http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 13/03/2024
สถิติผู้เข้าชม13,994,396
Page Views16,302,697
« April 2024»
SMTWTFS
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930    
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ซิตี้แอร์เวย์เชิญร่วมจาริกแสวงธรรม 4 สังเวชนียสถาน

ซิตี้แอร์เวย์เชิญร่วมจาริกแสวงธรรม 4 สังเวชนียสถาน

ซิตี้แอร์เวย์เชิญร่วมจาริกแสวงธรรม 4 สังเวชนียสถาน

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ


              อนุสนธิจากการที่นายอธิคม ชาญวีระวงศ์ บอสใหญ่สายการบินโลว์โคสท์ ซิตี้แอร์เวย์ แถลงข่าวเปิดเส้นทางสายใหม่ กรุงเทพ-เมืองกายา(GAYA) ประเทศอินเดีย เพื่อส่งเสริมการจาริกแสวงธรรมตามรอยพระศาสดา ณ ประเทศอินเดีย-เนปาล 8 วัน เพื่อนมัสการพุทธสังเวชนียสถานทั้ง 4 ตำบล อันได้แก่


              ตำบลสวนลุมพินีวันสถานที่พระพุทธเจ้าทรงประสูติ ตำบลพุทธคยา สถานที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ ตำบลสารนาถ สถานที่พระพุทธเจ้าทรงโปรดปฐมเทศนาแก่ห้าปัญจวรรคี และตำบลกุสินาราสถานที่พระพุทธเจ้าทรงเสด็จสู้ปรินิพพานด้วยอุนุปปานิเสนธาตุ แถมด้วยเมืองสาวัตถีที่พระพุทธเจ้าทรงจำพรรษานานที่สุดถึง 25 พรรษา    

           

ไปกับพระอบอุ่นใจสุดๆ

               ในการแถลงข่าวครั้งนี้ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมเดินทางด้วย www.thongthailand.com เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นด้วย โดยได้ไปขึ้นเครื่องบินขนาด 170 ที่นั่ง ที่สนามบินดอนเมือง บนความสูง 3,000 เมตรแอร์โฮสเตสสาวสวยได้เสิร์ฟกล่องสแนคให้รองท้อง แล้วบินตรงไปยังเมืองกายา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย  ใช้เวลาเดินทางราวๆ 3 ชม.


แอร์โฮสเตสสวย

               ตลอดการเดินทาง ผมนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างมีเป้าหมาย ผมเห็นการรวมตัวของละอองน้ำเป็นเมฆขนาดเล็กแล้วรวมกันหนาตามากขึ้น ธรรมชาติสร้างให้เกิดได้อย่างไรกัน แทบไม่น่าเชื่อว่านี่คือวัฎจักรการเกิดความชุ่มชื้นและฝนคืนสู่แผ่นดิน อำนวยประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติและสรรพชีวิตบนแผ่นดินกว้างใหญ่


                เผลอไปไม่นาน เสียงกัปตันประกาศว่าจะลดระดับการบินสู่เมืองกายา ผมคว้ากล้องถ่ายรูปคู่ใจแล้วเริ่มต้นกดชัตเตอร์เมื่อเห็นเทือกเขาสูงใหญ่เขียวพรืดไปทั่ว ปูด้วยพรมเขียวขจีของเรือนยอดต้นไม้ป่านานาพันธุ์ ลืบเขาที่สลับซับซ้อนปกป้องไว้ให้น้ำฝนคงอยู่ ลดแรงตกกระทบของน้ำฝนสู่ดิน ระบบรากป่าไม้ช่วยดูดซับน้ำไว้ให้เหมือนแทงค์น้ำบนที่สูง


ป่าผืนใหญ่  ลุ่มน้ำสาขาต่างๆ ไหลลงสู่แม่น้ำสายหลัก

                ถ้ามีผืนป่าปกคลุมหนาแน่นดังในภาพที่เห็นนี้ จะมีปริมาณน้ำมหาศาลที่ค่อยๆปลดปล่อยสู่ลำห้วยที่ต่ำกว่า มีคุณภาพดีปราศจากตะกอนดินที่ถูกเปิดทำไร่เลื่อนลอย มีน้ำไหลลงไปได้สม่ำเสมอและมีทุกเวลานาที ทีละนิดๆ แต่เมื่อปริมาณน้ำจากลำห้วยเล็กๆไหลไปรวมกันในลำห้วยใหญ่ ก็ได้ปริมาณน้ำมหาศาล รู้อย่างนี้แล้วอยากมีป่าเยอะๆไหม


                พื้นที่ใดเปิดโล่งน้ำจะนำพาตะกอนดินและทรายไหลลงสู่ลำห้วย ความจุของลำห้วยก็ลดน้อยลงไปตามปริมาณตะกอนที่ทับถม สังเกตให้ดีจะเห็นทรายกองตามลำห้วยทั่วไป เมื่อน้ำไหลไปตามที่ลาดต่ำลงไปยังพื้นราบ ชาวบ้านอาศัยน้ำไปใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภค ทั้งทางตรงและทางอ้อม สรรพสัตว์ที่จำเป็นต้องดื่มน้ำก็เปรมปรีดิ์



นักท่องเที่ยวสูงวัยใจสู้ 75 ปี อิอิ

                เครื่องบินลงจอด ผ่านกรรมวิธีทางการตรวจคนเข้าเมือง แล้วก็เดินไปขึ้นรถบัสแอร์ของอินเดีย ไกด์ปราโมทย์ ซิงห์ ได้รับการแนะนำจากไกด์ไทย สมญานามว่า ทอม รถแล่นผ่านไปตามถนนสายสำคัญมุ่งตรงไปยังเมืองพุทธคยา แต่ด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า ผมนั่งถ่ายรูปจากบนรถที่เคลื่อนไปไม่หยุดหย่อน


สื่อสาวและสื่อหนุ่มใหญ่ส่วนภาพล่างไกด์ไทย-อินเดียจ้า

               อ้อ ในจำนวนนักเดินทางมี 4 สาวใหญ่ใจบุญ นำโดยดร.จันทร์ทิพย์ ปันจะนา ญาณภัทรา เปรมสกุล มาลี เลี้ยงศิริ และคุณทิพย์อาภา หามนตรี เล่าว่ามากันทุกปีเพื่อมาช่วยกันชงน้ำปานะไปถวายให้พระสงฆ์ที่ร่วมสวดมนต์ที่พุทธคยา โดยเก็บเงินสะสมทั้งค่าเดินทาง และเงินเพื่อซื้อชาเพื่อชง มะตูมผง ฯลฯ จะอยู่ปรนนิบัติจนครบ 12 วัน


วัวมีเจ้าของ จึงไม่ใช่วัวทรงของพระเจ้า

                ข้างทาง ผมได้เห็นสาวอินเดียนุ่งสาหรีสีชมพูเดินตามวัวสองตัวของเธอ ได้เห็นวิถีชีวิตที่แปลกตา บ้านเรือนที่ไม่เหมือนบ้านเราในประเทศไทย บ้างก็เป็นอิฐก่อ บ้างก็เป็นบ้านดิน บ้านมุงแฝก สร้างด้วยวัสดุธรรมชาติเท่าที่หามาได้ ไม่พ้นแม้เป็นตึกรามที่สร้างด้วยอิฐแดงๆ แต่...แต่ละหลังช่างเล็กกะทัดรัดเหลือกำลัง บางทีก็น่าสงสัยว่า เขาอยู่กันได้อย่างไร


การสัญจรและบ้านเรือนแบบที่เห็นนี่แหละอินเดีย

               ถ้าผ่านห้วยหนองคลองบึงก็เห็นการทอดแหหาปลา หรือวางลอบดัก ท้องนาปลูกข้าวเหลืองอร่าม บางแปลงเกี่ยวไปแล้ว บางแปลงยังเกี่ยวไม่เสร็จ ข้อน่าสังเกตคือ เขาเกี่ยวข้าวจนเหลือแต่ตอซังติดดิน ทุกส่วนที่เป็นต้นข้าวเขานำไปใช้ประโยชน์ได้ จึงไม่เหลือเก็บไว้เผาไฟเล่นอย่างบ้านเรา อ้อ ชาวนาที่นี่เขานั่งเกี่ยวข้าวนะครับ


วัวทรงของเทพเจ้า



               รถแล่นผ่านกองขยะข้างถนนที่เกลื่อนกล่น มีวัวเทพเจ้าซึ่งเดินหากินอยู่ตัวหนึ่ง บ้านเรือนที่ตากผ้ากันด้วยราวอยู่หน้าบ้าน ตัวบ้านมีสารพัดรูปแบบ เลยไปอีกหน่อยเป็นทุ่งโล่งผมเห็นคนล้อมกันเผาศพ  และร้านขนมที่เปิดขายไปตามริมถนนหนทาง ที่มีแทบทุกหลังคือเตียงเตี้ยๆสานด้วยไม้ไผ่อยู่หน้าบ้าน เอาไว้นั่งเล่นและนอนผิงแดด หาไออุ่น


               ตามกำหนดการจะเข้าที่พักเมืองพุทธคยา แต่เพื่อให้ไม่เสียเวลา จึงมีการปรับเปลี่ยนเป็นเดินทางต่อไปยังเมืองราชคฤห์ เพื่อขึ้นเขาไปสวดมนต์ไหว้พระทำสมาธิ ณ เขาคิชกูฏ โดยได้พระอาจารย์บุญทิ้ง พระนักศึกษาปริญญาเอก จากวัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่ ทำหน้าที่เป็นวิทยากรตลอดการเดินทาง (โปรดติดตามตอนต่อไป)

                 

Tags : ตะลอน..เลย1.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view