หุ่นไล่กาที่แม่สอด แปลก
โดย ป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ
ป่านเป็นคนภาคกลาง แถวอ่างทอง เคยเห็น หุ่นไล่กามาตั้งแต่ยังเด็กๆ พ่อก็ทำไว้ในนาข้าวเพื่อให้ช่วยไล่นกที่กินข้าวกำลังตกรวงใกล้จะเก็บเกี่ยวได้
หุ่นไล่กาของพ่อ ใช้ไม้ไผ่มีท่อนโคนยาวราวๆวาเดียว มัดไผ่ท่อนปลายยาวราวๆ 1 เมตร เป็นแขนที่กางออก เหมือนไม้กางเขนศาสนาคริสต์ แล้วพ่อก็ใช้เสื้อดำๆเก่าๆแขนยาวแต่ขาดกระรุ่งกระริ่ง สวมให้กับหุ่นไม้ริมคันนา ลมพัดมาคราวใด แขนเสื้อและชายเสื้อก็ไหวพะเยิบๆ เหมือนว่ามีคนโบกมือไล่นกในนาข้าว
ความจริง หุ่นที่พ่อทำไม่เคยไล่กา แต่ไล่นกกระจาบ นกกะทิ นกเล็กๆที่ลงมากินข้าวรวงตั้งแต่เริ่มเป็นน้ำนม เขาจะลงเป็นฝูง กรีดกินน้ำนมข้าวจนเหลือแต่เปลือกเม็ดข้าว กลายเป็นรวงลีบ พอข้าวแก่ก็เหลือแต่ก้านรวงหามีเมล็ดข้าวไม่ ป่านเคยถามพ่อว่าทำไมเรียกหุ่นไล่กาล่ะ ในเมื่ออีกากินแต่เนื้อหรือปลาตากแห้งในกระด้ง ไม่เคยเห็นกินข้าวในนาเลย
“จริงๆเรียกว่า หุ่นไล่นกกา มันคล้องจองกันก็เลยเรียกอย่างนี้ ติดปาก”
พ่อเฉลย ป่านจึงเข้าใจ แล้วก็เรียกว่าหุ่นไล่กา ๆๆ ประจวบกับมีหนังทีวีเรื่องหุ่นไล่กา จึงยิ่งจำติดใจ
วันหนึ่ง ททท.ตาก เชิญไปร่วมงานการสืบสานตำนานประเพณีลอยกระทงสาย แล้วเลยไปเที่ยวถึงแม่สอด เมืองชายแดนแสนงามและกำลังเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล เมื่อรถวิ่งผ่านไปยังริมฝั่งเมย พวกเราเห็น “หุ่นไล่กา” สีสันสดใส แต่งองค์ทรงเครื่องแปลกตา ไม่เหมือนที่พ่อเคยทำ ซ้ำยังมีหุ่นเยอะไปทั้งทุ่ง จึงขอไปถ่ายรูปเก็บไว้
ที่แท้ เมืองแม่สอดแต่งหุ่นไล่กาเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของการแถลงข่าวเปิดงานลอยกระทงสายในแม่น้ำเมย อันเป็นประเพณีสองฝั่งเมียนมาร์-ไทย ก็เข้าใจเล่นดีละค่ะ ว่ากันตามจริง แนวคิดนี้ ผมว่าสามารถนำไปใช้ตกแต่งท้องนาทั่วประเทศได้ ไม่ใช่เพื่อไล่นกกา แต่เป็นวัฒนธรรมหนึ่งของภูมปัญญาการปกป้องรวงข้าวในนา ที่ทำให้เป็นเรื่องน่าสนใจได้ สีสันแปลกดีไม่น้อยใช่ไหม