http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,007,284
Page Views16,316,323
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ตามรอยศาลพระเจ้าตากสินมหาราช จอมกษัตริย์ผู้กอบกู้แผ่นดินคืน โดย อึ้งเข่งสุง เรื่อง-รูป

ตามรอยศาลพระเจ้าตากสินมหาราช จอมกษัตริย์ผู้กอบกู้แผ่นดินคืน โดย อึ้งเข่งสุง เรื่อง-รูป

ตามรอยศาลพระเจ้าตากสินมหาราช

จอมกษัตริย์ผู้กอบกู้แผ่นดินคืน

โดย อึ้งเข่งสุง เรื่อง-รูป

                  ผมเดินทางท่องเที่ยวไปหลายจังหวัด สะกิดใจเมื่อไปทีไรก็พบว่ามีศาลพระเจ้าตากสินมหาราชสถิตอยู่ในหมู่มวลมหาประชาชน น่าแปลกใจไหมว่าทำไมจึงมีการสร้างศาลพระเจ้าตากสินกันมากมายหลายจังหวัด ตามรอยไปดูกันสักหน่อยเนอะ 

พระเจ้าตากสินมหาราช

                   แต่ช้าก่อนพี่น้อง ผมอยากจะกราบเรียนเพื่อทราบกันสั้นว่า พระราชประวัติของพระองค์ท่านนั้นแตกต่างไปจากที่เราๆท่านๆได้เคยทราบกันมาบ้างหรือไม่ ทั้งนี้เพียงการสืบค้นจากเอกสารและอินเตอร์เนต แต่ไม่ถึงกับการไปนั่งอ่านพงศาวดารกันเชียว ผิดถูกสั้นยาวก็ขอได้โปรดทราบไว้ด้วยว่า เพียงแค่คนแก่นั่งขีดเขียนก็เพียงนั้น 

ศาลพระเจ้าตากสินจังหวัดตาก ผู้เลื่อมใสศรัทธากราบไหว้ทั้งวัน

             เมื่อแผ่นดินจีนแห้งแล้งและยากแค้น พี่น้องชาวจีนที่อยู่ทางภาคใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ หยง แซ่แต้ หรือแซ่เตีย ได้อพยพมาจากเมืองเฉิงไห่ จังหวัดซัวเถา เข้ามาอยู่ในกรุงศรีอยุธยา ไม่ได้เป็นนายอากรบ่อนเบี้ยแต่เป็นพ่อค้าวานิชธรรมดา ได้เมียชื่อนางนกเอี้ยงหรือนางลั่วยั้ง หรือนางนกยาง ครั้นวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2277 ได้ให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่งชื่อว่า สิน หรือ ซิน

              ในภาษาจีนแต้จิ๋ว เรียกว่า แต่อ่วงกง หรือเตีย ซิน ตัก หรือ เตีย ซิน ตวด คำว่าแซ่เตียก็คือแซ่แต้ คำว่าตัดก็คือคำว่า ตาก และคำว่าเมืองไฮฮองก็คือเมือง ไห่เฟิงในภาษาจีนกลาง ปัจจุบันนี้อยู่ในมณฑลกว้างตุ้งหรือกว่างตง

 

ลูกหลานจีนทั้งนั้น เชียร์

              พงศาวดารวงเชิงแห่งแผ่นดินพระจักรพรรดิเฉียนหลง บันทึกว่า บิดาเจิ้ง มาจากมณฑลกวางตุ้ง อพยพไปอยู่ใน เสียมล่อก๊ก แล้วเกิด เจิ้งเจา

              พระเจ้าตากสินได้เรียนเขียนอ่านจากวัดโกษาวาส พระอาจารย์ทองดี มีความสามารถในการพูดได้ถึง 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาจีน  ไทย ญวน และลาว ส่วนภาษาจีนสามารถพูดได้ทั้งจีนแต้จิ๋ว ฮกเกี้ยน และกวางตุ้ง ด้วยเหตุที่บิดาของท่านเป็นพ่อค้า ท่านจึงมีอาชีพค้าขายเร่ร่อนไปทั่วโดยเฉพาะทางภาคเหนือ

              ในสมัยของพระเจ้าเอกทัศ นายสินปรารถนาที่จะรับราชการ จึงได้ขวนขวายจนได้เป็นหลวงยกกระบัตรเมืองตาก ต่อมาเจ้าเมืองตากตายลงทำให้ตำแหน่งเจ้าเมืองตากว่างลง ในที่สุดพระเจ้าเอกทัศทรงโปรดเกล้าแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองตาก ตำแหน่งพระยาวชิรปราการ เมื่อเกิดศึกในปีพ.ศ.2309 พระยาวชิรปราการได้เข้าประจำการในพระนครศรีอยุธยา ปกป้องพระนครจากทัพพม่าข้าศึก

               แต่ด้วยเล็งเห็นความอ่อนแอของการป้องกันอริราชศรัตรู จึงได้ระดมไพร่พล 500 คนตีฝ่าวงล้อมพม่าไปตั้งค่ายยังวัดพิชัย ในปีพ.ศ.2309 เดือนยี่ แล้วจึงเดินทัพไปยังวัดลุ่มมหาชัยชุมพล จังหวัดระยอง ช่วงนั้นเกิดกฤษฎาภินิหารตาลขดเพราะว่าแรงลมพายุพัดจนต้นตาลบิดเป็นเกลียว จึงมีผู้เห็นในบุญญาธิการของพระองค์ ได้รับการเรียกขานกันว่า "เจ้าตาก" ซึ่งเทียบเท่าพระบรมวงศานุวงศ์

               วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ.2310 ได้สั่งให้ทหารหาญทุบหม้อข้าวทิ้งหลังจากกินกันจนอิ่มแล้ว เพื่อเพิ่มพลังใจให้แกร่งกล้าอาสาสู้รบตีเมืองจันทบุรีแตก แล้วเคลื่อนกำลังไประดมพลที่วัดบุปผาราม เมืองตราด เมื่อได้เสบียงพร้อม สร้างเรือชะล่าได้ 100 ลำ และระดมไพร่พลได้ 5,000 คน จึงล่องเรือเลาะอ่าวไทยไปจนเข้าปากอ่าวแม่น้ำเจ้าพระยา จับนายทองอินที่ทหารพม่าแต่งตั้งให้ปกป้องเมืองประหารชีวิตเสีย

               เจ้าตากได้เคลื่อนกองทัพไปตีค่ายโพธิ์สามต้นของพม่าแตกพ่าย แล้วย้อนกลับมาตั้งราชธานีที่กรุงธนบุรี ได้ถวายพระเพลิงศพพระเจ้าเอกทัศตามโบราณราชประเพณี

               ครั้นวันอังคาร แรมสี่ค่ำ  จุลศักราช 1129 (28 ธันวาคม พ.ศ.2310) ปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดินครองกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร  พระชนมพรรษา 34 พรรษา สถาปนาพระราชวังเดิมเป็นพระราชวังกรุงธนบุรี ปีพ.ศ.2310 ทรงพระนามาภิไทว่า พระบรมราชาที่ 4

               พระองค์ได้ทรงเสด็จออกปราบปรามชุมนุมพิษณุโลก เตรียมไปปราบเจ้าพระฝางแต่พระองค์ต้องพระแสงปืนจึงถอยทัพ ต่อมาปราบเจ้าพิมาย เจ้านครศรีธรรมราช และเจ้าปัตตานี ในปีพ.ศ.2313 ทรงปราบเจ้าพระฝางที่เมืองสวรรคโลกจนราบคาบ  เมื่อศึกในสงบก็ต้องผจญกับศึกนอกอีกหลายครั้งหลายครา รวมทั้งได้ขยายอาณาเขตออกไปกว้างขวาง

                ทิศเหนืออาณาเขตกรุงธนบุรีศรีมหาสมุทร จดอาณาจักรล้านนา ทิศใต้ครอบครองกลันตัน ตรังกานู และไทรบุรี(เกาะปินัง) ทิศตะวันออกจรดประเทศลาว เขมร และญวน ทิศสุดท้ายได้แก่ทิศตะวันตก เชื่อมต่อกับเมืองเมาะตะมะ ทวาย มะริด และตะนาวศรี ถือว่าพระราชอาณาเขตแผ่ไพศาลเช่น

                 เมื่อปีพ.ศ.2317 พระเจ้ามังระส่งกองกำลังลงมาโจมตี บางแก้ว ราชบุรี

                ปีพ.ศ.2318 ทัพหลวงของอะแซหวุ่นกี้ ล้อมเมืองพิษณุโลกด้วยกองกำลังกว่า 30,000 คน ส่วนกองทัพธนบุรีมีเพียง 10,000 คน ในที่สุดกองทัพพม่าต้องล่าถอยกลับไป ต่อมาปีพ.ศ.2321 เจ้าเชื้อพระวงศ์ลาวเกิดแตกคอกัน จึงมีการอพยพกลับมายังแผ่นดินที่ปัจจุบันนี้คืออุบลราชธานี นับได้ว่าทรงแผ่พระราชอำนาจไปอย่างกว้างขวาง

                 เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก(นายทองด้วง)ได้สั่งให้ตัดเศียรพระเจ้าตากขณะที่ยังทรงผนวชอยู่ในผ้าเหลือง แล้วให้นำศพไปฝังยังวัดบางยี่เรือใต้(วัดอินทาราม) เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 สิริพระชนชีพ 48 พรรษา ทรงครองราชรวม 15 ปี  บางกระแสกล่าวว่า เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกกระทำการรัฐประหารนั่นเอง

                 ต่อมาจอมพลป.พิบูลสงคราม ได้ให้ศาสตราจารย์ ศีลป์ พีระศรี ออกแบบอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสินมหาราชที่วงเวียนใหญ่ ทุกวันที่ 28 ธันวาคม ทุกปี จึงมีการเฉลิมฉลองกันเสมอมา

                 สรุปความตามท้องเรื่องว่า มีศาลพระเจ้าตากสินตามจังหวัดต่างๆที่เคยเดินทัพผ่านไปทั้งสิ้นได้แก่ ศาลพระเจ้าตากสินที่พระราชวังเดิม กรุงธนบุรี  ศาลพระเจ้าตากสินที่วัดลุ่มมหาชัยชุมพล จังหวัดระยอง ศาลพระเจ้าตากสินที่ปากน้ำโจ้โล้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา ศาลพระเจ้าตากสินที่อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด ศาลพระเจ้าตากสินที่จังหวัดจันทบุรี ศาลพระเจ้าตากสินที่จังหวัดตาก ศาลพระเจ้าตากสินที่วัดเขาขุนพนม อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช และวัดปากพิงตะวันตก อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก แต่ละแห่งแหล่งที่ล้วนเคยทรงงานหรือทรงปราบปรามชุมนุมต่างๆทั้งสิ้น

 

       

         

 

 

 

Tags : ลอยกระทงสายไหลประทีป1 000 ดวง

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view