มรดกจากพ่อ โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

มรดกจากพ่อ

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

             ยอด เนตรสูงเนิน เกิดมาจากบ้านขามทะเลสอ นครราชสีมา  แล้วเร่ร่อนทำไร่ไปทั่ว ไปจนถึงโคกสำโรง เมื่ออายุ 31 ปี จึงได้เมียมาจากโคกสำโรงแล้วก็อพยพไปอยู่ที่บ้านหนองไทรเหนือ บ้านเลขที่ 150 หมู่ 19 ตำบลคลองม่วง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

ตายอด เนตรสูงเนิน ยอดนักสู้

             วันนี้ตายอดอายุกว่า 84 ปี เล่าให้ฟังว่า มีลูกทั้งหมด 7 คน ผู้ชายคนโตชื่อพงษ์ศักดิ์ เนตรสูงเนิน ซื้อที่ดินไว้ทั้งหมด 130 ไร่ แบ่งให้ลูกๆไปหมดแล้ว

หลานตา 3 ใน 11 คน

             อาชีพทำไร่ในสมัยนั้นก็ทำพืชไร่อายุสั้นๆอันได้แก่ข้าวโพด ทำฝ้าย ทำถั่วเขียว ทำถั่วลิสง ทำไปเรื่อยเท่าที่จะมีคนมาถามซื้อ มีอยู่ปีหนึ่ง ทำฝ้ายอย่างมาก ปีนั้นฝ้ายราคาตกและค่ายาแพง เจ๊งไป 120,000 บาท แต่ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็งและมีลูกๆช่วยเต็มที่ ปีเดียวก็สามารถปลดหนี้ได้ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เสี่ยงกับฝ้ายอีกเลย

ผักกาดหอม ฝรั่งกิมจูและบ้านตายอด 

             เมื่อลูกๆโตแล้วจึงได้วางมือจากงานทุกอย่างเว้นก็แต่ แปลงของลูกสาวคนเล็กที่ไปอยู่กับสามีในกรุงเทพ จึงต้องเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์ให้ เขามาปลูกบ้านหลังใหญ่เอาไว้ให้อยู่ นานทีปีหนเขาถึงจะยกครอบครัวมาพักแรมหรือมาเยี่ยมเยียนแล้วก็กลับกันไป ก็เลยอยู่ตัวคนเดียว

มะละกอพันธุ์ธรรมดา

             แม่ของเด็กๆเขาตายไปกว่า 15 ปีแล้ว เรื่องจะหาเมียใหม่หรือ ถ้าจะมี ลูกๆก็ไม่ว่าอะไร แต่อายุปูนนี้แล้วมะเขือเผาซิคุณ

สปริงเกอร์รดน้ำ

            เคยบวชเป็นพระไปสองครั้ง แต่ห่วงทรัพย์ของลูกสาวจึงต้องสึกออกมา ความจริงที่ดินที่แบ่งให้ลูกๆทั้งเจ็ดคนก็อยู่ในบริเวณเดียวกัน แต่ละคนก็ปลูกบ้านทำสวนกันอยู่ที่นี่ เว้นแต่คนที่เป็นข้าราชการ หรือตามสามีไปอยู่ที่อื่นๆ ตายอดเล่าว่าปลูกพืชไร่พืชสวนมาเยอะมาก ชนิดไหนราคาตกก็ตัดทิ้ง แต่พอตัดทิ้งบางทีราคากลับดีขึ้นๆก็เสียดาย ฝรั่งที่เหลืออยู่นี่ก็กันไว้เผื่อราคาดีขึ้นมาอีก

            พงษ์ศักดิ์ เนตรสูงเนิน ลูกชายคนโตเล่าว่า ที่ทำอยู่ทุกวันนี้เหมือนเป็นมรดกมาจากพ่อแหละ ปลูกพืชไร่พืชสวนเหมือนที่พ่อทำมา โดยมีตลาดปากช่องเป็นแหล่งส่งขาย ไม่ไกลนัก แต่ตอนหลังนี้มีเจ้าที่ดินรายหนึ่งมาปลูกผักส่งขาย และรับซื้อผลผลิตด้วย จึงเริ่มปลูกผักขายกันบ้าง เช่นผักบุ้ง ผักกะหล่ำปลี ผักกาดกวางตุ้ง ผักคื่นฉ่าย ผักกาดหอม ต้นหอม ที่เริ่มปลูกกันหนาตาก็เป็น "กุยช่าย"   

กุยช่ายกำลังงาม

             ขั้นตอนการปลูกกุยช่าย ซื้อเมล็ดมากิโลกรัมละ 4,000 บาท เพาะกล้า 3-4 เดือน จึงย้ายกล้าลงปลูกในแปลงที่เตรียมดินไว้พร้อมแล้ว ส่วนใหญ่จะผสมดินด้วยปุ๋ยอินทรี ปุ๋ยหมัก โดยปลูกระยะห่าง 35x30 ซม.ใช้เวลาปลูกนาน 4 เดือนจึงได้กุยช่ายใบเขียวสม่ำเสมอ ตัดเขียวครั้งที่หนึ่งได้ ราคาขายก็กิโลกรัมละ 10-15 บาท การตัดเขียวนี่จะทำไปได้ถึง 3 ครั้ง

ตัดเขียวขายไปแล้ว

ดอกกุยช่าย

             หลังจากนั้นกอกุยช่ายเติบโตเต็มที่ดีแล้วจึงทำขาวด้วยการใช้กระถางพลาสติกสีดำครอบให้แน่น กางมุ้งดำทับอีกชั้นหนึ่งเพื่อป้องกันแสงลอดเข้าไปได้

ครอบให้ใบขาว

คลุมสแลนซ้ำกลัวแสงเข้าได้

              การตัดขาวนี่ทำได้ 3-4 ครั้ง แต่อาจต้องมีการผ่ากอเพื่อให้ได้กุยช่ายใบใหญ่ กอแข็งแรง ราคาขายกุยช่ายขาวกิโลกรัมละ 40 บาท

เปิดครอบออกมาให้ดู กุยช่ายขาว

              เรื่องแรงงานเดิมก็พยายามทำกันเอง แต่เดี๋ยวนี้มีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านมารับจ้าง ก็ช่วยให้ทำงานได้สะดวกมากขึ้น  กุยช่ายนี่ผมลองปลูกอยู่ 9 ไร่ ก็คิดว่าถ้าได้จังหวะราคาไม่ขยับขึ้นๆลงๆละก้อ เป็นพืชที่ให้ผลผลิตดีมากไม่น้อย

             กุยช่ายขาวเป็นพืชผักที่ชาวจีนนิยมปรุงเป็นอาหารมาก กุยช่ายเขียวใช้แกล้มผัดไทยหรือเป็นผักกินสด และดอกกุยช่ายใช้ปรุงอาหารด้วยการผัดกับตับหมูหรือเครื่องในอื่นๆ

บางกอขาว บางกอไม่ขาว ก็เสียหายไป

             กุยช่าย มีชื่อเรียกว่า Garlic chives ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Allium tuberosum Rottl.ex Spreng วงศ์ AMARYLIDACEAE วงศ์ย่อย ALLIOIDEAE เป็นพืชล้มลุกสูง 30-45 ซม.มีเหง้าเล็กๆใต้ดินแตกกอและแตกใบแบบเรียงสลับ ใบรูปขอบขนานยาว 30-40 ซม.ช่อดอกแบบซี่ร่ม ก้านดอกยาว 40-45 ซม.ดอกสีขาวมีกลิ่นหอม กลัีบดอก 6 กลีบ สีขาว ขนาด 5มม.ดอกบานเต็มที่ 1 ซม.มีเกสรผู้ 6 อัน เกสรเมีย 1 อัน รังไข่อยู่เหนือวงกลีบ ผลกลมขนาด 4 มม. มีเมล็ด 1-2 เมล็ด สีน้ำตาลแบนแต่ขรุขระ

เก็บดอกกุยช่าย

             กุยช่ายเป็นพืชที่พบแถบเอเซียตะวันออก แถบหิมาลัย จีน ญี่ปุ่น มีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้คือ   

              ต้นกุยช่าย 100 กรัม ให้พลังงาน 28 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย ไขมัน 0.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 4.1 กรัม แคลเซียม 98 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 46 มิลลิกรัม เหล็ก 1.5 มิลลิกรัม เบต้า-แคโรทีน 136.79 ไมโครกรัม เส้นใย 3.9 กรัม

ใบกุยช่ายขาวที่ไม่ได้ขนาด คัดทิ้ง น่าเสียดายจัง
              ดอกกุยช่าย 100 กรัม ให้พลังงาน 38 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย ไขมัน 0.2 กรัม คาร์โบไฮเดรต 6.3 กรัม แคลเซียม 31 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 62 มิลลิกรัม เหล็ก 1.6 มิลลิกรัม วิตามินซี 13 มิลลิกรัม เบต้า-แคโรทีน 152.92 ไมโครกรัม เส้นใย 3.40 กรัม 

น้ำจำเป็นต้องมีพร้อม

              ชาวจีนนิยมใช้ใบกุยช่ายเป็นไส้ขนมกุยช่าย สรรพคุณทางสมุนไพรเช่น ใบแก้หวัด บำรุงกระดูก แก้ลมพิษ ทาท้องเด็กแก้ท้องอืด บำรุงไต บำรุงกำหนัด กระตุ้นความรู้สึกทางเพศ เป็นต้น

              ใบกุยช่ายขาวผัดเต้าหูหมูสับได้อร่อย ใบเขียวแกล้มเป็นผักสดกินกับผัดไทย หมี่โคราช ได้ดี ส่วนดอกกุยช่ายผัดตีบหมูหรือกุ้งสด อร่อย

ปลูกต้นหอมสดผักกาดหอม

              วันนี้ ที่บ้านหนองไทรเหนือ มีครอบครัวตายอด เนตรสูงเนิน 7 ครอบครัว ที่ดินกว่า 130 ไร่ ปลูกกุยช่ายขายกันเป็นล่ำเป็นสัน นอกจากนั้นก็ปลูกผักทุกชนิด ผักอะไรปลูกแล้วขายได้ ลูกหลานตายอดปลูกทันที