พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร
โดย นิรนาม
อ่านข้อของคุณ “อนุภพ” ในคอลัมน์ “เห็นมาอย่างไร เขียนไปอย่างนั้น” ภายใต้หัวข้อเรื่อง “ตำรวจทำถูกแล้ว” จากเดลินิวส์ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา คุณอนุภพพูดถึงวิธีการสลายม็อบเสธ.อ้ายภายใต้การนำของพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแล้ว ต้องบอกว่า ให้เกรดเอบวก เพราะทำถูกต้องโดยมี พ.ร.บ.ความมั่นคงฯมารองรับการทำงาน ประการที่สองใครทำไม่ถูกต้องไม่เคารพกติกา เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายไม่ได้ บ้านเมืองก็อยู่ลำบาก การใช้ความเด็ดขาดจึงสมควร ประการที่สาม การสลายม็อบในครั้งนี้มีคนชมมากกว่าคนตำหนิ และการที่เสธฯอ้ายร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินและป.ป.ช.ว่า การประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคงฯในการสลายการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ!
ผมอยากให้คุณอนุภพลองมาทำความรู้จักกับ “หลักการ” และ “ความมุ่งหมาย” ของกฎหมายความมั่นคงฉบับนี้กันหน่อยเผื่อว่าคุณอนุภพอาจจะเกิดความเห็นใหม่!
เรียนว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่ใช่กฎหมายธรรมดาเหมือนกฎหมายทั่วไป แต่เป็นกฎหมายที่มี “ลักษณะพิเศษ” เพื่อเพิ่มอำนาจให้“รัฐบาลเฉพาะกาล” (Provision Government) ของรัฐบาลของขบวนประชาธิปไตย กฎหมายฉบับนี้จัดอยู่ใน “วิชาความรู้ทางการเมือง” ไม่ใช่ “วิชากฎหมาย”
ด้วยความที่เป็นกฎหมายทางการเมืองจึงทำให้นักกฎหมายทั่วไปไม่เข้าใจ “หลักการ” และ “ความมุ่งหมาย” ของกฎหมายชนิดนี้มากนัก ซ้ำร้ายยังมองไปว่าเป็นกฎหมายเผด็จการ ทั้งๆที่เป็นกฎหมายของฝ่ายประชาธิปไตยแท้ๆ
กฎหมายรักษาความมั่นคงภายในไม่ว่าที่ไหนในโลกเป็นกฎหมายที่มีหลักการและความมุ่งหมายของฝ่ายโลกเสรี “เพื่อ” ใช้ในการใช้ปราบ “คอมมิวนิสต์” ไม่ใช่มีจุดมุ่งหมายเอามาใช้ “ปราบประชาชน” อย่างที่รัฐบาลหลายสมัยทำ
อินเดียเรียกกฎหมายชนิดนี้ว่า “Maintenance of Internal Security Act ของสิงคโปร์และมาเลเซียเรียก “Internal Security Act” ส่วนของไทยเรียก พ.ร.บ.ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (พ.ศ.2551) ต่างที่อินเดีย มาเลย์และสิงคโปร์ ใช้กฎหมายนี้ภายใต้การปกครองแบบประชาธิปไตยแต่ไทยเอากฎหมายชนิดนี้มาใช้ภายใต้ “ระบอบเผด็จการ”
เมื่อเอามาใช้ในระบอบเผด็จการ เผด็จการจึงใช้กฎหมายนี้มารังแกประชาชน!
กฎหมายชนิดนี้อาจจะเรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า “กฎหมายคอมมิวนิสต์” กฎหมายที่จะสามารถปราบคอมมิวนิสต์ได้ต้องเป็นกฎหมาย “มาตรการทางบริหาร” (Police Measure) ถ้าเป็นกฎหมาย “มาตรการทางตุลาการ” (Juridical Measure) แล้ว ไม่เพียงแต่จะ “ไม่ได้ผล” ในการปราบปรามคอมมิวนิสต์เท่านั้น ยังเป็นปุ๋ยให้คอมมิวนิสต์โตขึ้นอย่างดีอีกด้วย
เหตุผลเรื่องนี้มีมากมายประเด็นสำคัญที่สุดก็คือ มาตรการทางตุลาการเป็น “สิ่งตายตัว” (Static) แต่ลัทธิมาร์กซ์-เลนิน เป็น “Dialectic” “สิ่งตายตัว”จะไปจับ “Dialectic” อย่างไรก็ “จับไม่อยู่” ซ้ำร้าย Dialectic กลับจะเอาสิ่งตายตัวมาใช้ประโยชน์ได้อย่างสบาย เช่น “ขบวนการแนวร่วมไทย” ปัจจุบัน เอากฎหมายปราบคอมมิวนิสต์ มาใช้ปราบฝ่ายประชาชนที่เคลื่อนไหวประชาธิปไตย เช่นกรณีฝ่ายเสธฯอ้ายเป็นต้น (การใช้เผด็จการมาทำร้ายประชาชนก็คือการช่วยคอมมิวนิสต์สร้างสงครามความขัดแย้งขึ้น คอมมิวนิสต์ใดๆจะทำการปฏิวัติ (คอมมิวนิสต์) สำเร็จได้ต้องใช้สงครามเป็นเครื่องมือเสมอ)
ดังนั้นตามที่คุณอนุภพบอกว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ใช้พ.ร.บ.มั่นคงภายในราชอาณาจักรไปสลายม็อบเสธฯอ้ายจึง “ผิดหลง” ในการใช้กฎหมาย ผลของการกระทำดังกล่าวสร้างความอัปยศให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เชิดชูคำขวัญว่า “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร” อย่างสิ้นเชิง
ซ้ำร้ายยังไม่รู้อีกว่า “การปกครองที่ไร้เสถียรภาพ” จนเกิด “อนาธิปไตย” (อันเนื่องจากประชาชนไม่ยอมรับการปกครองและผู้ปกครองหมดความสามารถในการปกครองตามสถานการณ์ปฏิวัติกระแสสูงอันมีผลมาจากการปกครองแบบเผด็จการมาถึง 80 ปี) กับ “ความมั่นคงในราชอาณาจักร” นั้น
“เป็นคนละเรื่องกัน”
กฎหมายฉบับนี้จึงไม่สามารถปกป้อง ผบ.ตร.ได้แน่นอน ถ้ารัฐบาลเผด็จการแดงพังลงเมื่อไร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ใช้หนี้ไม่ไหวแน่!
เพราะผิดทั้ง “กฎหมาย”และผิดทั้ง “กฎธรรมชาติ” ที่อยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ในที่สุดก็จะทานกำลังปฏิวัติของประชาชนไม่ได้แน่นอน
ตำรวจเป็น “กลไก” ของ “รัฐ” ไม่ใช่ “กลไก” ของ “การปกครอง” ซึ่งเป็น “พรรคการเมือง” !
และที่สำคัญ “ผู้รับผิดชอบต่อกฎหมาย” ชนิดนี้คือ “กอ.รมน.”ไม่ใช่ “ตำรวจ”!
ปล. 1.ม็อบเสธฯอ้ายคือม็อบของประชาชนที่ต้องการประชาธิปไตยแต่ “การนำ” ลึกๆตกอยู่ภายใต้ “การชี้นำ” ของพวก “ปฏิปักษ์ปฏิวัติ” พวกปฏิปักษ์ปฏิวัตินี่ดูแล้วเหมือนนักปฏิวัติ แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่นักปฏิวัติ ซ้ำร้ายกลับเป็นอุปสรรคต่อการปฏิวัติ ที่ “มากกว่า” พวกปฏิกิริยาเสียอีก
2.การสู้กันของพวกที่จะได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญปี 2540 กับพวกที่จะได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญปี 2550 นั้นเป็นเพียงการ “แสวงหาความได้เปรียบ” ในการแย่งอำนาจกันของขบวนการเผด็จการ {“ชนชั้นสูง” VS “ชนชั้นกลาง” (นายทุน)} เท่านั้น หาใช่เรื่องของการได้มาซึ่งอำนาจอธิปไตยปวงชนหรือระบอบประชาธิปไตยเลย นี่เป็นการ “หลอก” “ประชาชน” “ไปตาย” เพื่อยืดอายุเผด็จการของพวกเขา
“รัฐธรรมนูญไม่ใช่ประชาธิปไตย” และไม่เคยมีประเทศไหนในโลกที่สร้างประชาธิปไตยได้ด้วยรัฐธรรมนูญเลยสักประเทศเดียว แก้หรือไม่แก้รัฐธรรมนูญของทั้งเหลืองและแดงจึงไม่เกี่ยวกับประชาธิปไตย
ต่อการหลอกเรื่องรัฐธรรมนูญไม่ว่าวิธีใดๆของพวกปฏิกิริยา อย่างไรก็ไม่ร้ายแรงเท่าพวก Counter Revolution ที่ใช้คราบของ “นักวิชาการ” มากหลอก ประชาชนหลงลมพวกนี้เพราะพวกเขามีสถานภาพทางสังคมเป็นอาจารย์
หลายคนบอกว่าสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนบ้าง รัฐธรรมนูญฉบับประชาธิปไตยบ้าง แต่ท้ายที่สุดประชาชนก็ยังจนเหมือนเดิม ช่องว่างระหว่างความรวยความจนก็ห่างกันสุดกู่ ความไม่เสมอภาคก็มากขึ้นเรื่อยๆ อาชญากรรรมยิ่งมากไปกว่าเดิม แล้วเรายังจะไปเชื่อพวก Constitutionalism กันอยู่อีกหรือ!