http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม14,000,146
Page Views16,308,813
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

สวนป่าเกริงกระเวีย2.แสงอรุโณทัยที่ปลายสะพาน

สวนป่าเกริงกระเวีย2.แสงอรุโณทัยที่ปลายสะพาน

สวนป่าเกริงกระเวีย2.

แสงอรุโณทัยที่ปลายสะพาน

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

เวลา 04.10 น.รถตู้ออกจากบ้านพักบนดอยสูงของสวนป่าเกริงกระเวีย มุ่งหน้าไปยังอำเภอสังขละบุรี เพื่อไปชมแสงอรุโณทัยที่ปลายสะพานไม้ หรือสพานมอญ ฝั่งตลาดสังขละบุรี อากาศยามเช้ามืดเย็นสบายแต่ลมแรงจึงต้องเปิดแอร์รถยนต์ ระยะทาง 67 กม.ใช้เวลาเดินทางราวๆ 1ชม 15 นาที ไม่ไกลที่จะไปเยือน

                       

ทำวัตรเช้า(มืด)วัดเสด็จ สังขละบุรี

ก่อนเลี้ยวเข้าตลาดสังขละบุรี มีวัดเสด็จตั้งอยู่ริมถนน พระสงฆ์และสามเณรกำลังทำวัตรเช้ากันอยู่ เห็นแล้วก็รู้สึกประทับใจ จึงขอลงไปถ่ายรูปเก็บไว้ พี่น้องชาวรามัญ หรือชาวมอญ เคร่งศาสนาพุทธมากเป็นพิเศษ เป็นความงดงามที่หาได้ยากจากหลายๆชนเผ่า ใช้เวลาราวๆ 10 นาที จึงเดินทางต่อไปยังปลายสะพานไม้ฝั่งสังขละบุรี

มุมเจดีย์และหน้าจั่วโบสถ์ในม่านหมอก

รถตู้ต้องจอดหน้ารีสอร์ทสามประสบ แล้วเดินลงไปตามทางลาดเทถึงลานแคบๆที่คอสะพาน มีร้านขายกาแฟตั้งอยู่ 2-3 ร้าน ร้านขายอาหารชุดสำรับใส่บาตรพระสงฆ์อีก 2 ร้าน

ถามแม่ค้าว่า“พระสงฆ์จะเดินมาจากทางไหน” ก็ได้คำตอบว่า วันปกติพระจากวัดกระเหรี่ยงจะเดินมาทางสะพานไม้โน่น แล้วก็ชี้ให้เห็น

สะพานมอญ(ไม้)ในช่วงเวลาแสงทไวไลท์(แสงสีน้ำเงิน)

“ส่วนพระมอญจากวัดวังวิเวกการาม จะออกบิณฑบาตบนสะพานมอญหลวงพ่ออุตตะมะ ต้องเป็นวันนักขัตฤกษ์ทางพุทธศาสนาเท่านั้น” ฟังแล้วก็รู้ว่าชวดแน่ ไม่ได้พระสงฆ์เป็นองค์ประกอบภาพสะพานมอญที่ทอดยาวเบื้องหน้าแน่แล้ว

 

ครั้นถามว่า “พระจะออกบิณฑบาตตอนไหนล่ะจ๊ะ” ก็ได้คำตอบว่า “เมื่อมองเห็นลายมือ” ยามนั้นเวลา 05.25 น. อีกไม่กี่นาที ท้องฟ้าจะเปลี่ยนสีที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่กล้องถ่ายรูปสามารถบันทึกไว้ได้ แสงสีน้ำเงิน แสงทไวไลท์ ยามรุ่งอรุโณทัย

สะพานมอญในแสงอรุโณทัยในนาทีแสงสีน้ำเงิน

“มาแล้วๆ” แซงค์ ธนะชัย ศรีแสง บก.นิตยสารดารายุคใหม่ เซียนเรื่องถ่ายรูปแสงทไวไลท์ ร้องบอกกล่าว ทุกคนตั้งกล้องจดจ้องถ่ายรูปกันตามแต่มุมมองของแต่ละคน องค์ประกอบภาพตามประสงค์ เป็นช่วงเวลาเพียง 10 นาที เท่านั้นที่เกิดปรากฎการณ์เช่นนี้ อันเป็นจุดมุ่งหมายหลักในการเดินทางมาเยี่ยมเยือนสะพานมอญเช้านี้

ภาพปลายนาทีแสงทไวไลท์

พอพ้นช่วงเวลา 10 นาทีทอง ก็หันไปสั่งกาแฟร้อนๆมาดื่มกัน บนสะพานมอญทอดยาวสุดขอบฝั่งแม่น้ำซองกาเรียนี้ พี่น้องมอญจากบ้านวังกะบ้าง จากฝั่งตลาดสังขละบุรีบ้าง เดินข้ามไปมากันเหมือนเป็นชีวิตประจำวันของเขา บางคนเดินมาหาซื้อเครื่องใช้ไม้สอย บางคนมาเดินออกกำลังกาย บางคนเทินหัวด้วยถาดดอกไม้แล้วเดินไปขายของที่ตลาด

ภาพหลังนาทีแสงทไวไลท์

“พระมาแล้วจ้า” แม่ค้าขายกับข้าวถุงพลาสติกร้องบอก ท่านเดินมาจากปลายสะพานไม้อีกสะพานหนึ่ง นักท่องเที่ยวในคราบนักบุญเตรียมจตุปัจจัยใส่บาตร เป็นวัฒนธรรมสวยงามของชาวพุทธ ทั้งพี่น้องมอญอพยพและพี่น้องไทยกลางที่เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองสังขละบุรี

สะพานไม้พระกระเหรี่ยง

สาธุ

หลังจากถ่ายภาพพระบิณฑบาตแล้ว ก็นั่งสั่งกาแฟมาดื่มกันต่อ ภาระกิจการเดินทางมาถ่ายรูปที่ปลายสะพานไม้ หรือสะพานมอญ จบสิ้นลง ถ้าเป็นนักท่องเที่ยวทั่วไป ก็จะไปหาอาหารเช้ากินได้ที่ตลาดแล้วท่องเที่ยวต่อได้ แต่ด้วยว่าพวกเรานั้นเป็นกลุ่มสื่อมวลชน จึงมีนัดกินข้าวต้มบนดอยกลางพงไพร ก็เลยจำใจต้องจากลา

สะพานมอญหรือสะพานไม้หลวงพ่ออุตตะมะ

ร้านกาแฟริมลานแคบๆคอสะพานมอญ

จากคอสะพานมอญ (ไม้) ฝั่งตลาดนี้ ได้เห็นเรือนแพลอยฟ่องอยู่กลางสายน้ำ จะกี่สิบกี่ร้อยแพไม่ได้นับจำนวน แต่ดูจากสภาพแล้วน่าจะเป็นแพอยู่อาศัยของพี่น้องชาวมอญที่หากินด้านการประมง บนแหลมฝั่งตรงข้ามจะมองเห็นบ้านเรือนปลูกเต็มพื้นที่ โดยมีองค์มหาเจดีย์พุทธคยาตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ ซึ่งพระเกจิอาจารย์ชื่อดังชาวรามัญ หลวงพ่ออุตตะมะ เป็นผู้สร้างขึ้น ให้เป็นประหนึ่งตัวแทนของเจดีย์พุทธคยาแห่งอินเดีย เป็นพุทธบูชาที่ยิ่งใหญ่อลังการ

ได้เห็นมหาเจดีย์พุทธคยาเด่นเป็นสง่า

ราวๆ 07.30 น. รถตู้ก็ออกเดินทางกลับ ขากลับนี่เองได้ภาพบ้านอิงดอยในม่านหมอกมาฝาก แล้วก็ได้ภาพพระสงฆ์ชาวรามัญออกบิณฑบาตรไปตามถนนหนทาง เมื่อรถไปถึงสวนป่าเกริงกระเวีย ทันไปรับประทานอาหารเช้าบนดอย แสงแดดยามเช้ายังอ่อนระแน้ ชวนให้นั่งตากแดดอุ่นๆได้ต่อไป

ทิวทัศน์จากศาลาที่คอสะพานฝั่งตลาด

วิถีชีวิตพี่น้องมอญอพยพบนสะพานมอญ

หลังอาหารและสัมภาษณ์หัวหน้าสวนป่าเสร็จสิ้น ก็ต้องปฏิบัติตามธรรมเนียม ด้วยการถ่ายรูปหมู่ร่วมกัน เป็นหลักฐานว่ามีใครมาร่วมงานครั้งนี้บ้าง แต่ละคนมีหน้าที่อย่างไร จะได้ติดตามถามหาเรื่องและรูปที่ไปเขียนลงหรือโพสท์ลงในเว็บไซต์ ใดๆ

บ้านอิงดอยในม่านหมอก

ภาพอย่างนี้ที่สังขละบุรีมีทั้งเมือง

ถ่ายตอนเช้าบนดอยสวนป่าเกริงกระเวีย

คณะสื่อมวลชนที่นำโดย นพ.สุวิทย์ เกียรติเสวี (เดลินิวส์)

สวนป่าเกริงกระเวีย มิใช่มีแต่สวนป่าไม้สักปลูก แต่มีที่พักแรมทางให้นักท่องเที่ยวได้มาแรมคืนได้ พร้อมอาหารบริการ(ถ้าสั่งล่วงหน้า) ติดต่อได้ที่ 034-683450 หรือ www.fio.co.th แหม ได้ไปนอนบนดอยกลางดงพงไพรชื่นใจในบรรยากาศเสียจริงๆ อาหารที่พนักงานสวนป่าทำให้กินแต่ละอย่างอร่อยจริงๆๆ

ประการสำคัญ สามารถไปเที่ยวสังขละบุรี หรือด่านเจดีย์สามองค์ได้ แล้วก็กลับมานอนพักที่นี่ ดียิ่งกว่ารีสอร์ทเสียอีก อีกเดือนกว่าๆก็เข้าช่วงปลายฝนต้นหนาว ไปพักก้ไ้อีกบรรยากาศหนึ่ง แต่ถ้าไปในหน้าหนาวๆ ก็ได้อีกบรรยากาศหนึ่ง เลือกได้ตามใจชอบครับ กย-กพ. ดีกว่าหน้าไหนทั้งสิ้น

 

Tags : สวนป่าเกริงกระเวีย1.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view