หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
ตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง นครชัยศรี
โดย ป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ
วันเดียวเที่ยวที่ไหนดี หาเรื่องมาเขียนเล่าได้ค่อนข้างยาก เพราะว่าต้องไปกลับในวันเดียว แต่ไม่ว่าจะเหนื่อยสักเพียงใด ป่านก็ยังอยากเสาะหาแหล่งท่องเที่ยววันเดียวกลับมาเสนอให้ได้ วันนี้ก็เลยได้ไปที่ตลาดน้ำวัดกลางคูเวียง อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ไม่ไกลและไปมาสะดวกเสียด้วย ลองตามไปดูนะคะ อาจจะอยากไปบ้าง
นี่แหละผลมะพูด
ป่านออกจากแครายค่ะ มุ่งหน้าไปตามถนนรัตนาธิเบศก์เมื่อเวลา 7.30 น. มุ่งหน้าไปตามถนนตลิ่งชัน-นครปฐม แล้วก็ไปเลี้ยวเข้าอำเภอนครชัยศรี เข้าไปเรื่อยๆ จนเลยไปถึงวัดกลางคูเวียงได้ไม่ได้ยากอะไรเลย ไปง่าย ถ้าเข้าไปตัวตลาดนครชัยศรีถูก วัดกลางคูเวียงอยู่ฝั่งขวามือของถนนขาเข้า ตัววัดอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน หรือเรียกกันว่าแม่น้ำนครชัยศรี ง่ายนะคะ
ที่จอดรถอยู่หน้าวัดและหน้าโรงเรียนวัดกลางคูเวียง วันที่ไปเป็นวันเสาร์ ค่อนข้างมีแม่ค้าน้อยและนักท่องเที่ยวก็พลอยน้อยไปด้วย ป่านเดินชมพืชผักผลไม้อาหารพื้นๆ เช่น ส้มโอดังเมืองนครชัยศรี ผลมะพูดจากต้นมะพูดที่เป็นผลไม้พื้นถิ่นหากินค่อนข้างยาก หอมหวานอมเปรี้ยว มะขวิดยังมีให้เห็น มะพร้าวอ่อนของแท้ ผักบุ้งทอดยอดเขียวน่ากิน ฯลฯ
มีขนมพื้นบ้านๆ เช่น ทองม้วน ทองหยอด ฝอยทอง ขนมปากหม้อ สาคูไส้หมู หรือแกงพื้นบ้านอย่างแกงบอนใส่ปลาช่อน ห่อหมกปลาช่อน ป่านเดินเลาะลงไปยังเรือนแพลอยน้ำ มีร้านอาหารขายกันพอประมาณ โต๊ะเก้าอี้มีให้นั่งได้สบายๆ ไม่แออัดยัดเยียด อย่างตลาดน้ำหลายแห่ง รอบแพมีปลาน้ำจืดแหวกว่ายไปมาน่าให้อาหารถุงละ 10 บาท
เวทีมวยทะเล
เวทีศิลปะมวยบก
แพหนึ่งเป็นเวทีมวยบนบก เคยมีการจัดชกมวยกันทุกเสาร์อาทิตย์ แต่วันนั้นดูร้างไป ข้างๆเป็นเวทีมวยทะเล โดยมีเวทีเป็นท่อนเหล็กขนาดเอวเด็กเป็นลำกลางน้ำ มวยทะเลจะให้นักมวยสวมใส่แต่กางเกงขาสั้น สวมนวมและนั่งอยู่บนเหล็กท่อนใหญ่ ต่อยกันแพ้ชนะอยู่ที่ ใครจะถูกต่อยจนตกน้ำ มวยทะเลนี่ป่านเคยเห็นแล้ว สนุกมาก หัวเราะกันงอหายทุกคู่
แพเหนือสุด มีเสียงระนาดลาดตะโพนดังมาแว่วๆ เป็นเรือนที่จัดแสดงละครชาตรี กำลังร้องและรำกันตามท้องเรื่อง มีนักท่องเที่ยวนั่งชมกันอยู่กลุ่มหนึ่ง อันว่าละครชาตรีนี่ที่เหลืออยู่ก็จะเป็นละครแก้บนตามวัดดังๆ เช่นวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ศาลหลักเมืองกรุงเทพ วัดกำแพงมณี อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ตอนป่านเด็กๆยังได้ดูละครชาตรีในงานมหรสพของวัดที่บ้านเกิด แต่ตอนโตก็แทบว่าจะสูญหายไป
ละครชาตรี แทบว่าจะสูญพันธุ์
ให้ทานอาหารปลาได้บุญกุศล
สายลมเย็นพัดผ่านเรือนแพหน้าวัดกลางคูเวียง ผู้คนไม่มากหน้าหลายตาจนเกินไป นั่งกินขนมจีนน้ำยาปลาช่อนแกล้มผัดเคียง ไม่มีเสียงตะโกนสั่งอาหารกันวุ่นวาย เหมาะสำหรับการมาพักผ่อน หาซื้อของกินตามชอบแล้วก็หาซื้อผลไม้ท้องถิ่นกลับไปฝากคนที่บ้าน หรือจะไปนั่งชมละครชาตรีทบทวนอดีตศิลปะพื้นบ้านก็ไม่เลว
กุฎิเรียงเป็นแถวๆ
ป่านกลับขึ้นไปกราบระประธานในอุโบสถ ปิดทองลูกนิมิต 100 ลูกเพื่อบูชาพระรัตนตรัย กราบศพเจ้าอาวาสที่เพิ่งจะสิ้นไป แต่ยังไม่ได้ฌาปนกิจ ไ/ปยืนดูหม้อยาโบราณยักษ์ที่เคยร่ำลือกันว่า เป็นหม้อยาศักดิ์สิทธิ์ที่รักษาสารพัดโรคให้หายได้ แต่เมื่อท่านเจ้าอาวาสสิ้นไปแล้ว จึงยังไม่มีพระสงฆ์องค์ใดสืบทอดตำรานั้นได้
ปั้นน้ำตาลอย่างโบราณที่นี่
ถึงจะดูว่ามีของน้อย แพน้อย แต่ป่านว่าน่าไปเพื่อพักผ่อนสบายๆ ไม่แออัด และไม่วุ่นวาย ลมพัดเย็นๆ มีขนมและอาหารให้กินเล่น ราคาไม่แพง และไม่ต้องไปกังวลเรื่องที่นั่งจะกินข้าวสักจาน แม่ค้าเล่าว่าก่อนเจ้าอาวาสยังไม่สิ้น ผู้คนคึกคักกว่านี้มาก แต่ถ้ามาวันอาทิตย์แม่ค้าและนักท่องเที่ยวก็จะมีมากกว่านี้ หลายตลาดน้ำเป็นอย่างนี้คล้ายๆกัน
อีกประการหนึ่งวัดกลางคูเวียงนี่เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 2 ที่ได้ไปรบทัพจับศึกถึงเวียงจันทร์แล้วได้กวาดต้อนเอาชาวลาวเวียงจันท์มาด้วย เมื่อมาถึงหมู่บ้านสัมปทวนแห่งนี้ จึงได้ให้ปักหลักอยู่อาศัยและทำกินกันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วัดร้างได้ถูกชาวลาวเวียงบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ เปลี่ยนชื่อเป็นวัดกลางลาว โดยมีพระคณุบุญชููโต เป้นเจ้าอาวาสองค์แรก ในที่สุดเปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดกลางคูเวียง ตราบเท่าทุกวันนี้
ห้องสุขาสะอาด