กล้วยเล็บมือนางที่เขาตาหินช้าง ชุมพร
โดย ป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ
อนุสนธิจากการที่สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย(สนท)ได้พาสื่อมวลชนและมวลสมาชิกไปสำรวจแหล่งท่องเที่ยวจังหวัดระนอง โดยการนำของ นายธนา สาธร นายกสมาคมนั้น ท่านได้นำคณะแวะซื้อหาของฝากจากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชนบาท โดยเฉพาะสินค้าพื้นบ้านอันเป็นผลผลิตของกลุ่มโอทอป กล้วยเล็บมือนางจึงเป็นอีกผลผลิตหนึ่งซึ่งละเลยเสียมิได้
กล้วยเล็บมือนางมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Musa sapientum Linn อยู่ในวงศ์ MUSACEAE ชื่อสามัญว่า Banana ชาวสุราษฎร์ธานีเรียกกล้วยข้าว กล้วยเล็บมือ ส่วนชาวพัทลุงเรียกกล้วยทองดอกหมาก แต่ชาวนครศรีธรรมราชเรียกกล้วยหมาก
คุณธนา สาธร นายกสมาคม สนท
ลักษณะทั่วไป คล้ายกล้วยไข่แต่สันของใบส่วนล่างมีสีแดง ใบตั้งขึ้นแต่แยกออกนิดๆ สูง 2-2.5 เมตร ลำต้นกว้าง 15 ซม. ปลูกง่ายให้หน่อเร็ว กาบลำต้นด้านนอกมีสีชมพูอมแดง มีประสีดำหนา ด้านในสีชมพูอมแดง ก้านใบสีชมพูอมแดง มีปีก เส้นใบสีชมพูอมแดง
กล้วยเล็บมือนางดิบ
ก้านช่อดอกมีขน ใบประดับรูปไข่ค่อนค้างยาว ม้วนงอขึ้นปลายแหลม ด้านบนสีแดงอมม่วง ด้านล่างสีแดงซีด ดอกตัวผู้หลุดร่วงไปหลังจากใบประดับร่วง ดอกตัวผู้มีสีครีม ดอกตัวเมียสีชมพูอ่อน ปลายสีเหลือง ก้านเกสรตัวเมียตรง เกสรตัวผู้มีความยาวกว่าเกสรตัวเมีย กลีบรวมใหญ่มีสีเหลืองอ่อน ปลายสีเหลือง กลีบรวมเดี่ยวใสไม่มีสี ปลายหยัก เครือชี้ออกทางด้านข้าง
เตรียมกล้วยสุขเข้าสู่กระบวนการอบ
เครือหนึ่งมี 7-8 หวี ในหนึ่งหวีมี 10-16 ผล ผลเล็ก กว้าง 2-2.5 เซนติเมตร รูปโค้งงอปลายเรียวยาว ก้านผลสั้น เปลือกหนา เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง และยังมีก้านเกสรตัวเมียติดอยู่ กลิ่นหอม เนื้อในสีเหลือง รสหวาน
ตู้อบไฟฟ้าที่พัฒนาขึ้นมาใหม่
เข้าเตาอบที่อุณหภูมิเหมาะสม
ปลูกกันมากทางภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไป แต่ที่ขึ้นชื่อว่ามีกล้วยเล็บมือนางดังมากๆที่เขาตาหินช้าง จังหวัดชุมพร ริมถนนสายกรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี กม.453-454 ม.2ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร โดยนิยมปลูกกันมากหลังเกิดพายุเก เพราะว่าปลูกแล้วให้ผลผลิตเร็วกว่ากล้วยชนิดอื่นๆ ฟื้นเศรษฐกิจได้เร็วกว่า แก้ปัญหาปากท้องได้
ตลาดจำหน่ายอยู่สองฟากฝั่งถนนเพชรเกษม เลยหน้าศาลเจ้าพ่อตาหินช้าง แรกเริ่มเดิมทีก็ตัดมาขายกันยกเครือ แขวนไว้ให้ห้อยโตงเตงหน้าร้าน ขายไปขายมาเหลือก็ทำท่าจะงอมจนเละ ในที่สุดจึงมีการนำกล้วยสุกมาทำเป็นกล้วยตาก เมื่อตากแล้วมีขนาดเล็กๆอย่างกับนิ้วมือคน
ผลผลิตเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยการแพคกิ้งในกล่องพลาสติกใสๆ ดูสะอาด ชวนกิน รสชาติหวานนิดๆหอมแรงหน่อย กินได้เพลินๆ ไม่เบื่อง่าย ให้คุณค่าทางโภชนาการเหมือนกล้วยชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะให้วิตามินเอ ส่วนแป้ง คาโบไฮเดรด และน้ำตาลนั้น มีตามสัดส่วนลูกกล้วย
ในที่สุดกล้วยเล็บมือนางส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศเป็นล่ำเป็นสันกันเลยทีเดียว
ผลผลิตที่วางจำหน่ายหน้าร้าน
ในที่สุดกล้วยตากเล็บมือนางดังขจรขจายไปทั่ว กลายเป็นของฝากที่มีคุณค่า ใครมาท่องเที่ยวภาคใต้แล้วไม่ได้ซื้อไปฝากทางบ้านละก็ โดนต่อว่าประจำ การพัฒนากล้วยเล็บมือนางจึงมิใช่แค่การทำกล้วยตากแต่เป็นการทำกล้วยม้วน กล้วยชุบช็อคโกแลต กล้วยฝานแล้วชุบช็อคโกแลต รสหวานหอมชวนกิน จนถึงทำน้ำกล้วยเล็บมือนางบรรจุขวด
เปลือกนำไปทำปุ๋ยหมัก
รถท่องเที่ยว รถส่วนบุคคล ล้วนต้องจอดเพื่อลงไปซื้อหากันหลากหลายรูปแบบ ถ้าซื้อยกเครือ ซึ่งส่วนใหญ่นิยมซื้อกล้วยดิบๆ ซื้อกล้วยฉาบกลม กล้วยฉาบฝานบาง สารพัดที่แปรรูปมาวางขาย เช่นน้ำกล้วย แยมกล้วย ส่วนเปลือกและเศษๆชิ้นส่วนกล้วยถูกนำไปแปรรูปเป็นปุ๋ยหมัก ในที่สุดกลายเป็นปุ๋ยอินทรีปลอดสารพิษ ส่วนหน่อกล้วยเล็บมือนางก็ใส่ถุงจำหน่ายได้ด้วย
ร้านค้ามีทั้งสองฝั่งถนน