การเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์
บทพิสูจน์ ความยุติธรรมดำรง ที่เมืองบางระจัน
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
เมื่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสิงห์บุรี ประกาศให้มีการเลือกตั้งตำแหน่งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล ในวันที่ 21เมษายน 2556 อันเนื่องมาจากนายอรรคพันธ์ โมรา นายกเทศมนตรีเมืองบางระจัน 2 สมัยหมดวาระลงอีกครั้ง แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.สิงห์บุรีได้ดำเนินการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ เขาทำอย่างไรกันหรือ
เมืองบางระจันเคยเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลมาแล้ว 2 สมัย แต่ทั้งสองสมัยนั้นเป็นการเลือกตั้งที่ปราศจากคู่แข่ง นายอรรคพันธ์ โมรา จึงได้รับเลือกตั้งมาทั้งสองครั้งอย่างเอกฉันท์ ครั้งนี้จะเป็นการเลือกตั้งสมัยที่3.ที่นายอรรคพันธ์ โมรา ต้องแข่งขันกับผู้สมัครรับเลือกตั้งอีก 2 คน คนหนึ่งเป็นคนที่อยู่ในแวดวงการเมืองสนามใหญ่มาก่อน ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นเป็นคู่แข่งหน้าใหม่แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรสิงห์บุรีของพรรคการเมืองใหญ่หนุนหลัง การต่อสู้สนามเมืองบางระจันระอุ ใครจะอยู่ใครจะไป
ผู้สมัครจับเบอร์ได้แล้วดังนี้ นายอรรคพันธ์ โมรา ได้เบอร์ 1 นส.นิชดา ตันติลักษณ์ ได้เบอร์2 และนายกมล สุขคะสมบัติ ในจำนวนสองคนหลังนี่แหละที่มีประวัติความเป็นมาน่าสนใจ และทำให้การแข่งขันครั้งนี้เข้มข้น ดุเดือดเลือดพล่าน การเมืองบางระจันระอุ ด้วยว่านส.นิชดานั้นได้แรงผลักดันจากนายพายัพ ปั้นเกตุ สส.พรรคเพื่อไทย ของจังหวัดสิงห์บุรี หัวหน้าคนเสื้อแดงจอมขมังข์เวทย์
ส่วนนายกมล สุขคะสมบัติ นั้นเป็นอดีตผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์สนามใหญ่ ซึ่งมีฐานเสียงที่มั่นคงและมีเครดิตที่น่าเชื่อถือทางการเมืองระดับหน้าของเมืองสิงห์บุรีเหมือนกัน แต่เมื่อโดดลงมาเล่นสนามเล็กเช่นนี้ อาจจะเป็นตัวสอดแทรกที่แรงจัดก็ได้ ประกอบกับผู้สมัครสองคนแรกนั้นมีฐานเสียงเป็นคนเสื้อแดงฐานเดียวกัน จะเข้าตำราตาอินกับตานาหรือไม่
นายอรรถสิทธิ์ หล่อสุวรรณ ผอ.การเลือกตั้งจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวรายงาน
เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรมและสมานฉันท์ กกต.สิงห์บุรี จึงได้กำหนดโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ในวันที่ 29 มีนาคม 2556 ณ หอประชุมเทศบาลเมืองบางระจันขึ้น โดยมีคณะกรรมการการเลือกตั้งเทศบาลประกอบด้วย นส.จิราภรณ์ อ่อนสำอางค์ ปลัดเทศบาลเมืองบางระจัน เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งตามตำแหน่ง และกรรมการอีก 4 คนประกอบด้วยนายบำเหน็จ บุษบงค์ นายไพฑูรย์ พึ่งน้อย ร.ต.ต.ประจิม เส็งเมือง และนางกลอยใจ พุฒนาค ดำเนินการ ทั้งนี้อำนวยการการเลือกตั้งโดยนายอรรถสิทธิ์ หล่อสุวรรณ ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัดสิงห์บุรี
ผู้สมัครนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลบางระจันร่วมโครงการ
เมืองบางระจันแบ่งเขตการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ออกเป็น 3 เขต เขตที่ 1.มีผู้สมัคร 17 คน เขตที่2. มีผู้สมัคร 22 คน และเขตที่ 3.มีผู้สมัคร 18 คน กำหนดให้เลือกตั้งเข้ามาเป็นสมาชิกเขตละ 6 คน รวมเป็น 18 คน ในจำนวน 3 เขตนี้มีหน่วยเลือกตั้งรวม 23 หน่วย ประชากรทั้งหมดจำนวน 14,687 คน เป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งนายกเทศมนตรีและสมาขิกสภาเทศบาล จำนวน 11,554 คน และผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้เฉพาะนายกเทศมนตรีอย่างเดียวจำนวน 15 คน
ในเจตนารมณ์ของคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสิงห์บุรี กำหนดโครงการการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ด้วยการเชิญผู้สมัครนายกเทศมนตรี ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล คณะกรรมการการเลือกตั้งครั้งนี้ และกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 23 หน่วย เข้ามาสัมนาร่วมกัน ในวันที่ 29 มีนาคม 2556 โดยมีนายช่วงชัย เปาอินทร์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานและร่วมบรรยายพิเศษเรื่องการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม
พระครูอรรถสิทธิโสภณ
ในการสัมนาครั้งนี้ได้นิมนต์ท่านพระครูอรรถสิทธิโสภณ เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ และเจ้าคณะตำบลจักรสีห์ แสดงปาฐกถาธรรมเรื่องการดำรงความเป็นมิตรก่อนและหลังการเลือกตั้ง โดยเน้นย้ำ ความสามัคคี ความซื่อสัตย์และความกตัญญูรู้คุณแผ่นดิน ด้วยลีลาสนุกสนานกันทั่วหน้า
นายช่วงชัย เปาอินทร์ ประธานกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสิงห์บุรี
นายช่วงชัย เปาอินทร์ ได้บรรยาพิเศษด้วยเนื้อหาที่มุ่งเน้นถึง การอำนวยการเลือกตั้งเพื่อให้เกิดความสุจริตและเที่ยงธรรม โดยได้กล่าวยืนยันว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสิงห์บุรี ได้แต่งตั้งคณะกรรมการการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาล รับรองว่า จะร่วมกันอำนวยการเลือกตั้งให้ถูกต้อง ยุติธรรม ปฏิบัติหน้าที่ต่อผู้สมัครทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ละเว้นหากเกิดการทุจริตและไม่เที่ยงธรรมเกิดขึ้น
คณะกรรมการการเลือกตั้งกล่าวปฏิญาณ
นอกจากนี้ยังได้ทำหนังสือแจ้งไปยังฝ่ายปกครองซึ่งคือผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และตำรวจซึ่งเป็นฝ่ายป้องกันและปราบปรามการทุจริตการเลือกตั้ง กกต.สิงห์บุรีเองก็ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของกกต.ได้สอดส่องและหาข่าวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความไม่สุจริตและไม่เที่ยงธรรม พูดง่ายๆอยากให้ทุกฝ่ายใช้การหาเสียงตามกฎกติกาว่ากันตามกฎหมายที่เปิดช่องให้ทำได้เช่น กำหนดค่าใช้จ่ายสำหรับการหาเสียงของตำแหน่งนายกเทศมนตรีไม่เกิน 450,000 บาท ส่วนสมาชิกสภาเทศบาลวงเงินไม่เกิน 150,000 บาท ถ้าเกินก็จะตักเตือนและดำเนินการตามกฎหมายกำหนด
กล่าวปฏิญาณเชิงสมานฉันท์
กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งทั้ง 23 หน่วย ต้องอนุวรรตตามระเบียบและกฎหมายกำหนด โดยทุกคนต้องทำหน้าที่อย่างซื่อตรง ซื่อสัตย์ และยึดมั่นในความยุติธรรม สุดท้ายประชาชนคนในเมืองบางระจันเองต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาเพื่อให้ไม่เกิดการเอาเปรียบซึ่งกันและกัน และยืนยันว่าผู้สมัครนายกทั้งสามคนนั้นก็รู้จักกันเป็นการส่วนตัวอย่างดี แต่จะไม่ช่วยเหลือหรือลำเอียงให้กับใครคนใดคนหนึ่ง เพราะว่ากลัวตนเองจะถูกตั้งกรรมการสอบ กลัวติดคุกซะเอง ยืนยันว่าไม่ช่วยใครสักคน แต่จะช่วยให้แข่งขันกันเต็มที่ตามกติกาเสมอกัน
นส.ดรุณี ญาณวัฒนา กกต.
ต่อจากนั้น นส.ดรุณี ญาณวัฒนา กรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสิงห์บุรี ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับการจัดทำบัญชีรับจ่าย จนได้เวลาตามสมควรจึงได้เสร็จสิ้นตามโครงการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองบางระจัน ในวันที่ 21 เมษายน 2556 ตามเวลาที่กำหนด
กกต.ประจำจังหวัดสิงห์บุรี กกต.ประจำเทศบาลเมืองบางระจัน กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ทั้งสามส่วนนี้จะอำนวยการการเลือกตั้งให้เกิดความบริสุทธิ์ ยุติธรรม และสมานฉันท์ได้หรือไม่ เหลือเวลาอีกเพียง 23 วัน จะได้รู้และเห็นว่า จริงหรือไม่จริง ชดโช้