http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,993,336
Page Views16,301,581
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ประจวบคีรีขันธ์ในม่านฝนตอน2.จากหว้ากอ-หาดวนกร-ด่านสิงขร

ประจวบคีรีขันธ์ในม่านฝนตอน2.จากหว้ากอ-หาดวนกร-ด่านสิงขร

ประจวบคีรีขันธ์ในม่านฝน

ตอน2.จากหว้ากอ-หาดวนกร-ด่านสิงขร

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

             ฝนไล่จากศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ผมบึ่งรถไปตามถนนเพชรเกษม มุ่งหน้าลงใต้ไปตามเสียงเพลง แต่พอถึงกิโลเมตรที่ 335 ก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนลาดยางข้ามทางรถไฟแล้วก็เข้าอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

อนุสาวรีย์พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4

             ในอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ แห่งนี้มีประวัติว่า เมื่อวันอังคารเดือน 9 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะโรง ตรงกับวันที่ 18 สิงหาคม 2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้เคยพยากรณ์ไว้ก่อน 2 ปีแล้วว่า เส้นศูนย์อุปราคาจะผ่านมาใกล้ที่สุดที่บ้านหว้ากอ แขวงเมืองประจวบคีรีขันธ์ ละติจูด 11 องศา 38 ลิปดาเหนือ เส้นลองติจูด 29 องศา 39 ลิปดาตะวันออก จะเกิดคราสจับเวลา 10.4 นาฬิกา จับเต็มดวงเวลา 11 นาฬิกา 36 นาที 20 วินาที  กินเวลา 6 นาที 45 วินาที คราสจะคลายออกเวลา 13 นาฬิกา 13 นาที 45 วินาที

              พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ข้าราชบริพารและทูตานุทูต ได้เดินทางด้วยเรือพระที่นั่งอรรคราชวรเดช เสด็จไปยังบ้านหว้ากอ เพื่อทรงพิสูจน์ว่า การคำนวณของพระองค์แม่นตรงตามที่ได้พยากรณ์ไว้ ทรงเปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพยิ่ง แต่เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ภายหลังเสด็จกลับเพียง 5 วัน ทรงประชวรด้วยโรคมาเลเรียสิ้นพระชนในวันที่ 1 ตุลาคม 2411

                วันที่ 16 พฤษภาคม 2532 คณะรัฐมนตรีได้ผ่านโครงการอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ โดยให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเป็นผู้บริหาร เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2536  พื้นที่รับผิดชอบ 485-1-56.2 ไร่ เพื่อเปิดให้ประชาชนได้เข้าไปศึกษาและเรียนรู้ทุกวัน อัตตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท คนแก่ พระสงค์ นักบวช ยกเว้นให้ฟรี

                ภายในอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า มีฐานการเรียนรู้หลัก 3 ฐานกล่าวคือ กลุ่มวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและพลังงาน กลุ่มดาราศาสตร์และอวกาศ และกลุ่มธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เท่าที่ผมเห็น มีอะควาเรียมชวนให้ชมปลานานาชนิด เป็นพระเอก และกลุ่มดาราศาสตร์ คล้ายท้องฟ้าจำลอง มีชายทะเลยาวเหยียดให้ลงเล่นน้ำทะเลได้ พักผ่อนหย่อนใจ

การใช้สีป้ายถูกหลักการจัดการอุทยานฯ

                 ออกจากอุทยานวิทยาศาสตร์พระจอมเกล้า หว้ากอ ผมขับรถมุ่งหน้าไปตามถนนเพชรเกษม จนถึงกิโลเมตรที่ 346 มีป้ายขนาดใหญ่เขียนด้วยตัวอักษรสีทองบนพื้นสีน้ำตาลเข้ม “อุทยานแห่งชาติหาดวนกร” การทำป้ายสื่อความหมายถูกต้องตามหลักการจัดการอุทยาน เด่นชัดเห็นได้แต่ไกล ไม่หลงทางแน่ๆ ผมเลี้ยวซ้ายเข้าไปเจอด่านเก็บค่าผ่านอุทยานฯ ผมพยายามจะควักบัตรข้าราชการเกษียนให้ แต่เขาเหลือบมองหัวผมแล้วก็ไล่ส่ง “ไปได้คนแก่”

สวนป่ายูคาลิปตัสในอุทยานฯ

                  แต่ค่ารถยนต์เข้าเสียครับ จะให้เดินไปได้ไงตั้งหลายกิโลเมตรถึงจะถึงหาดวนกร รถยนต์ผ่านสวนป่ายูคาลิปตัสต้นเก่าแก่พอควร ซึ่งในผืนป่าอนุรักษ์ประเภทอุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ห้ามมิให้มีการนำเข้าซึ่งพันธุ์พืชหรือสัตว์ต่างถิ่นกำเนิดเข้าไปปลูกหรือปล่อยหรือเลี้ยง แต่เนื่องจากอุทยานแห่งนี้ ทำผิดหลักการตั้งแต่เมื่อเริ่มสำรวจจัดตั้ง

                 โดยยึดเพียงว่ามีหาดวนกรยาวเหยียด มีเกาะรังนกนางแอ่น    (เกาะจาน เกาะท้ายทรีย์ และอ่าวมะค่า แต่ไม่สนใจว่า ดั้งเดิมพื้นที่ส่วนนี้กรมป่าไม้ได้ปลูกป่าในชื่อว่าสวนป่าห้วยทราย สวนป่าห้วยยาง จึงมีทั้งพันธุ์ไม้ในถิ่นกำเนิดและต่างถิ่นกำเนิด(ยูคาลิปตัส) แถมด้วยตั้งเป็นสวนรุกขชาติห้วยยาง ซึ่งก็ปลูกพันธุ์ไม้เพื่อรวบรวมพันธุ์จึงมีทั้งต่างถิ่นและในถิ่นกำเนิด  และสถานีวนกรรมห้วยยาง เพื่อทดลองปลูกป่าด้วยพันธุ์ไม้ทั้งจากในถิ่นกำเนิดและต่างถิ่นกำเนิด

ชายหาดยาวเหยียด

ร้านอาหารในอุทยานแห่งชาติหาดวนกร

                  นอกจากนี้  เดิมพื้นที่นี้ยังเป็นสถานีฝึกอบรมนิสิตคณะวนศาสตร์ (วิชาการป่าไม้)มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  เป็นอันว่าอยากประกาศก็ประกาศ มันจึงเป็นอุทยานแบบไทยๆดังที่เป็นอยู่ทุกวันนี้  ในข้อเท็จจริงน่าจะปล่อยให้เป็นหน่วยราชการเหมือนเดิมก็ดีแล้ว อุทยานแห่งชาติหาดวนกร ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 109 ตอน 126 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2535 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 76ของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ 38 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอทับสะแกและห้วยยาง  เซ็งเป็ด

บ้านพักในอุทยานแห่งชาติหาดวนกร

                   เมื่อตั้งแล้วก็มีที่ทำการอุทยานแห่งชาติ  ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว  ร้านอาหารบริการ  บ้านพักนักท่องเที่ยว ผมเดินไปติดต่อและถ่ายรูป ได้ยินเสียงนกหลายชนิดร้อง และบินผ่านไปมาในขณะที่ฝนพรำๆ ลมสงบ แต่ชื้นแฉะไปทั่ว ชายหาดปราศจากนักท่องเที่ยว สถิตินักท่องเที่ยวปีละประมาณ 60,000 คนเท่านั้น ถ้าไม่สนใจอะไรในเรื่องป่าธรรมชาติมากนักก็พอจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้เหมือนกัน มีหาดทรายชายทะเล คลื่นลมตามฤดูกาล

                    วนรถยนต์ไปตามถนนภายในอุทยานแล้วก็วนออกไปยังปากทาง เข้าถนนเพชรเกษม แล้วไปกลับรถย้อนขึ้นไปทางด่านสิงขร จุดที่แคบที่สุดของประเทศไทย วัดตรงกม.ที่ 340.4 วัดได้แคบสุดเพียง 10.96 กม. แต่ผมไม่ได้ติดใจนักเพียงอยากรู้  รถยนต์มุ่งหน้าไปตามถนนเพชรเกษมขาขึ้นถึง กม.332 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังด่านสิงขร อีก 12 กม.

                    จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขอใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจากกรมป่าไม้เพื่อเปิดด่านสิงขร เนื้อที่ 539 ไร่ เป็นตลาดการค้าชายแดนที่มีความสำคัญ เป็นเส้นทางข้ามคาบสมุทรที่แคบสั้นที่สุด ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายหากต้องไปอ้อมสิงห์โปร์ เป็นการข้ามจากทะเลอันดามันไปยังอ่าวไทยใกล้ที่สุด

ดอกไม้ประดิษฐ์สไตล์พม่า

                     ตามธรรมเนียมของคนอยากรู้ ผมเดินไปชมสินค้าที่ตลาด สีสันแต่ละชิ้นสดใสสไตล์รสนิยมพม่า มีเครื่องประดับ เสื้อผ้า เครื่องประทินผิว ที่มากและถูกก็ผลิตภัณฑ์จากไม้ฝั่งพม่า โต๊ะเก้าอี้ไม้ดูแน่นหนาและสวยงามไม่น้อย พม่ายังมีป่าไม้ให้ตัดมาทำเครื่องเรือนขายได้อยู่ แต่บ้านเราเหลือแต่ตอ 5555

                    ผมอยากแวะอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เพื่อจะได้ไปชมช้างป่าที่กล่าวกันว่ามีมากที่สุดในประเทศไทย  นอกจากนั้นยังมีป้ายโฆษณาว่ามีกระทิง เก้ง กวาง หมาไนย นกกาฮัง นกแก๊ก ฯลฯ อยากพิสูจน์ว่ามันจะจริงหรือ  แต่ด้วยว่าเวลาใกล้หมดออฟชั่น ฝากไว้ก่อนแล้วกัน

กำไรข้อมือพม่า

Tags : ประจวบคีรีขันธ์ในม่านฝนตอน1

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view