http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,006,638
Page Views16,315,662
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

บูรณาการการท่องเที่ยวระหว่างเอกชนกับทหาร

บูรณาการการท่องเที่ยวระหว่างเอกชนกับทหาร

บูรณาการการท่องเที่ยวระหว่างเอกชนกับทหาร

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

             อันเนื่องมาจากโครงการสัมมนาสื่อมวลชนสัญจรครั้งที่ 1 ประจำปีพ.ศ.2556 ระหว่างวันที่ 23-26 ธันวาคม 2555 เส้นทางการท่องเที่ยวภาคอีสาน ขอนแก่น-อุดรธานี-สกลนคร-ร้อยเอ็ด-นครราชสีมา ของสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก(สง.ทท.ทบ.) โดยร่วมกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการบูรณาการการท่องเที่ยวภาคเอกชนและแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เขตทหารหาญ อะฮ้า จะเป็นมิติใหม่ที่เชิญชวนให้ท่องเที่ยวแปลกแตกต่างไปจากเดิม

ทุกครั้งที่เข้าค่ายต้องไปสักการะและถ่ายรูป

              ผู้เข้าร่วมการสัมมนาครั้งนี้ประกอบด้วยทหารจากค่ายต่างๆทั่วประเทศซึ่งอนาคตจะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเขตทหาร จำนวน 38 นาย นักธุรกิจนำเที่ยว เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ท จำนวน 15 คน คณะกรรมการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน)จำนวน 11 คน และสื่อมวลชนจำนวน 5 คน รวมทั้งสิ้น 69 คน แยกนั่งรถบัสทหาร 2 คัน เพื่อเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวทั่วไปและแหล่งท่องเที่ยวในเขตทหารหาญ

 

พล.ต.ปวริศ แจ่มสว่าง ผอ.สำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก

             การเดินทางเริ่มต้นที่สโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อนั่งรถเรียบร้อยก็ได้มีการสลายพฤติกรรมตามกระบวนการเพื่อให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในรถแต่ละคัน

             เป้าหมายแรกก็มุ่งตรงไปที่ มทบ.23 ค่ายศรีพัชรินทร์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้พบว่ามีห้องพิพิธภัณฑ์ใหม่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญๆจากทั่วประเทศ โดยจำลองให้ได้ชมจบในที่เดียว เพื่อการเรียนรู้พระพุทธรูปสำคัญๆของประเทศ รวมถึงรูปจำลองพระมหากษัตริย์ที่ทรงเป็น "มหาราช" เพื่อยังความปลื้มปิติแก่ผู้ที่ได้พบเห็นและรับรู้เรื่องราว

 

             ที่ค่ายนี้มีสนามยิงปืนยาวมาตรฐานสากล หลายคนได้ทดลองยิงเป้าแล้วโห่ร้องด้วยความตื่นเต้นและดีใจเมื่อสามารถยิงเข้าเป้า เป็นกิจกรรมที่ยากจะเข้าถึงได้ง่ายๆ รายการนี้จึงได้รับความสนใจมากเมื่อมีโอกาสได้เข้ามาเที่ยวในค่ายทหารแห่งนี้ ส่วนการนวดและการฝังเข็มได้รับความนิยมน้อยกว่า เนื่องจากต้องใช้เวลาจึงจะเห็นผลของการรักษาหรือนวด แต่ทัวร์ไม่มีเวลาให้มากนัก

 

ยิงปืนที่ค่ายศรีพัชรินทร์

             เป้าหมายที่สองที่อยู่ไม่ไกลไปจากจังหวัดขอนแก่นนัก แค่ 20 กม. ถนนลาดยางอย่างดี ที่นี่ได้ชมและฟังการเล่าเรื่องราวจากอาจารย์วิทยา วุฒิไธสง สำนักวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งท่านมีความรู้และเล่าได้อย่างสนุกสนาน ประกอบกับภาพเขียนสีดูสนุกสนาน เป็นตำนานนิทานพื้นบ้านเรื่องสังข์สินไชย หรือที่ชาวขอนแก่นเรียกว่า สินไซ อันเป็นภาพเขียนสีแปลกแตกต่างกว่าภาพเขียนสีที่อื่นๆ

       

ภาพเขียนสีจากธรรมชาติวัดไชยศรี     

              อุโบสถขนาดเล็กหรือสิม เป็นโบราณสถานที่งดงาม ภาพเขียนสีเขาเขียนตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายใน หลังจากนั้นยังได้ชมหมอลำพันปี ไม่ใช่อะไร ที่แท้หมอลำแต่ละคนอายุอยู่ระหว่าง 65-75 ปี แต่ลวดลายและลีลายังมีทีเด็ดให้ได้ชมและฟังกัน มันถึงใจก็จะได้ลุกขึ้นฟ้อนไปด้วยเสียซิ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่าและสอดประสานกันได้ดีกับกิจกรรมของค่ายทหารหาญ

 

พระธาตุหนองแวง

              นอกจากนี้ ยังได้ไปกราบไหว้พระธาตุหนองแวง อันเป็นพระธาตุที่สร้างขึ้นสวยสมสูงถึง 9ชั้น แต่ละชั้นมีเรื่องราว สำคัญมากคือชั้นแรกได้กราบไหว้พระธาตุ และถ้ามีบุญแรงกำลังดีๆก็จะได้ขึ้นไปจนถึงชั้นที่ 9 ประดิษฐานพระธาตุไว้ให้กราบไหว้ด้วยสิริมงคลแก่ชีวิต รวมแล้ว ก็ได้วันหนึ่ง ไม่เหนื่อยมากนัก แต่ได้สาระเรื่องราวสวยงามตามแนวทางการท่องเที่ยว

รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายธวัชชัย อรัญญิก นำเที่ยว

              ค่ำลง พักดื่มกินจนอิ่มเอมตามที่ค่ายศรีพัชรินทร์จัดสรรค์มาให้ลองลิ้มชิมรสอาหารพื้นบ้านอีสาน พักแรมที่โรงแรมแคคตัส เพื่อเตรียมตัวไปท่องทะเลบัวแดงที่หนองหาน อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี เสียงปลุกจากโอปะเรเตอร์ดังเมื่อ05.00 น. ลงมารับประทานอาหารกันแล้วก็ออกเดินทางไปทันใด ไม่มีใครตกรถ มีแต่ทุกคนตื่นเต้นเล่าขวัญกันไปตลอดทางว่าจะได้พบเห็นดอกบัวแดงอลังการขนาดไหน

              เป็นวันที่สองที่รู้สึกตื่นเต้นจริงๆ เมื่อรถบัสจอดก็รีบลงไปอย่างพร้อมเพรียง เรียงแถวกันไปลงเรือนำเที่ยวของ องค์การบริหารส่วนตำบล เหมาเรือลำละ 5-700 บาท นั่งได้ลำละ 5-7 คน หรือคนละ 100 บาทว่างั้นเถอะ เรือที่เขาใช้เป็นเรือเหล็ก ท้องแบน มีหลังคาบังแดดและฝน แต่เปิดโล่งแจ้งให้ลมไหลเข้ามาล้อออรอบกาย เย็นสบายๆได้ใจทีเดียวเชียวครับ

              เส้นทางที่นำไปเที่ยวนั้นใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. แหวกไปตามสาหร่ายหางกระรอก และหญ้าน้ำ ระดับน้ำท่าจะตื้นราวๆ 1-1.5 เมตรเท่านั้น เมื่อถึงจุดที่ดอกบัวสายหรือดอกบัวแดงบานสะพรั่ง เรือจอดให้ถ่ายรูปตามความพอใจ อันว่าปัจจุบันนี้ ใครๆก็เป็นตากล้องได้ด้วยกล้องดิจิตอล หรือโทรศัพท์มือถือ จึงได้เห็นแต่ละคนแอคท่าให้ถ่ายรูปกันเพลินทีเดียว

ดอกบัวแดงบานตอนเช้า สายก็หุบ

               ประมาณว่าที่แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติแหล่งนี้เข้าตาและประทับใจให้อยากมาเที่ยวแน่ๆ มีข้อจำกัดเพียงว่า ในการเดินทางมาชมทะเลบัวแดงนั้นต้องมาถึงระหว่างเวลา 07.00-11.00 น. เพราะว่าถ้ามาสายกว่านี้ดอกบัวแดงจะหุบกลีบหลบความร้อนแรงของแสงแดด มาช้าก็จะได้เห็นแต่ดอกบัวตูม พลันคนหนึ่งก็ร้องเพลงบัวตูมบัวบานของพร ภิรมย์

                ปุจฉา ดอกบัวตูมและดอกบัวบานในเพลงอมตะของพร ภิรมย์ นั้น เป็นดอกบัวแดงหรือดอกบัวหลวง 5555 ใครตอบได้ถูกต้องไปรับรางวัลจากท่านพล.ต.ปวริศ แจ่มสว่าง ที่กองทัพบก ละกัน

                การถ่ายรูปในปัจจุบันนี้สื่อได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว มีประสิทธิภาพสูง ได้ภาพไปเชยชมสมใจไม่เปลืองสตางค์อัดภาพ เดินขึ้นตาฝั่งที่หน้าวัดบ้านเดียว เพื่อไปกราบไหว้พระธาตุบ้านเดียม

                ก็อย่างว่าแหละหนา มาท่องเที่ยวทั้งทีมีหรือไม่อยากซื้อของฝาก รายการนี้จึงจัดให้เดินทางไปยังศูนย์ศิลปาชีพกุดนาขาม อำเภอเจริญศิลป์ จังหวัดสกลนคร ไปแล้วจึงได้เห็นว่า เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนจากฝีมือการปั้น ลงสี วาดลาย ลงแว๊ก เข้าเตาเผา ได้เงินจากการตัดฟืน มีงานทำและมีรายได้ตามแต่ลักษณะงานและฝีมือของแต่ละคน ฝีมือวาดภาพและเคลือบเงาสวยสมจริง อ่อนช้อยจนต้องชื่นชม สวยจริงๆ

 

               ถึงเวลาเที่ยงก็ได้รับประทานอาหารกลางวัน นึ่งปลานิล ปลานิลเผาจิ้มกับน้ำจิ้มปรุงรสเปรี้ยวนำ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม นอกจากนั้นก็ยังมีน้ำชากาแฟและโอเลี้ยงให้ดื่มกินได้เต็มที่ คุ้มเหลือเกินกับอาหารมื้อนี้ แต่ที่อิ่มใจมากก็ตรงที่ได้กระจายรายได้สู่พี่น้องบ้านกุดนาขามเต็มๆ

 

                ตอนบ่ายแก่ๆ รถยนต์ไปจอดให้ลงไปไหว้พระธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร แดดยามบ่ายสวยใสไร้เมฆ ท้องฟ้าสีครามงามจับใจ ได้เดินถ่ายรูปสุดอลังการพระธาตุเชิงชุมสะใจ ได้ภาพอุโบสถและวิหารเยบ ได้รูปพระประธานในวิหารและอุโบสถ ได้รายละเอียดต่างๆที่ประกอบกันสวยงาม

 

               ค่ำลงเดินทางต่อไปยังอาสนวิหารอัครเทวดามิคคาแอล เพื่อชมพิธีมิสซาในโบสถ์ แล้วเดินชมการประดับประดาไฟสีสันสวยงามตามบ้านเรือน ได้เห็นขบวนแห่ดาวบนรถยนต์อย่างใหญ่ ได้เห็นซานตาครอสบนรถแห่ และได้เห็นรอยยิ้มทั่วใบหน้าผู้คนที่เข้ามาร่วมงาน มิใช่เพียงศาสนาคริสต์เท่านั้น

 

               งานแห่ดาวอำเภอท่าแร่มีสามคืน คืนแรกวันที่23ธันวาคม เป็นการแห่ดาวมือถือ ขนาดเล็กๆไปตามตลาดและบ้านเรือนผู้คนทั่วไป คืนวันที่สอง24ธันวาคม เป็นการแห่ดาวขนาดใหญ่บนรถยนต์ไปทั่วท่าแร่ และคืนวันที่25 เป็นการนำขบวนแห่ดาวขนาดใหญ่ไปจนถึงจังหวัดสกลนคร เป็นคืนเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ ได้ใจเต็มๆ

 

               วันที่สามออกเดินทางไปยังกองพลทหารราบที่6 อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด ได้ฟังการบรรยายสรุปแล้วก็ได้ชมสินค้าโอทอปของเหล่าทหารหาญที่นำออกมาแสดง มีทั้งขนม ผลิตภัณฑ์จากผ้าไหมผ้าฝ้าย การทำรีไซเคิ้ลพลาสติก รับประทานอาหารกลางวันรสชาติบ้านๆ อร่อยมากๆ หลังจากนั้นได้ชมการพรางตัวออกกำลังกาย ปิดตาประกอบอาวุธปืน การช่วยเหลือทหารบาดเจ็บ กิจกรรมเหล่านี้ ประกอบในการนำทัวร์เข้าชมได้อย่างเหมาะสม

 

               บ่ายได้เข้าไปชมและฟังบรรยายสรุปของกองทัพภาคที่ 2 ได้รู้ว่ามีการพัฒนาห้องสมุดกองทัพเพื่อให้เยาวชนรอบๆพื้นที่กองทัพเข้ามาใช้ประโยชน์ ได้เห็นสภาพพื้นที่ออกกำลังกลางแจ้งของบุ่งตาหลั่วเพื่อให้ประชาชนรอบๆพื้นที่ได้เข้ามาใช้ออกกำลังกาย ทั้งหมดนี้เป็นเพียงกิจกรรมมวลชนสัมพันธ์เท่านั้น ไม่เหมาะสมที่จะนำมาประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ทหารแต่อย่างใด

 

               เว้นแต่ว่า จะจัดการนำเที่ยวเฉพาะกลุ่มเป้าหมายเช่น สถานศึกษาต่างๆเพื่อเข้ามาชมห้องสมุดพัฒนา หรือกลุ่มองค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาลเพื่อการเรียนรู้และศึกษาต้นแบบการจัดการพื้นที่สาธารณประโยชน์ แต่ถ้าจะนำมาประกอบกิจกรรมทัวร์แล้วคงต้องปรับกระบวนยุทธเป็นการนำนักท่องเที่ยวพักแรมในค่ายกองทัพภาคที่2 แล้วเพิ่มกิจกรรมการออกกำลังกายในบุ่งตาหลั่ว ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป

 

นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช นายกสมาคม สทน.

อดีนายก สทน.นส.มัยรัตน์ พีระญาณโกเศส

               ค่ำนี้ที่โคราช มีการเสวนาแบบแสดงวิสัยทัศน์กันทีละคนที่ละกลุ่ม เพื่อรวบรวมแนวความคิดแล้ววิเคราะห์ ซึ่งจะทำให้ความร่วมมือระหว่างแหล่งท่องเที่ยวในกองทัพและภารกิจการนำเที่ยวของสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ ประเด็นนี้คือการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวประเภทกิจกรรมเข้าไปในกระบวนการท่องเที่ยวของภาคเอกชน

 

นายประพันธ์ แสงทอง รายการทันข่าวท่องเที่ยว

นายมนต์สิทธิ์ ไชยปัญญา รายการทริปออนทัวร์

              เช้าออกเดินทางไปยังศูนย์ฝึกสุนัขทหาร อำเภอปากช่อง จังหวันครราชสีมา ได้ฟังบรรยายสรุปว่ากองทัพใช้สุนัขอยู่ 4 พันธุ์ อันได้แก่ เยอรมันเชฟเพิร์ด  โดเบอร์แมน พินส์เชอร์  โกลเด้นรีทีฟเวอร์ และรอตต์ไวล์เลอร์ แต่ละตัวมีความสามารถเฉพาะภารกิจ เช่นเฝ้ายาม จะกัดแล้วไม่ปล่อย ค้นหาเพื่อช่วยเหลือแผ่นดินถล่ม ค้นหายาเสพติด เป็นต้น กิจกรรมเหล่านี้นักท่องเที่ยวนิยมชมชอบ และเหมาะกับทัวร์มากๆด้วยว่าใช้เวลาไม่นานนัก ได้รับความรู้และความสนุกสนาน

 

              กิจกรรมสุดท้ายเป็นการไปเยี่ยมชมกองพันทหารม้าที่ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิสร จังหวัดสระบุรี ที่นี่สอนการขี่ม้า การบังคับม้า การขี่ม้าจูงเพื่อถ่ายรูป ภารกิจนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวเพราะว่าใช้เวลาสั้นๆ ถ่ายรูปไปอวดกันได้ และไม่ซีเรียส แต่อาจมีนักท่องเที่ยวบางคนชื่นชอบแล้วแอบกลับมาเรียนการขี่ม้าก็มีเปอร์เซ็นต์สูง รายการสุดท้ายนี้เหมาะสมกับการนำเที่ยวในค่ายทหารครับ

ทหารม้าวันนี้คือหน่วยรถถัง

              ส่วนการจัดนำเที่ยวของภาคเอกชนและทหารสมควรจัดกันทริปละกี่วัน กี่คน และมีกิจกรรมใดบ้างนั้น ขึ้นอยู่กับมือระดับอาชีพของภาคเอกชน แต่ได้ไฟเขียวให้ทุกภาระกิจของค่ายทหารเป็นแหล่งท่องเที่ยวแล้วเช่นนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ไม่เคยมีโอกาสเช่นนี้มาก่อน ทั้งยังจะช่วยให้นักท่องเที่ยวหรือประชาชนคนทั่วไปได้รู้ภารกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าทหารหาญของชาติๆไปในคราวเดียวกัน  มีแต่ได้กับได้ทุกฝ่าย

นายธนวัฒน์ ทองเพิ่ม เลขาธิการสมาคม สทน.

ช่วยหาคนใต้ซาก

กัดไม่ปล่อย

พิพธภัณฑ์กองทัพภาคที่2 สงครามความคิดแตกต่าง

ประดับเข็มโดดหอ

โดดหอสูง 34 ฟุต ระยะเสียวสุดๆ

สอนให้ผลิตน้ำยาล้างจาน

Tags : บ้านทุ่งแสนสุข17.ขุดบ่อโจน

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view