Alcidini ไวน์องุ่นมีรูปนกกะเต็นน้อย
อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
จากกรุงเทพไปปากช่องสะดวกสบายจริงๆ แต่พอถึงทางแยกขึ้นเขาใหญ่อย่าเพิ่งเลี้ยว เลยไปอีกช่วงหนึ่งซึ่งจะมีทางแยกเข้าถนนสาย 2235 ผ่านบ้านหนองสาหร่ายวิ่งไปจนถึงบ้านหนองสองห้อง 15.8 กม.แล้วมองขวามือ มีแยกถนนเข้าไป สาย 2311 ผ่านค่ายฝึกพลร่มพิเศษอยู่ซ้ายมือ ระยะทาง 10 กม.จะเจอบ้านหนองขวาง เลี้ยวซ้ายไปอีก 2.7 กม.ถึงบ้านเพิ่มสมบัติ เลขที่ 176 ม.22 ต.วังกระทะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่นี่มีป้าย ALCIDINI ติดไว้ปากทางขึ้นเขาชัดเจน เห็นไร่องุ่นอยู่บนเขาและบ้านหลังใหญ่ เท่ห์ระเบิด
ผู้บุกเบิกคุณพ่อของต้นตระกูล
ที่ผมต้องเล่าเรื่องการเดินทางเพราะว่าถนนในปากช่องตัดกันเยอะ ถ้าจะไปให้ง่ายต้องเส้นนี้ ออกจากไร่องุ่นนี้แล้วจะไปทางไหนก็ไปได้ ไร่องุ่นนี้ตั้งอยู่ปากทางไปวัดป่าภูหายหลงด้วยครับ เป็นเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเล 550 เมตร ไร่องุ่นกว่าร้อยไร่ล้อมรอบบ้านหลังใหญ่ปลายเนินเขา เป็นอาคารแสดงไวน์องุ่น เพื่อให้แขกหรือนักท่องเที่ยวได้พักผ่อนและผ่อนคลายกับไวน์หอมๆ โดยมีคุณพ่อ-คุณแม่ของคุณต้นตระกูล กริชพิพุทธ(Tontrakul “Tony” Krijpipudh) โทร.668-0784 6969 E-mail:tony.k@alcidini.com หนุ่มหน้าตาดี พูดจาพาทีคล่องแคล่ว
เขาออกมาต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มยินดี พวกเราตามฟังเขาเล่าไปเดินไปจนถึงบนยอดดอยที่ปลูกองุ่นพันธุ์ซีราช(Shiraz หรือSyrah) ซึ่งเป็นองุ่นไร้เมล็ดผลแก่สีดำ หวาน หอม (ลองกินแล้ว)การปลูกองุ่นของเขาปลูกเป็นแนวขึ้นลงเขา จากจุดสูงสุดนี้มองเห็นบ้านหลังใหญ่เด่นอยู่กลางไร่องุ่น บรรยากาศโดยรอบเป็นภูเขาสูงชันสลับกันไป ทุกแปลงปลูกบ้านพักร้อนในไร่องุ่น อย่างกับวิวเมืองนอกแถวๆยุโรปเชียว
องุ่นไร้เมล็ด พันธุ์ซีราช
“เก็บกินได้เลยนะครับ จะเห็นนะครับว่าในพวงองุ่นไร้เมล็ดสีดำของเรานั้นบางผลแห้งเหี่ยวดูไม่สวยเลย ส่วนนั้นจะนำไปทำลูกเกด แต่ถ้าทั้งพวงก็ไปหมักทำไวน์องุ่นได้เหมือนเดิม องุ่นพวกนี้คุณพ่อคุณแม่ปลูกไว้มานานนับสิบปีแล้ว ดูที่โคนเถาองุ่น บอกอายุว่าหลายปี ในการบำรุงต้นองุ่นนี่ใช้ปุ๋ยอินทรีเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงยากำจัดโรคแมลงเราก็ใช้ปลอดสารเคมีด้วย” คุณต้นตระกูลบรรยายเสียงแจ๋ว แจ๋ว เหมือนรีไวด์เทป
พวกเราคนหนึ่งเปรยขึ้น “อากาศดีจัง ลมพัดเย็นสบาย มองไปได้สุดสายตา มีบ้านพักตากอากาศของเพื่อนบ้านล้อมรอบ น่ามานอนพักค้างจริงๆ หนาวไหมคะ”
“หนาวครับ ที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 550 เมตร ช่วงหนาวนี่ราวๆ 12-14 องศา หมอกกระจายไปทั่วหุบเขา”
ต้นตระกูล กริชพิพุทธ์ "Tony"
หลังจากนั้น ก็ยกทีมเข้าไปในห้องโถงของตัวอาคารแสดงไวน์องุ่นAlcidini ซึ่งมีทั้งไวน์แดงและไวน์ขาว คุณต้นตระกูลได้แถมเรื่องเทคนิคการจับแก้วไวน์ ไม่ให้อุณหภูมิจากมือไปถึงน้ำองุ่น การชนแก้วไวน์อย่างเพื่อน อย่างผู้ที่สูงอายุกว่า หรืออย่างสากล หลังจากนั้นก็แจกแก้วไวน์ให้ทุกคนได้ลองชิมไวน์ของเขาถึง 3 ชนิด
ตุ๋น-พิมพ์ พิธีกรคู่ลูกทุ่งอินเตอร์ ช่อง 5 ชนแก้วก่อนชิมไวน์
ถังไวน์โชว์ในตัวอาคาร
กล่าวด้วยความจริงใจ ผมลิ้นหนากินแต่ของเผ็ด เลิกดื่มของมึนเมามากว่า 30 ปีแล้ว บรรยายไม่ได้ว่าไวน์แต่ละแบบอย่างที่ให้ลองชิมนั้นเป็นอย่างไร รู้แค่ว่าดื่มไปสามแก้วก็ชักจะอยากดื่มเพิ่มขึ้น แต่หมดออฟชั่นเสียก่อน ฮา
ผมเดินไปชมบรรยากาศรอบๆบ้าน เห็นสะพานแขวนข้ามร่องน้ำไปยังห้องสุขา สะอาด ใหม่เอี่ยม และมองเลยไปเห็นต้นชิงชันกำลังแตกใบอ่อน สีสนิมเหล็กพรายพริ้วไปตามแรงลมยามบ่าย มีต้นอโวกาโดปลูกไว้หลายสิบต้นกำลังแทงช่อดอก เป็นพืชต้นใหม่ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ลูกจะออกกลมๆ มาเที่ยวที่นี่นอกจากได้ดื่มไวน์องุ่นที่เป็นฝีมือคนไทยแล้วยังได้กินลูกเกดผลิตภัณฑ์อีกชนิดหนึ่ง
“Alcidini Vineyard ผลิตได้เต็มกำลังเพียงปีละ 2 หมื่นกว่าขวดเท่านั้น ยอดจำหน่ายจึงพอเลี้ยง ไม่รวย ไม่เหลือ แต่ไม่ขาดทุน ไม่ชักเนื้อครับ”
“กำลังวางแผนการท่องเที่ยวครับ อยากใช้พื้นที่ให้เต็มศักยภาพ ทุกวันนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชิมและซื้อไวน์ มาเห็นแล้วก็พูดเหมือนกับพี่นี่แหละว่าน่าพักค้าง ก็เลยเตรียมสร้างห้องสุขา ปรับพื้นที่ให้สามารถกางเต็นท์นอนค้างได้” คุณต้นตระกูลเล่าไปด้วยเสียงใสๆอย่างคนหนุ่มที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
ไร่องุ่น Alcidini Vineyard
ในมุมมองของคนทำข่าวท่องเที่ยวอย่างผม ไปเห็นพื้นที่แล้วก็ยังนึกว่า ถ้าขยายผลผลิตไวน์ไม่ได้เพิ่มแล้ว ต้องเพิ่มศักยภาพด้านการท่องเที่ยวแบบพักแรมไปด้วย ซึ่งสอดคล้องกับความคิดของคุณต้นตระกูล ทำเมื่อไร แจ้งด้วยนะครับ อยากไปลองพักดูสักคืน เผื่อจะได้อารมณ์ความรู้สึกดีๆในที่ห่างไกลความเจริญ เงียบสงบ ท้องฟ้างดงาม บรรยากาศชิลๆ และผสมผสานกลมกลืนกับการชิมไวน์และองุ่นไร้เม็ด ผมเชียร์
ต้นอโวกาโด ผลผลิตใหม่กินได้อร่อย
ใบอ่อนต้นชิงชัน สวยๆ
ชมภาพก่อนเดินทางได้ที่ www.alcidini.com