,501
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ชมทะเลหมอกที่ดอยหัวหมด โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

 ชมทะเลหมอกที่ดอยหัวหมด โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

ชมทะเลหมอกที่ดอยหัวหมด

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

                  ดอยหัวหมดเป็นดอยที่ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่เลย มีเพียงไม้พุ่มเตี้ยๆและพืชชั้นล่าง น่าจะเกิดจากลักษณะทางธรณีวิทยาของดอยลูกนั้น แต่บนเทือกเขาเดียวกันก็ยังมีต้นไม้ใหญ่ๆขึ้นอยู่หนาแน่นตามสมควร บางทีก็สลับกันไป ดอยหัวหมดลูกหนึ่งลูกถัดไปกลับหัวไม่หมดต้นไม้ขึ้นตรึม

 ช่วงเช้ามืดฟ้าเป็นสีนี้

                  ดอยหัวหมดอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็นส่วนหนึ่งที่ธรรมชาติบันดาลให้มีเอกลักษณ์พิเศษกว่าดอยลูกใดๆ ส่วนดอยที่เชื่อมต่อกับดอยหัวหมดยังคงมีป่าไม้ต้นใหญ่ๆปกคลุมตามปกติ แต่ส่วนใหญ่เป็นไม้ป่าเต็งรัง พันธุ์ไม้ที่เห็นได้แก่ต้นเต็ง รัง มะกอกป่า เหมือดคนฯลฯ มีพืชชั้นล่างที่เด่นก็เช่นต้นเป้ง ต้นปรง และเถาวัลย์หลายชนิด

                   ดอยหัวหมดลูกที่อยู่ใกล้อุ้มผางมากที่สุดห่างเพียง 9 กม.รถยนต์แล่นเข้าไปจอดได้ถึงตีนดอย เดินผ่านไม้ต่ำเตี้ยไปอีกราว 100 เมตรก็จะเห็นเวิ้งของหุบเขาเบื้องหน้าทิศตะวันออก

                   ดอยหัวหมดลูกนี้สูงจากระดับน้ำทะเล 950 เมตร โดดเด่นกว่าลูกอื่นๆเพราะสามารถมองวิวทิวทัศน์ได้กว้างกว่า 180 องศา นอกจากนั้นยังมีดอยหัวหมดลูกเล็กๆให้ยืนชมทะเลหมอกได้

                                    ฤดูกาลที่มั่นใจว่าจะได้ชมทะเลหมอกที่ดอยหัวหมดได้แน่นอนคือฤดูหนาวโดยเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนไปจนถึงเดือนมกราคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่อากาศหนาวเย็น

                   แต่ถ้าเป็นฤดูฝนความชุ่มชื้นของป่าเขาก็อาจมีทะเลหมอกให้ชมได้อีกเหมือนกัน หมอกสองช่วงเวลานี้เมื่อเกิดแล้วก็ดูไม่แตกต่างกันนัก นอกจากนั้นจะไม่มีทะเลหมอกให้ชมเลย

                                      ช่วงเวลาที่จะต้องตั้งใจก็คือนอนแต่หัวค่ำแล้วตื่นตอนตีห้าครึ่งเพื่อนั่งรถยนต์ไปถึงดอยหัวหมดแล้วเดินขึ้นไปอีกเพียง 50 เมตร เพื่อจับจองที่นั่งที่ยืนเพื่อจะรอตะวันโผล่พ้นขอบฟ้าส่องแสงสีทองอาบไล้ไปทั่วหุบเขา หมอกสีขาวก่อตัวแน่นไปทั้งแนวยาวของหุบเขา เหนือทะเลหมอกเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน

                     แสงพระอาทิตย์ยามเช้าตรู่สีส้มอมเหลืองค่อยๆเปล่งประกายไปทั่ว นั่นคือช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวแทบทุกคนถ่ายรูปเพื่อเก็บภาพความสวยงามไว้ดูต่างหน้า

                                      ตะวันลอยขึ้นช้าๆ แสงสว่างเริ่มกระจายตัว ในขณะเดียวกันหมอกก็เริ่มลอยตัว ฟุ้งกระจายไปทางด้านข้างและด้านบน น่าจะเพราะว่าอุณหภูมิเริ่มร้อนขึ้น

                     มวลหมอกโลมไล้ไปตามยอดไม้เตี้ยและซอกซอนไปตามใต้ร่มเรือนยอดต้นไม้ใหญ่ มองไปคล้ายภาพเขียนจากปลายพู่กันนักวาดจีน หมอกไหลลดหลั่นไปทั่ว ยิ่งดูก็ยิ่งมองเห็นการเปลี่ยนแปลง

                                     แสงแดดแผดจ้า ท้องฟ้าสว่างโล่ง หมอกฟุ้งกระจาย หมดความสุนทรีการชมทะเลหมอก

                   ได้เวลาที่นักท่องเที่ยวเดินลงเขา ขึ้นรถยนต์กลับไปยังรีสอร์ท แล้วรับประทานอาหาร

                    บ้างก็อวดรูปที่ถ่ายมาได้

                    บ้างก็รีบกินแล้วกลับไปห้องเพื่อจะทำภารกิจส่วนตัวให้เสร็จสิ้น

                    แล้วเตรียมตัวเดินทางไปล่องแพแม่น้ำแม่กลองต่อไปอีกกิจกรรมหนึ่งซึ่งชวนว่าควรไป

ทะเลหมอกดอยหัวหมด

คล้ายๆภาพเขียนจากปลายภู่กันศิลปิน

เพื่อน อนศ.ของผม

ดอยหัวหมดลูกนี้ไม่มีทางเดินไปชม

Tags : ล่องแพแม่น้ำแม่กลองปลายฝนต้นหนาว

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view