หน้าแรก
เว็บบอร์ด
บทความ
รวมรูปภาพ
ติดต่อเรา
ข่าวสาร
หลวงพ่อเปิ่น
วัดบางพระ ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
ดังเรื่องสักยันต์ ”เสือ”
โดย ทิดอ่ำ ดำปลอด เรื่อง-ภาพ
หลวงพ่อเปิ่น
เกจิอาจารย์ดังแห่งลุ่มแม่น้ำนครชัยศรีมีหลายหลากองค์ แต่องค์ที่ดังเรื่องสักยันต์ “เสือเผ่น” นั้นมีเพียงหลวงพ่อเปิ่นแห่งวัดบางพระเท่านั้น ดังเพียงใดแม้หลังมรณกรรมผ่านไปแล้ว 10 ปี ก็ยังมีศิษยานุศิษย์หลั่งไหลไปเคารพกราบไหว้ในวันไหว้ครูหน้ารูปปั้นองค์โตของท่านมืดฟ้ามัวดิน ในบรรดาลูกศิษย์ของท่านนั้นมีกระจายไปทั่วโลก ฝรั่งต่างชาติแห่แหนกันเข้ามาร่วมในพิธีทุกปีมิได้ขาด
หลวงพ่อเปิ่น ภู่ระหงษ์ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2466 เดือน 9 ปีกุน เป็นบุตรคนที่ 9 ในจำนวนพี่น้อง 10 คนของพ่อฟักแม่ยวง บ้านหมู่ 4 ต.บางแก้วฟ้า อ.นครชัยศรี นครปฐมนี่แหละ บ้านท่านอยู่ใกล้วัดบางพระ สนใจในพุทธศาสนามาแต่เด็กๆ พ่อจึงได้สอนสั่งให้เป็นเบื้องต้น จนในที่สุดก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรจำวัดบางพระ ปรนนิบัติหลวงพ่อเจ้าอาวาสเสมอมา วิชาที่ชอบมากได้แก่เรื่องทางไสยเวทย์ คาถาอาคม
ต่อมาไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก สองพี่น้อง สุพรรณบุรี ร่ำเรียนจนเต็มวิชาจึงได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน เพื่อศึกษาวิชาคาถาอาคมและไสยเวทย์เพิ่มเติม แต่พออายุ 20 ปีก็ถูกเกณฑ์ทหารฝ่ายโยธา แต่ไม่ได้ไปเป็นทหารโยธา เนื่องจากทางการประกาศยกเลิกทหารโยธานั่นเอง ท่านจึงอยู่ช่วยบิดามารดาทำนา
ในที่สุดก็กลับเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร์อีกครั้ง เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2491 โดยหลวงพ่อหิ่ม อินทโชโต เจ้าอาวาสวัดบางพระเป็นอุปชา จำวัดบางพระในสมญานามว่า พระฐิตคุโณ ศึกษาพระธรรมคำสอนในพุทธศาสนาจนแตกฉาน ในขณะเดียวกันก็ศึกษาเรื่องอักขระโบราณ รูปแบบการสักยันต์ การลงคาถาอาคม เป็นพระสายไสยาเวทย์ องค์สำคัญรูปหนึ่ง
หลังจากหลวงพ่อหิ่มละสังขารไปแล้ว ท่านได้กราบลาไปธุดงค์ไปยังภาคเหนือ แล้วก็ไปทางภาคใต้ จนได้ไปกราบพระพุทธทาสภิกขุ ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อกลับจากใต้แล้วได้ออกธุดงค์ไปยังป่าตะวันตก อันได้แก่จังหวัดกาญจนบุรี หลังจากนั้นท่านก็หายไปอย่างไร้ร่อยรอย มีสาธุชนเห็นครั้งหลังสุดที่ด่านบ้องตี้ เซซาโว่ เกริงกระเวีย
บ่ายแก่วันหนึ่งที่ริมทุ่งนาข้างวัดทุ่งนางหรอก อำเภอลาดหญ้า จังหวัดกาญจนบุรี ราวๆปีพ.ศ.2504 มีพระอายุราวๆ 40 ปี ปักกลดจำวัดอยู่ ณ ที่แห่งนั้น ได้โปรดสัตว์ที่เข้ามากราบไหว้ ได้เจริญสมาธิจนเป็นที่เคารพของคนลาดหญ้า ในที่สุดพุทธศาสนิกชนได้ร่วมกันนิมนต์ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกเขมา ซึ่งเป็นวัดร้าง ชำรุดทรุดโทรมมาก
ที่วัดโคกเขมานี่เองที่หลวงพ่อเปิ่นได้สร้างพระเครื่องขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นพระเนื้อผงสมเด็จ รูปหล่อ เหรียญพระสังกัจจายน์ และสักยันต์รูปเสือเผ่นจนโด่งดังไปทั่วแผ่นดิน มีลูกศิษย์มากหน้าหลายตา เชื่อมั่นกันนักหนาว่าอยู่ยงคงกระพัน และ ผู้ที่สักยันต์ยังต้องเป็นคนที่อยู่ในศีลในธรรมจึงจะปฏิบัติชอบ
เมื่อเจ้าอาวาสวัดบางพระลัสังขารไปอีก ชาวพุทธผู้ศรัทธาวัดบางพระจึงได้นิมนต์ท่านกลับไปเป็นเจ้าอาวาส ตราบจนวันที่ 30 มิถุนายน 2545 เวลา 10.55 น. ได้ละสังขารไปที่ รพ.ศิริราช รวมอายุ 79 ปี พรรษา 54 ปี ทุกปีจะมีการไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่นที่ลานวัดหน้ารูปปั้นองค์โตของหลวงพ่อ ศิษย์มากหน้าหลายตาจากทั่วสารทิศแห่แหนกันมาร่วมพิธี
ในขณะที่ทำพิธีไหว้ครูด้วยเครื่องเซ่นไหว้มากมายหลายชนิด บรรดาศิษย์ที่สักรูปเสือเผ่นเกิดอาการเอาไม่อยู่คุมสติไม่ได้ เหมือนว่าจะคลั่งไปในบัดดล ตาแดงก่ำ เส้นเลือดปูดโปน เนื้อตัวสั่นเกร็งระริก ในที่สุดจะกระโจนออกไปอย่างกับเสือย่างสามขุมเข้าขย้ำเหยื่อ ทางคณะกรรมการจัดงานได้ตั้งหน่วยควบคุมอาการคลั่งหรือที่วงการพระเรียกกันว่า “ของขึ้น” ไว้คอยกันไม่ให้เลยเถิด แต่ก็ต้องใช้กำลังกันไม่น้อย
งานไหว้ครูหลวงพ่อเปิ่นโด่งดังไปทั่วโลก มีช่างภาพทั้งกล้องภาพนิ่งและทีวีมาจากสารทิศ เพื่อถ่ายทำรายการสารคดีไปออกอากาศยังประเทศของตนเอง กลายเป็นเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์กันไป หลายคนชื่นชอบและศรัทธาก็ลงทุนสักยันต์ด้วย น่าเสียดายที่ไม่ทราบข้อมูลเลยว่า ทีวี ช่างภาพเหล่านั้นมาจากรายการอะไร ถ่ายทอดที่ประเทศไหน
